ก่อนจะถึงครั้งล่าสุด! ย้อน 2 แชมป์ยูโรปา ลีก ของสเปอร์ส ปี 1972-1984

สมหวังแล้วสำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากล่าสุดพวกเขาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก จนทำให้พวกเขาได้แชมป์รายการระดับ เมเจอร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แชมป์ ลีก คัพ เมื่อฤดูกาล 2007-08

ทั้งนี้ หากนับเฉพาะรายการ ยูฟ่า คัพ/ยูโรปา ลีก แล้วล่ะก็ นี่ก็ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ สเปอร์ส ได้ถ้วยนี้ ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ ลิเวอร์พูล, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งเราจะมาย้อนไปดูถึงความสำเร็จในรายการนี้ 2 ครั้งก่อนของพวกเขากัน

- ฤดูกาล 1971-72

สเปอร์ส ได้สิทธิ์ลงเล่น ยูฟ่า คัพ ในซีซั่นนั้นจากการได้อันดับ 3 ของศึก ดิวิชั่น 1 (ลีกสูงสุดของอังกฤษในสมัยนั้น) เมื่อฤดูกาล 1970-71 ซึ่งที่จริงในลีกพวกเขาผลงานดร็อปลง หลังจากจบซีซั่น 1971-72 ด้วยการเป็นเพียงอันดับ 6 ขณะที่ใน ลีก คัพ ก็จอดป้ายที่รอบรองชนะเลิศ ส่วน เอฟเอ คัพ กลับไปถึงเพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ในศึก ยูฟ่า คัพ ทีมของกุนซือ บิลล์ นิโคลสัน เล่นได้โดดเด่น พวกเขาผ่านทีมอย่าง น็องต์ส จาก ฝรั่งเศส ในรอบ 2, ดับ ราปิด บูคาเรสต์ ของ โรมาเนีย ในรอบ 3 และผ่าน เอซี มิลาน ในรอบรองชนะเลิศมาได้

คู่ชิงของพวกเขาไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมร่วมลีกนั่นเอง โดยสมัยนั้นเกมแต่ละรอบของ ยูฟ่า คัพ เตะกันแบบเหย้า-เยือน นั่นรวมถึงรอบชิงชนะเลิศด้วย ซึ่งเกมแรก สเปอร์ส บุกไปชนะได้ก่อน 2-1 ก่อนจะกลับมาเสมอ 1-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน จนทำให้ชนะด้วยสกอร์รวม 3-1

มาร์ติน ชิเวอร์ส คือพระเอกของ สเปอร์ส ในความสำเร็จครั้งนั้น หลังจากทำไปถึง 8 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 11 เกม โดยในจำนวนนั้นคือการเหมา 2 ลูกในนัดแรกของรอบชิงดำ รองลงมาคือ อลัน กิลซีน ที่ทำได้ 6 ลูกจาก 11 เกม

- ฤดูกาล 1983-84

หลังจากได้อันดับ 4 ใน ดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาล 1982-83 สเปอร์ส ก็ได้สิทธิ์ลงเล่น ยูฟ่า คัพ โดยคู่แข่งเด่นๆ ที่พวกเขาคว่ำได้มีอย่างเช่น พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในรอบ 2, บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 3 และ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท ทีมจากโครเอเชียที่เป็นทีมแกร่งในสมัยนั้นในรอบรองชนะเลิศ

ในรอบชิงดำ สเปอร์ส ต้องมาเจอกับ อันเดอร์เลชท์ ทีมแกร่งจากเบลเยียม ซึ่งเกมแรกที่ เบลเยียม จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 และพอมาเตะกันที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน สกอร์ในช่วง 90 นาทีก็จบที่ 1-1 เหมือนกัน ทำให้ประตูรวม 2 นัดเจ๊ากัน 2-2 และตอนต่อเวลาพิเศษก็ไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ ทำให้ต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ

ท้ายที่สุดแล้ว สเปอร์ส ยิงได้แม่นกว่าจนชนะในช่วงดวลเป้าไป 4-3 ซึ่งคนสุดท้ายของฝั่ง ไฮจ์ดุ๊ค ที่ยิงพลาดจนเป็นการมอบแชมป์ให้กับ สเปอร์ส ได้แก่ อาร์เนอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น บิดาของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น อดีตกองหน้า เชลซี นั่นเอง

มาร์ค ฟัลโก้ คือคนที่ทำประตูให้กับ สเปอร์ส ในการเล่น ยูฟ่า คัพ ซีซั่นนั้นได้เยอะที่สุด หลังกดไป 6 ลูกจาก 11 นะด ขณะที่ สตีฟ อาร์ชิบัลด์ ก็โดดเด่นพอๆ กันจากผลงาน 5 ลูก ส่วน อลัน บราซิล กับ โทนี่ กัลวิน ทำได้คนละ 4 ประตู

- เด็กเกร็ดบอล -