หมาเห่าไม่กัด,เอลเลียตต์ ซัดอย่างสวย! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เช็คบิล วูล์ฟส์ ลิ่วรอบสี่เอฟเอคัพ

ลิเวอร์พูล จัดแจงตบเท้าเข้ารอบสี่ฟุตบอล เอฟเอคัพ ได้เป็นผลสำเร็จเมื่อยกทัพบุกมาเฉือนชนะ วูล์ฟส์ 1-0 ที่สนาม โมลินิวซ์ กราวด์ ในการฟาดแข้งรอบสามนัดรีเพลย์เมื่อวันอังคารที่ 17 ม.ค.

แม้รูปเกมจะเป็นทีม หมาป่า ที่ครองบอลได้เหนือกว่า แต่มันไม่เป็นปัญหาสำหรับ หงส์แดง ที่ได้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตะบันประตูโทนตั้งแต่ต้นเกมพา แชมป์เก่า ทะลุเข้ารอบได้เป็นที่เรียบร้อย

1. หมาป่า โรเตชั่นเจ็ดชีวิต

จูเลน โลเปเตกี นายใหญ่ วูล์ฟส์ ตัดสินใจหมุนนักเตะเจ็ดรายลงบู๊กับ ลิเวอร์พูล ในเกมชี้ชะตาฟุตบอลถ้วยน็อกเอาต์เมื่อเทียบจากศึก พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่พวกเขาเฝ้าบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ได้แบบหวุดหวิด 1-0

รวมแล้ว สี่รายที่ยังได้ลงสนามประกอบไปด้วย โชเซ่ ซา , เนธาน คอลลินส์ , รูเบน เนเวส และ ชูเอา มูตินโญ่ ขณะที่ดาวดังอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า  รอถูกเรียกใช้งานที่ข้างสนาม

กระนั้นก็ดี หากจะเทียบไลน์อัพจากเกมแรกที่พวกเขาเสมอกับ เร้ด แมชีน 2-2 ก็มีการเปลี่ยนนักเตะรวมสองรายได้แก่ ซา กับ มูตินโญ่ ที่ได้คืนโผ 11 คนแรกแทนที่ มาติย่า ซาร์คิช กับ กอนซาโล่ เกเดส

2. หงส์ ปรับโผตัวจริงแปดตำแหน่ง

ลิเวอร์พูล เปลี่ยนผู้เล่น 11 คนแรกมากถึงแปดรายจากเกมล่าสุดที่พวกเขาทำศึก พรีเมียร์ลีก และโดน ไบรท์ตัน เปิดบ้านไล่ต้อน 3-0 เหลือแค่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ , ติอาโก้ และ โคดี้ กัคโป ที่ยังได้ลงบู๊

เริ่มจาก ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่ได้เฝ้าประตู ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ สวมบทกัปตันพร้อมรับหน้าที่เป็นแบ็คขวาโดยมี คอสตาส ซิมิคาส เล่นอยู่ทางซ้าย ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็นหน้าที่ของ โจ โกเมซ กับ โกนาเต้

ในแผงมิดฟิลด์ สเตฟาน บายลิช ได้รับโอกาสให้สำแดงฝีเท้าร่วมกับ ติอาโก้ และ นาบี้ เกอิต้า ขณะที่สามหัวหอกประกอบด้วย ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ,  กัคโป และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์

อย่างไรก็ดี ในซุ้มม้านั่งสำรองของทีมเยือนยังอัดแน่นไปด้วยดาวดังทั้ง อลิสซง , โฌแอล มาติ๊ป , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เคอร์ติส โจนส์ , ฟาบินโญ่ , เบน โด๊ค , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ โม ซาลาห์

3. มิลเนอร์ เข้าทำเนียบ หงส์ชรา

ต่อการได้ลงสนามในเกมนี้ มิลเนอร์ คุณน้าสารพัดประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล จึงถือเป็นพ่อค้าแข้งของสโมสรรายที่เจ็ดที่มีอายุเกินกว่า 37 ปีที่ถูกเรียกใช้บริการโดยไม่นับรวมผู้เล่นในตำแหน่งนายทวาร

