สรุป 5 ประเด็นสำคัญหลังเกม สเปอร์ส เชือด แมนยู 1-0 คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก 2024/25 แบบหักปากกาเซียน พร้อมตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ รูเบน อโมริม พ่าย แอนจ์ ปอสเตโคกลู 4 เกมติด
เบรนแนน จอห์นสัน สวมบทฮีโร่ สเปอร์ส ด้วยการซัดประตูโทนพา ไก่เดือยทอง ตีปีกคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีด้วยการกำราบ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในการฟาดแข้งนัดชิงดำถ้วย ยูโรปา ลีก ที่สนาม ซาน มาเมส เมื่อวันพุธที่ 21 พ.ค.พร้อมคว้าโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าส่งผลให้ ผีแดง ของ รูเบน อโมริม มือเปล่าทั้งๆที่แพ้เป็นเกมแรกในถ้วยใบนี้ ขณะที่ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือทีมตราไก่ที่ย้ำแค้น เร้ด เดวิลส์ ได้สี่เกมติด แถมทำได้ตามราคาคุยด้วยการนำโทรฟี่มามอบให้กับสโมสรในปีที่สองได้สำเร็จ
1. ไก่พลิกโผจับ ซน นั่งสำรอง
ปอสเตโคกลู กุนซือทีม สเปอร์ส สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการจับ ซน ฮึง มิน นั่งข้างสนามโดยเลือกส่ง ริชาร์ลิซอน ออกสตาร์ต
แม้ในการซ้อมโชว์สื่อเมื่อวันก่อนดูเหมือนนายใหญ่ออสซี่จะส่งดาวยิงทีมชาติ เกาหลีใต้ ลงบู๊ แต่สุดท้ายเขาจัดให้สตาร์แซมบ้าล่าตาข่ายร่วมกับ โดมินิค โซลันกี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะกัปตันพลังโสมมีปัญหาทางด้านความฟิตในระยะหลังโดยเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่เกมเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.
จากการดร็อป ซน ออกจากโผตัวจริงทำให้ คริสเตียน โรเมโร่ กองหลังอาร์เจนไตน์ได้รับบทกัปตัน ไก่เดือยทอง
อย่างไรก็ดี ทีมลูกหนังของกรุงลอนดอนขาดคีย์แมนหลายรายที่บาดเจ็บ และลงเล่นเกมนี้ไม่ได้ทั้ง เดยัน คูลูเซฟสกี้ ,เจมส์ แมดดิสัน และ ลูคัส เบิร์กวาลล์
2. อโมริม เดิมพันด้วย ชอว์ - เมาท์
อโมริม กุนซือ แมนยู วางหมากแบบน่าช็อกเช่นกันด้วยการเลือกใช้งาน เมสัน เมาท์ ลงเล่นเป็นตัวจริงเช่นเดียวกับ ลุค ชอว์ โดยอดีตพ่อค้าแข้งทีม เชลซี เคยผ่านเกมใหญ่ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2020/21 ที่ สิงห์บลูส์ เฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 มาแล้ว รวมทั้งการลงเล่นให้ อังกฤษ ในเกมชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ที่พ่ายการดวลลูกโทษต่อ อิตาลี
อย่างไรก็ดี เลนี่ โยโร่ กองหลังเฟรนช์แมนที่หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็น 11 คนแรกตามคาด และเป็นนักเตะ ผีแดง อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง (19 ปี 189 วัน) ที่ได้ออกสตาร์ตเกมชิงถ้วยยุโรปต่อจาก ไบรอัน คิดด์ ซึ่งมีอายุครบ 19 ปีพอดีในวันเกิดซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1968 ได้ด้วยการยำใหญ่ เบนฟิก้า 4-1
ด้าน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับสโมสรเป็นเกมที่ 101 ในรอบสองปีหลังซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดของนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ยกเว้นนายทวารสำหรับทุกรายการ (แซงหน้า วิลเลี่ยม ซาลิบา หนึ่งนัด)
