มีโอกาสทำสถิติทั้งคู่! เกร็ดน่ารู้ก่อน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ชิงถ้วยเอฟเอคัพ

ในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนนี้เราก็จะได้รู้กันแล้วว่าสีไหนของเมืองแมนเชสเตอร์จะได้เฉลิมฉลองกับถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2022-23 หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกันที่สนาม เวมบลีย์

นี่นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ 2 ทีมดังของเมืองแมนเชสเตอร์โคจรมาเจอกันในนัดชิงดำของถ้วย เอฟเอ คัพ ซึ่งนอกจากประเด็นดังกล่าวมันก็ยังมีเกร็ดบางอย่างที่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับทั้ง 2 ทีมด้วย

- ตาข่ายสะอาด

 เชื่อหรือไม่ว่าตั้งแต่ลงเล่นรอบ 3 ของ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลนี้ มาจนถึงรอบรองชนะเลิศนั้น แมนฯ ซิตี้ ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว เริ่มจากการทุบ เชลซี 4-0, เฉือน อาร์เซน่อล 1-0, ไล่ต้อน บริสตอล ซิตี้ 3-0, ถล่ม เบิร์นลี่ย์ 6-0 และชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0

ถ้าหากในนัดชิงชนะเลิศพวกเขายังเก็บคลีนชีทได้อีกและคว้าแชมป์ไปครองแล้วล่ะก็ แมนฯ ซิตี้ ชุดฤดูกาล 2022-23 ก็จะเป็นทีมที่ 3 ในยุคสมัยของ ฟุตบอล ลีก หรือนับตั้งแต่ซีซั่น 1888-89 เป็นต้นมา ที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ โดยไม่เสียประตูในซีซั่นนั้นๆ เลย ต่อจาก เปรสตัน นอร์ธ เอ็นด์ ชุดแชมป์ในปี 1889 และ บิวรี่ เวอร์ชั่นแชมป์ของปี 1903

- โอกาสสร้างประวัติศาสตร์

หลายคนรู้ดีว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ อย่างเช่นการได้แชมป์ลีกสูงสุด 20 ครั้ง, แชมป์ เอฟเอ คัพ 12 หน, แชมป์ ลีก คัพ 6 สมัย และแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ/ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ครั้ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในหน้าประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ไม่เคยมีฤดูกาลไหนเลยที่พวกเขาจะได้ทั้งแชมป์ ลีก คัพ กับ เอฟเอ คัพ ในซีซั่นเดียวกัน นั่นทำให้ในวันเสาร์นี้พวกเขามีโอกาสที่จะทำอย่างนั้นได้เป็นครั้งแรก

- การลุ้นตามรอย 2 คู่แข่ง

กระแสการลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์ของ แมนฯ ซิตี้ ถูกพูดถึงเยอะมากๆ จนทำให้บางคนอาจจะมองข้ามว่าที่จริงถ้าหากพวกเขาได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลนี้แล้วล่ะก็ มันก็จะถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ "เรือใบสีฟ้า" ได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ในซีซั่นเดียวกัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2018-19

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีเพียง 2 ทีมที่สามารถซิวทั้งแชมป์ลีก และ เอฟเอ คัพ ในซีซั่นเดียวกันได้อย่างน้อย 2 ฤดูกาล นั่นคือ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ที่ทำอย่างนั้นได้ฝั่งละ 3 หน โดยของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกอบด้วยซีซั่น 1993-94, 1995-96 และ 1998-99 ส่วนฝั่ง อาร์เซน่อล เกิดขึ้นในฤดูกาล 1970-71, 1997-98 และ 2001-02

- ฮาลันด์ จะเป็นคนแรก ?

ตลอดเวลาที่ผ่านมามีนักเตะชาวนอร์เวย์หลายคนที่มาค้าแข้งในเกาะอังกฤษ โดยในกลุ่มอดีตนักเตะนั้นชื่อที่อาจจะคุ้นหูหลายคนก็มีอย่างเช่น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ทอร์เร่ อังเดร โพล, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, รอนนี่ ยอห์นเซ่น และ เฮนนิ่ง เบิร์ก เป็นต้น

ถึงกระนั้น มันกลับยังไม่มีนักเตะเชื้อสายนอร์เวย์ที่ทำประตูในนัดชิงดำของเกม เอฟเอ คัพ ได้เลย ส่งผลให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิงสุดโหดของ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสที่จะจารึกชื่อตัวเองอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของส่วนนี้ได้

- สีแดงข่มสีฟ้า

ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า แมนฯ ซิตี้ คือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษในพักหลัง เพราะพวกเขามีความคงเส้นคงวามากกว่าทีมอื่นๆ และได้แชมป์แบบเป็นกอบเป็นกำ แถมยังมีสไตล์การเล่นที่ดุดันอีก

อย่างไรก็ตาม ถ้านับเฉพาะการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในถ้วย เอฟเอ คัพ 6 ครั้งหลังสุดแล้วนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายกำชัยได้ถึง 5 หนเลยทีเดียว โดยครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่เจอกันในเกม เอฟเอ คัพ เกิดขึ้นในรอบ 3 ของฤดูกาล 2011-12 ซึ่งวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะไป 3-2

สำหรับครั้งล่าสุดที่ แมนฯ ซิตี้ สามารถพิชิตคู่อริร่วมเมืองในเกม เอฟเอ คัพ ได้นั้น เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2010-11 โดยตอนนั้นพวกเขาชนะไป 1-0 จากประตูของ ยาย่า ตูเร่ ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 ในนัดชิงดำจนทำให้ได้แชมป์ไปครองในบั้นปลาย

- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport