ฮาลันด์ เข้าทำเนียบ!เปิดชื่อ 13 สตาร์เคยคว้าคะแนนความสามารถเต็ม10

ฮาลันด์ เข้าทำเนียบ!เปิดชื่อ 13 สตาร์เคยคว้าคะแนนความสามารถเต็ม10
ในเกมลูกหนัง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักเตะจะวาดลวดลายได้อย่างสมบูรณ์แบบถึงขนาดได้คะแนนความสามารถเต็มสิบ

อย่างเก่ง 9 หรือ 9.5 ก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว แต่หากจะมีใครได้สิบคะแนนเต็มก็ต้องบอกว่าเขาคนนั้นโชว์ฟอร์มได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

ต่อการให้คะแนนความสามารถนักเตะ เล กิ๊ป สื่อของฝรั่งเศสขึ้นชื่อลือชาอย่างยิ่งในแง่ของการกดคะแนนพ่อค้าแข้งซึ่งหากมีใครเล่นได้ไม่เอาอ่าว เขาคนนั้นจะได้คะแนนความสามารถที่ต่ำต้อยติดดิน

ด้วยเหตุนี้ หากมีใครที่ได้สิบคะแนนเต็มจากสื่อเมืองน้ำหอมก็สมควรต้องแสดงความยินดีด้วยเนื่องจากไม่บ่อยที่สื่อเจ้านี้จะอวยยศใครง่ายๆ

จนในที่สุด เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็ถูกอัญเชิญให้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบดังกล่าวเรียบร้อยแล้วหลังประกาศศักดายิงแฮตทริคพา แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านยำใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างขาดลอย 6-3 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้น ศูนย์หน้าทีมชาติ นอรเวย์ ยังถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ด้วยที่ยิงสามประตูในเกมเหย้าได้สามนัดติดต่อกัน

พร้อมกันนี้ สามแฮตทริคของเขาจากการลงบู๊แค่ 8 นัดยังไวที่สุดทำลายสถิติที่ ไมเคิ่ล โอเว่น สร้างเอาไว้จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 48 นัดเช่นกัน

ทั้งหมดทั้งปวงนี้ จึงไม่แปลกที่ ฮาลันด์ จะมีชื่อเป็นพ่อค้าแข้งรายที่ 14 ที่ได้สิบคะแนนเต็มจาก เล กิ๊ป ตามหลังนักเตะอีก 13 รายดังนี้

1.ฟร้องค์ โซเซ่ 1988 

2.บรูโน่ มาร์กตินี่ 1988


สองขุนพลทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดยู 21 ได้คะแนนเต็มสิบจาก เล กิ๊ป เป็นคู่แรก และเป็นเกมเดียวกันเนื่องจากต่างก็ระเบิดฟอร์มเด็ดพาทีม เลส์ เบอลส์ คว้าแชมป์ยูโรปี 1988 จากการเปิดบ้านเอาชนะ กรีซ ในนัดชิงชนะเลิศนัดสอง 3-0 โดยในเกมดังกล่าว โซเซ่ เหมายิงสองเม็ดแรกให้ทีมออกนำในนาทีที่ 8 และ 55 ก่อนที่ ฟร็องค์ ซิลแวสตร์ จะซัดเม็ดสามในนาทีที่ 67  ขณะที่ มาร์กตินี่ เฝ้าเสาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ยอมเสียประตูให้ฝ่ายตรงข้าม หลังจากเกมแรกทั้งสองทีมเสมอกันแบบไม่มีสกอร์ในรังของกรีซ

3.โอเล็ก ซาเลนโก้ 1994


ในศึก ฟุตบอลโลก รอบแบ่งกลุ่มที่ อเมริกา กองหน้าทีมชาติ รัสเซีย ประกาศศักดาสอยตาข่ายคนเดียวห้าเม็ดพาทีม หมีขาว ยำใหญ่ แคเมอรูน ยับเยิน 6-1 ขณะที่อีกประตูเป็นผลงานของ ดมิทรี่ ราดเชนโก้ หัวหอกตัวสำรองซึ่งลุกจากม้านั่งไปยิงลูกปิดท้ายก่อนหมดเวลาเก้านาที

4.ลาร์ส วินด์เฟลด์ 1997

ในศึก ยูฟ่าคัพ รอบแรกของซีซั่น 1997/98 น็องต์ ทีมเมืองน้ำหอมบุกไปเสมอกับ อาร์ฮุส ทีมจาก เดนมาร์ก ในเกมแรก 2-2 และกลับมาเล่นนัดสองในรังตัวเองแท้ๆ แต่เจาะตาข่ายอาคันตุกะไม่ได้โดยนายทวาร วินด์เฟลด์ ใช้ทุกส่วนของร่างกายเซฟประตูได้เป็นพัลวันพาทีมกำชัย 1-0 หลังจาก ทอร์เบน พิคนิค สอยตาข่ายได้ในนาทีที่ 46 เขี่ยทีมลูกหนังของลีกเมืองน้ำหอมตกรอบด้วยสกอร์รวม 3-2

5.ลิโอเนล เมสซี่ 2010 , 2012


เป็นรายเดียวที่ได้สิบคะแนนเต็มสองหนโดยหนแรกเป็นเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสองซีซั่น 2009/10 ซึ่งดาวเตะ อาร์เจนไตน์ กระทุ้งคนเดียวสี่เม็ดให้ บาร์ซ่า เอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ที่คัมป์นู หลังจากเกมแรกทั้งสองทีมเจ๊ากัน 2-2 แต่ทีมจากลีกกระทิงดุร่วงตกรอบตัดเชือกโดยพ่าย อินเตอร์ มิลาน ด้วยสกอร์รวม 3-2 และเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พา งูใหญ่ หยิบแชมป์จากการสยบ บาเยิร์น 2-0

จากนั้นในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2011/12  รอบ 16 ทีมที่สนาม คัมป์นู เมสซี่ โชว์โหดพังตาข่าย เลเวอร์คูเซ่น ห้าเม็ดช่วยให้ยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลันกำชัยไปแบบหายห่วง 7-1 โดยเกมแรกทีมจาก ลา ลีกา บุกไปอัด ห้างยา มาแล้ว 3-1 เช่นกัน แต่สุดท้าย บาร์ซ่า ก็จอดป้ายในรอบตัดเชือกโดยพ่าย เชลซี ด้วยสกอร์รวม 3-2 ก่อนที่ สิงห์บลูส์ ของกุนซือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ จะซิวแชมป์จากการดวลลูกโทษพิชิต บาเยิร์น หลังเสมอกัน 1-1 ใน 120 นาที

6.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 2013


กองหน้าทีมชาติ โปแลนด์ พา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผงาดเข้าชิงดำถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2012/13 ได้จากการเข่นคนเดียวสี่เม็ดกำราบ เรอัล มาดริด 4-1 ในเกมรอบตัดเชือกนัดแรก แม้นัดสองพวกเขาจะบุกไปพ่าย ราชันชุดขาว 2-0 ก็ตาม แต่ไม่วายที่ เสือเหลือง จะพ่ายคู่ปรับร่วมชาติ บาเยิร์น ในนัดชิงชนะเลิศ 2-1

7.คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ 2014


แม้จะถูกยืมมาจาก ปอร์โต้ แต่กองกลางชาวบราซิลก็สร้างความประทับใจให้กับสาวกทีม นีซ เมื่อเขายิงประตูได้มากถึงห้าเม็ดพาทีมบุกไปถล่ม แก็งก็อง เละเทะ 7-2 ในเกมลีกเอิง

8.เนย์มาร์ 2018


เป็นไปไม่ได้แน่ที่ทำเนียบนี้จะไม่มียอดกองหน้าอย่าง เนย์มาร์ รวมอยู่ด้วยเมื่อเขาระเบิดฟอร์มซัลโวสี่ประตู และสองแอสซิสต์ให้ เปแอสเช เอาชนะ ดิฌง ไปแบบสบายเท้า 8-0

9.ดูซาน ทาดิช 2019

เกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดสองของซีซั่น 2018/19 อาแจ็กซ์ แผลงฤทธิ์บุกไปคว่ำ เรอัล มาดริด 4-1 โดยที่แม้ ทาดิช จะยิงได้เม็ดเดียว แต่เขาโดดเด่นเกินใครในสังเวียนแข้ง เบร์นาเบว พาทีมเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-3 หลังพ่ายก่อนในเกมแรกคารัง 2-1 ก่อนที่ทีมของ เอริค เทน ฮาก จะปราชัยให้ สเปอร์ส ในรอบตัดเชือกด้วยกฏประตูทีมเยือนจากผลเสมอ 3-3

10.ลูคัส มูร่า  2019

ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ปีเดียวกัน แต่เป็นรอบตัดเชือกนัดสอง มูร่า พลิกสถานการณ์ให้ สเปอร์ส ได้อย่างน่าตกตะลึงกับการซัดแฮตทริคได้สำเร็จในช่วงทดเวลานาทีที่หกให้ ไก่เดือยทอง บุกไปคว้าชัย 3-2 หลังจากแพ้คารังก่อนในเกมแรก 1-0 จึงเป็นอันว่าสโมสรจากลอนดอนเข้ารอบชิงได้ด้วยกฏประตูทีมเยือน แต่สุดท้ายก็ถูก ลิเวอร์พูล สยบ 2-0 ในเกมชิงดำ

11.แซร์จ บาบรี้ 2019

ยังเป็นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มซีซั่น 2019/20 ซึ่ง สเปอร์ส เสียท่าคาบ้านให้กับ บาเยิร์น 7-2 โดย นาบรี้ ส่งบอลเข้าสัมผัสตาข่ายรวมสี่ประตู ขณะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กดได้สองเม็ดซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งสองทีมกอดคอเข้ารอบไปด้วยกันโดย เสือใต้ รั้งตำแหน่งจ่าฝูง แถมพวกเขาได้แชมป์อีกต่างหากจากการเฉือนเอาชนะ เปแอสเช 1-0 จากประตูโทนในนาทีที่ 59 ของ คิงสลีย์ โกมัน

12.คิลิยัน เอ็มบัปเป้ 2021


ในที่สุด เอ็มบัปเป้ ก็ติดโผในข่ายนี้จนได้เมื่อสอยสี่เม็ดให้ทีมชาติ ฝรั่งเศส กระทุ้ง คาซักสถาน 8-0 ที่สนาม ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ จากการทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกกลุ่มดีเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2021 โดยอีกสี่ประตูที่เหลือเป็นผลงานของ คาริม เบนเซม่า สองเม็ด และ อาเดรียง ราบิโอต์ กับ อ็องตวน กรีซมันน์ คนละเม็ด

13.อัลบ็อง ลาฟงต์ 2021

เป็นนายทวารอีกรายที่ได้เข้าสู่หอเกียรติยศเนื่องจากโชว์ลีลาเซฟลูกอันตรายได้อย่างน่ายกนิ้วให้กระทั่งพาทีม น็องต์ เปิดบ้านสยบยักษ์ใหญ่อย่าง เปแอสเช ได้ด้วยสกอร์ 3-1 หลังจากทีมเจ้าบ้านนำห่างไปก่อนอย่างน่าทึ่งถึง 3-0 ในช่วง 45 นาทีแรก


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X