สำหรับ โจชัว เซิร์กซี่ ที่ฟิตสมบูรณ์แล้วเช่นเดียวกับ ดีโอโก้ ดาโลต์ มีชื่อเป็นตัวสำรองทั้งคู่หลังเดินทางมากับทีม
3. ตรงกรอบครั้งเดียวพาไก่แชมป์
เปิดฉากขึ้นมา สเปอร์ส เริ่มเกมได้ดีกว่าโดยเป็นฝ่ายบุกกดดันใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่องในช่วง 10 นาทีแรกซึ่งส่งผลให้แผงหลังของ ผีแดง ออกอาการทุลักทุเลหลายจังหวะ
อย่างไรก็ดี หลังรอดพ้นการเสียประตู และเริ่มตั้งลำได้ นับจากนั้น ผีแดง ก็มีรูปเกมที่ดีกว่าโดยเฉพาะการอาศัยความคล่องตัวของ อาหมัด ลากบอลทำเกมรุกทางกราบขวาได้อย่างจี๊ดจ๊าดหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายของ ผีแดง ยังไม่ลงล็อค
จนในที่สุด นาทีที่ 42 หลังจากเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกอาการรวนเรหลายหน พวกเขาก็เสียประตูจนได้จากลูกโยนยาวของ ป๊าป ซาร์ ที่ เบรนแนน จอห์สัน โฉบเข้าฮอสแม้จังหวะสุดท้ายบอลจะกระดอนมาโดนหน้าอก ชอว์ เข้าประตู แต่ ยูฟ่า ยกเครดิตให้กับตัวรุกของ ไก่เดือยทอง
ด้วยเหตุนี้ จอห์สัน จึงได้ฉลองการลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ สเปอร์ส ในซีซั่นนี้นัดที่ 50 พอดี และเป็นนักเตะ เวลส์ รายที่สองที่ได้ออกสตาร์ตเกมชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปา ลีก ต่อจาก ไซม่อน เดวิส ที่ได้ลงบู๊ให้ ฟูแล่ม พ่าย แอตเลติโก มาดริด 2-1 ในปี 2010
ขณะเดียวกัน ประตูดังกล่าวนับเป็นประตูแรกของ ไก่เดือยทอง ในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยห้าครั้งหลังด้วยเนื่องจากพวกเขาสอยตาข่ายไม่ได้เลยในนัดชิงถ้วย คาราบาว คัพ ปี 2009,2015 และ 2021 รวมทั้งนัดชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2019
สำหรับ ผีแดง หลังตาข่ายขาดทำให้พวกเขาเสียประตูก่อนคู่แข่งเป็นครั้งที่ห้าในรายการนี้ของซีซั่นนี้โดยสี่เกมก่อนหน้านี้พวกเขาพลิกกลับมาคว้าชัยสามนัด และเสมอหนึ่งนัด
จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำหน้า 1-0 แม้สถิติจะเป็นรองทุกด้านทั้งการครองบอลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่าบาน 63%:37% และเป็น ผีแดง ที่ได้ยิงมากกว่า 5:3 ครั้งรวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 2:1 ครั้งเช่นกัน
จะอย่างไรตาม เกมนี้แฟน ปีศาจแดง น่าจะเล็งเห็นตรงกันว่า อโมริม เลือกนักเตะอย่างสะเพร่าไปนิดโดยเฉพาะการส่ง ชอว์ ออกสตาร์ตทั้งๆที่แบ็คซ้ายจอมเดี้ยงไม่ได้มีฟอร์มที่เข้าท่าเลยหลังหายเจ็บดังจะเห็นว่าเกมในครึ่งแรกกับ สเปอร์ส เขาออกอาการเหวอหลายหน
4. ผีสร้างสถิติใหม่
สถิติในที่นี้ไม่ใช่แง่บวกแต่เป็นแง่ลบเพราะหลังแพ้ สเปอร์ส 1-0 ชวดโทรฟี่ ยูโรปา ลีก หลังไร้พ่ายมาตลอดในรายการนี้ ผีแดง มีผลงานไม่เอาอ่าวในการเผชิญหน้ากับ ไก่เดือยทอง เนื่องจากเป็นเกมที่สี่ติดต่อกันแล้วในทุกรายการของซีซั่นนี้ที่ อโมริม เสียท่าให้กับ ปอสเตโคกลู