เอเฟรม ลองเวิร์ธ 40 ปี

โดนัลด์ แม็คคินเลย์  37 ปี

ทอมมี่ ลูคัส  37 ปี

บิลลี่ ลิดเดลล์  38 ปี

เคนนี่ ดัลกลิช  39 ปี

แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ 37 ปี

4. เม็ดเดียวก็เสียวได้


แม้จะกลับมาเล่นเป็นเจ้าถิ่นหลังบุกไปเสมอกับ ลิเวอร์พูล ได้ 2-2 ที่ แอนฟิลด์ แต่ทีม หมาป่า ทำเอาสาวกผิดหวังอย่างแรงที่ไม่อาจเด็ดปีก หงส์แดง ได้ทั้งๆที่เป็นฝ่ายบุกได้มากกว่าตั้งแต่ต้นจนจบ

จาก 45 นาทีแรก ทีมของกุนซือสแปนิชเสียท่าให้ลูกยิงไกลของ เอลเลียตต์ ตั้งแต่นาทีที่ 13 ก็จริง แต่พวกเขาคุมจังหวะเกมได้ดีกว่าจากการครองบอล 52:48% แต่เป็น เร้ด แมชีน ที่ได้ส่องยิงมากกว่า 5:4 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ วูล์ฟส์ ยิงไม่เข้าเป้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ในส่วนของ หงส์แดง เป็นเรื่องดีที่มีสถิติบ่งชี้ว่าเกมในครึ่งแรกที่ โมลินิวซ์ พวกเขาชนะการดวลมากถึง 63% ผิดกับตลอดทั้ง 90 นาทีนัดแพ้ ไบรท์ตัน ในลีกซึ่งทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ชนะการดวลแค่ 41% เท่านั้น

จากนั้นหลังจบเกม 90 นาทีของการรีเพลย์แมตช์ เอฟเอคัพ รอบสาม หมาป่า ยังครองบอลได้เหนือกว่าในสัดส่วน 58:42% เช่นเดิม แต่เจ้าบ้านพลิกมาเป็นฝ่ายได้เข่นประตูมากกว่าถึง 11 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ตะบันรวมเป็น 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้งจากที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก

ฉะนั้นแล้ว ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า วูล์ฟส์ เล่นกันได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง เพียงแต่ไม่สามารถยิงประตูคืนได้ซึ่งนี่เองที่ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของสโมสร และมันเรื้อรังมาหลายปีแล้วโดยที่ โลเปเตกี จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในจุดนี้ให้ได้เพื่อทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ได้แต่ป้อฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่มีพิษสงในการคลำเป้า

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะถึงขณะนี้แล้ว  วูล์ฟส์ ยังเป็นทีมที่ยิงประตูไม่ได้เรื่องเหมือนเคยดังจะเห็นว่าในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้พวกเขาส่งบอลเข้าประตูคู่แข่งได้น้อยที่สุดแค่ 12 เม็ดเท่านั้นจากการลงสนาม 19 นัด เฉลี่ยแล้วทีม หมาป่า ยิงได้ไม่เกินนัดละประตูซึ่งถือเป็นสถิติที่เลวร้าย และยากที่ทีมจะประสบความสำเร็จได้

5. ได้เวลาสางแค้น ไบรท์ตัน

หลังบุกไปพิชิต วูล์ฟส์ ได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล จะได้ล้างตา ไบรท์ตัน ในช่วงปลายเดือนนี้เนื่องจากการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบสี่ ผู้ชนะที่ โมลินิวซ์ จะต้องบุกไปเยือน นกนางนวล ในวันที่ 29 ม.ค.

แต่ก็นั่นแหละ ชั่วโมงนี้ทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กำลังมีผลงานที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งโดยห้านัดหลังในทุกรายการ นกนางนวล ชนะถึงสี่นัด และแพ้นัดเดียวเท่านั้นในเกมโดน อาร์เซน่อล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก บุกมาอัดถึงถิ่น 4-2

อย่างไรเสีย ก่อนที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมองไปถึงการเอาคืน ไบรท์ตัน พวกเขายังมีภารกิจสำคัญในลีกสุดสัปดาห์นี้ที่ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ก่อนที่จะได้ฟาดเกือกกับคู่ปรับเก่าที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม อีกหนในศึกฟุตบอลถ้วย


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport