พาเลซ ทำได้ โค่นยักษ์ แมนซิตี้ ซิวเอฟเอคัพหนแรกสร้างประวัติศาสตร์

คริสตัล พาเลส ทำได้ "ล้ม" มหาเศรษฐีอาบูดาบี ครองแชมป์เอฟเอ คัพ เกียรติยศหนึ่งเดียวของทีม ก่อนหน้านี้ดีสุดคือแชมป์ดิวิชั่นสองเดิม"รองแชมป์" เอฟเอ คัพสองสมัย แพ้แมนฯยูฯ ทั้งสองครั้ง ยุคเซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน ปี 1990

ยุค หลุยส์ ฟานกัล ปี2016 ครั้งนี้ third time lucky

ถ้าจะถามว่าอะไรคือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จคงหนีไม่พ้น "วินัย" ในการเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นการรับลึกไม่เปิดพื้นที่ให้ แมนฯซิตี้ มากนัก ไม่เปิดโอกาสแบบชัดๆ แต่ก็ยังโดนส่องไปหลายดอกได้ ดีน เฮนเดอร์สัน เด็กเก่าแมนฯยูฯ ช่วยเซฟ 

แม้กระทั่งจุดโทษจาก โอมาร์ มาห์มูด

ซึ่งคงมีข้อสงสัยว่าทำไมไม่ให้ เอรลิง ฮาลันด์ ยิงปีนี้คงพลาดหลายลูก!!มาห์มู้ดก็พลาดตาม…มีชื่อขึ้นทำเนียบพลาดจุดโทษนัดชิงFA ต่อจาก ….

1910 ชาร์ลี วัลเลส (Aston Villa)

1988 จอห์น อัลดริดจ์ (Liverpool)

1991 แกรี่ ลินิเกอร์ (Tottenham)

2010 เควิน ปรินส์-บัวเต็ง (portsmouth) 

และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด(Chelsea)

2025 Omar Marmoush (Man City)

ประเด็นใบแดงของ เฮนเดอร์สัน จังหวะใช้มือเล่นนอกเขต ก่อนที่ ฮาลันด์ จะถึงบอล...วีเออาร์ อ้างว่า.."ฮาลันด์ ไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะไปทำประตู" ทั้งหลายทั้งปวงในความสำเร็จกับฟุตบอลนัดเดียวคงต้องยกเครดิตให้ เกมแพลน ของ โอลิเวอร์ กราสเนอร์ รับแล้วรอสวน... เรือใบขึ้นเพรสต้องแกะให้ได้มันมีวิธี และการแกะเพรสได้ทำให้พวกเขาได้ประตูชัย บอลลอยโด่งจากแดนหลังมาถึง มาเตตา พักบอลได้แปะให้ คามาดะ ก่อน แทงต่อให้ มาเตต้า จังหวะนั้นวิงแบ๊กจอมบุก มูนยอส เติมขึ้นมาริมเส้นพอดี

ก่อนที่จะวิ่งพาบอลไปถึงริมเขตโทษแล้วตวัดเข้ากลาง มาเตต้า วิ่งพาเปิดพื้นที่เสาแรก บอลถึงเอเซ ตวัดยิงเข้าไป จังหวะลงตัวที่สุด จากนั้นการเดินรถทางเดียวของเรือใบ ไม่ประสบความสำเร็จ ยิงไปตั้ง 23 ครั้ง ติดเซฟ เฮนเดอร์สัน หลายๆครั้ง

ทุกอย่างมันเป็นใจให้ พาเลส จนหมด

กระทั่ง เควิน เดอ บรอยน์ที่นัดนี้เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เกมรุกจะว่าไป....ไม่มีความหลากหลายพอที่จะจัดการพาเลส สุดท้ายต้องยอมรับการจบซีซั่นด้วยมือเปล่า ส่วนพาเลส นั้นจะได้ไปเตะถ้วยยูโรปา ลีก ปีหน้า พร้อมกับอันดับ 6 ของตารางคะแนนซึ่งยังไม่รู้ว่า วิลล่า, ฟอเรสต์ หรือแมนฯซิตี้ 555 ทีหนักกว่านั้นคืออันดับ 7-8 ไม่ได้ไปยูโรปาลีก จากการคว้าแชมป์ของทีมอันดับ12 อย่าพาเลสบังเอิญเหลือเกินนัดสุดท้ายของพวกเขาจะบุกไปเจอทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง แอนฟิลด์ 

เท่ากับชิมลางก่อนเจอกันในการชิงโล่ห์การกุศล

เหนือสิ่งอื่นใด...ถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ คือรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ คริสตัล พาเลส เคยได้แชมป์มา 17 พ.ค. 2025 จะเป็นวันที่ถูกบันทึกถึงความยิ่งใหญ่ ในประวัติศาสตร์สโมสรของชาวดิ อีเกิ้ลส์ ไปอีกนานแสนนาน.......

#JACKIE