หากรวมการปะทะกันของสองทีมก่อนหน้านี้เข้าไปด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะ สเปอร์ส รวมเจ็ดนัดเข้าไปแล้วในทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 5) และเป็นสถิติใหม่ในทางเลวร้ายเนื่องจากเท่าที่ผ่านมา ผีแดง ไม่เคยไร้ชัยในเกมบู๊กับ ไก่เดือยทอง นานถึง 7 นัดติดต่อกันมาก่อน
นอกจากนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ เร้ด เดวิลส์ เช่นกันที่พวกเขาแพ้ สเปอร์ส สี่นัดรวด
หลังจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเหนือกว่า สเปอร์ส ทุกด้านในแง่ของสถิติทั้งการครองบอล 72.9%:27.1% และได้ยิงมากกว่าถึง 16:3 ครั้ง รวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบมากกว่า 6:1 ครั้งซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่ อโมริม แก้ไขให้กับทีมไม่ได้คือการทำประตูที่ไม่มีพิษสงเลยแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ ผีแดง แพ้เป็นเกมที่ 20 ของทุกรายการในซีซั่นนี้ซึ่งเลวร้ายที่สุดต่อจากซีซั่น 1973/74 ที่พวกเขาแพ้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ 22 นัด และตกชั้น
สำหรับ สเปอร์ส การคว้าแชมป์ได้สำเร็จแลกมาด้วยสถิติย่ำแย่ที่สุดสามด้านสำหรับสโมสรที่ลงเล่นเกมชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปนับตั้งแต่ซีซั่น 2009/10 ทั้งได้สับไกแค่ 3 ครั้ง และครองบอลได้แค่ 27% และผ่านบอลสำเร็จแค่ 115 ครั้ง
5. แอนจ์ ไม่ใช่ตัวตลก
ถือเป็นการคุมทีม สเปอร์ส ลงเล่นนัดที่ 100 พอดีได้อย่างยิ่งใหญ่เนื่องจากกุนซือออสซี่พาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ได้สำเร็จทั้งๆที่กุนซือหลายรายก่อนหน้าเขาทั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ , อันโตนิโอ คอนเต้ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่สามารถนำโทรฟี่มามอบให้กับสโมสรได้
ด้วยเหตุนี้ ปอสเตโคกลู จึงเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่คุมทีมลูกหนังอังกฤษลงสนามเกมที่ 100 หลังเข้ามารับงานในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 และพาทีมคว้าแชมป์ได้โดยเป็นโทรฟี่ใบแรกของสโมสรในรอบ 17 ปี และเป็นแชมป์ยุโรปใบแรกของสโมสรในรอบ 40 ปี
ขณะเดียวกัน กุนซือวัย 59 ปีคว้าแชมป์รายการที่ 12 ของตัวเองด้วยนับตั้งแต่ยึดอาชีพโค้ช
พร้อมกันนี้ เขาทำได้ตามราคาคุยหลังยืนยันว่าสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ตลอดในปีที่สองเนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้แชมป์ลีกกับสองทีมในบ้านเกิดทั้ง เซาธ์ เมลเบิร์น (1997/98) และ บริสเบน รอร์ (2010/11) ในปีที่สอง รวมถึง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่เขาได้แชมป์ เจลีก ในปี 2019
ไม่เพียงเท่านั้น ปอสเตโคกลู คุมทีมชาติ ออสเตรเลีย คว้าแชมป์ เอเชี่ยน คัพ ปี 2015 ได้ในปีที่สองของเขาเช่นกัน ตลอดจนการคุมทีม เซลติก ด้วย
อย่างไรก็ดี ไก่เดือยทอง เป็นแชมป์ยุโรปที่มีอันดับในลีกต่ำที่สุด (16) เนื่องจากก่อนหน้านี้จากทีมแชมป์ยุโรปทุกรายการ 177 สโมสร ไม่มีทีมไหนมีอันดับในลีกต่ำขนาดนี้และคว้าแชมป์ได้โดย เวสต์แฮม ถือครองสถิติก่อนหน้านี้จากการซิวแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซีซั่น 2022/23 โดยคว้าอันดับ 14 ของ พรีเมียร์ลีก