come on you Spurs....หรือ oh When Spurs go ,marching in ดังกระหึ่มซาน มาเมส
หลังจาก 17 ปีของการห่างหายแชมป์นับจากลีกคัพ 2008
ส่วนยูฟา คัพ ก็ 1984 หรือ 41 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นผมอยู่ มัธยมศึกษาปีที่3
สเปอร์ส ชุดนั้นติดตาหลายคน
เกลน ฮอดเดิ้ล, สตีฟ อาร์ชิบัลด์, ออสซี อาร์ดิเลส
เรย์ เคลเมนส์ gk เด็กหงส์เดิม
จะว่าไปมันมีฉากเหตุการณ์บางอย่างคล้ายๆกัน
นัดชิงยูฟา คัพ 1984 นัดสอง
กับ อันเดอร์เลชท์ ยอดทีมเบลเยี่ยม
ตัวหลักทีมไก่เดือยทองเจ็บกันหลายคน
เกลน ฮอดเดิล เจ็บ, เรย์ เคลเมนส์ เจ็บ
เซนเตอร์ตัวกลั่น สตีฟ เพอร์รีแมน แบน
การ์ธ ครูกส์ เจ็บ... ออสซี อาร์ดิเลส ไม่ฟิต สำรอง
ก่อนชิงยูฟา คัพ 1984 นัดสอง
สุดท้ายเสมอ 1-1 รวมสองนัด 2-2
ยิงจุดโทษตัดสิน สเปอร์ส แม่นกว่า ชนะ อันเดอร์เลชท์
คว้าแชมป์ ยูฟา คัพ สมัยที่สอง
ตัดกลับมายุคปัจจุบัน
ดูคล้ายๆอยู่ คูลูเซฟสกี้ ผ่าตัด...เจมส์ แมดดิสัน เจ็บ
ดาวโรจน์ ลูคัส เบิร์กวัลล์ เจ็บ เหมือนขาดตัวหลักในทีม
สุดท้ายผลจบเหมือนกับปี1984
ทอตแน่มฮอตสเปอร์ คว้าแชมป์ยูฟา/ยูโรปาลีก สมัย3
1971-72,1983-84 และล่าสุดพวกเขาทำได้
ครึ่งแรกบอลไร้คุณภาพ แต่ไก่นำ1-0
จะว่าไป 45 นาทีแรก ไม่น่ามีประตูเกิดขึ้น
ทั้งสองทีมสลับกันทำบอลเสีย
บอลเข้าแดนสาม ไม่มีคุณภาพ ไม่มีลุ้น
เกมดูเหมือนขาดคุณภาพจากสองฝั่ง
นักข่าวฝรั่งจะบอกว่า scrappy game แย่ทั้งสองฝั่ง
แต่แล้วสเปอร์ส ก็ได้ประตูเฉย...
จังหวะบอลด้านข้างของ ปาป ซาร์ ที่เสาแรก
เบรนนัน จอห์นสัน ชิงจังหวะตัดหน้า แต่บอลไปโดน ชอว์
สุดท้ายเหมือน จอห์นสัน สัมผัสบอลเข้าประตู
สุดปัญญา โอนานา ....ไก่นำ 1-0 น.42
ตอนแรกเหมือนจะให้ ชอว์ ยิงตัวเอง แต่สุดท้าย...
ยูฟา ยืนยัน จอห์นสัน ยิงเข้า
ครึ่งหลังผีเหนือกว่า...
ตามเชิง แมนฯยูไนเต็ด ต้องการประตูคืน
พวกเขาคุมเกมบุกจากวิงแบ๊กสองฝั่ง
ทำได้ดี...มีโอกาสลุ้นจากลูกตั้งเตะและครอสด้านข้าง
จังหวะ วิคาริโอ ชกบอลไม่ดี ฮอยลุนด์ โหม่งสวน
บอลกำลังจะลอยเข้า...แต่ ฟาน เดอ เฟน วิ่งไปสกัดได้
สเปอร์สรอดพ้นการเสียประตูหวุดหวิด
บรูโน ว่างๆ โหม่ง ลูกครอส มาสราอุย ออกหลัง
อีกจังหวะตัวสำรอง การ์นาโช ยิงติดเซฟ วิคาริโอ ออก
เกมเป็นของแมนฯยูไนเต็ด สิ้นเชิง
ส่วนสเปอร์ส รับอย่างเดียว รอสวนกลับ
แม้มี ซน ฮึง มิน ลงมาก็ไม่ได้เปรียบอะไร
ทั้ง 11 คนรับลึก...ป้องกันสุดชีวิต
คิดดู10 นาทีท้ายเปลี่ยนเซนเตอร์ ดันโซ ลง
แทน จอห์นสัน ปีกตัวรุก....ชัดเจนเล่นเพื่อผล
อันนี้ว่าไม่ได้ ตามแทกติกของเกม
จะว่าไป....แมนฯยูไนเต็ด ไม่เด็ดขาดในครึ่งหลัง
พวกเขาสร้างโอกาสทองสามสี่ครั้งที่น่าตีเสมอ
ฮอยลุนด์ โหม่ง... ฟาน เดอ เฟน สกัดก่อนข้ามเส้น
การ์นาโช ยิง ...วิคาริโอ ปัดออก
ลุค ชอว์ โขก....วิคาริโอ พุ่งปัด
กาเซมิโร วอลเลย์ ช่วงทดเวลา...บอลเข้าข้างตาข่าย
สเปอร์สยิง3 ครั้ง ครองบอล27%!!!!!
อะไรก็แล้วแต่....นี่คือเกมที่ความแตกต่างคือ "ยิงประตู"
สเปอร์ส ฉวยโอกาสได้ช่วงท้ายครึ่งแรก และนั่นคือประตูชัย
นัดชิงชนะเลิศก็เป็นแบบนี้ ถ้าเกมไม่ต่าง ยื้อกันไปมา
สุดท้าย...การยิงให้เข้าก็เพียงพอ
ทอตแน่มฮอตสเปอร์ ทำได้....ไม่ใช่ SPURSY อีกแล้ว