อย่างเพิ่งย่ามใจ! เมื่อ แมนยู ล้มเต็งหนึ่ง ยูโรปา ตัดเชือกเลกแรก

1 หลังจากเกมผ่านไป 25 นาที เจ้าถิ่นครองบอลบุกอยู่ข้างเดียวพลาง 'ล่อเป้า' ดูยังไง 'ปีศาจแดง' ก็รอดยาก เพราะถูกบีบและถูกบี้จนต่อบอลกันไม่ได้เลย

กลางอย่าง มานูเอล อูการ์เต้ ทำบอลเสียง่ายๆ แทบทุกจังหวะ ขณะที่ แพทริค ดอร์กู ก็โคตรจะมั่ว ส่วน 

วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ก็กะเปิ๊บกะป๊าบ ถ้าคู่แข่งไม่ยิงทิ้งยิงขว้างเองคงโดนไปแล้ว

อารมณ์นั้น ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า...

'ทรงนี้แพ้แค่ลูกเดียว กูก็เอาแล้ว'

2 ทันใด แฮร์รี่ 'คนสู้ชีวิต' แม็กไกวร์ ที่ขึ้นไปเล่นลูกตั้งเตะได้บอลในตำแหน่งปีกขวาเหมือนถูกวิญญาณของ โรนัลโด้ เข้าสิงร่าง

...ว่าแล้วก็ทั้งโยกทั้งคลึง ก่อนล็อคหลบคู่แข่งไปเปิดเข้ากลางแบบโคตรบรรจง ก่อนที่ 'ไอ้อู๋' จะขวัดบอลต่อให้ กาเซมิโร่ โขกตุงตาข่าย

แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 เฉยเลย !!!

กระนั้น ผมก็ยังมั่นใจว่าเดี๋ยวก็คงถูกตีเสมออยู่ดีนั่นแหละ เพราะเวลาเยอะเหลือเกิน

3 จุดเปลี่ยนสำคัญดันเกิดขึ้นในจังหวะที่ นุสแซร์ มัซราวี ปาดเข้ากลาง แล้ว ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่พยายามพุ่งเข้าชาร์จถูกดึงจนเสียหลักล้มลง

ดูภาพช้าหลายรอบ VAR ก็เช็คแล้ว เช็คอีก ผมมั่นใจแบบเต็มประดาว่าจุดโทษแน่นอน 

ผู้ตัดสินต้องออกไปดูเองแล้วก็ชี้นิ้วไปที่จุดโทษ

แต่กลับมี 'ของสมนาคุณ' เพิ่มให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการควักใบแดงให้ผู้เล่นของ บิลเบา ที่ทำฟาวล์ เหตุเพราะเป็นการเจตนาใช้มือดึงคู่แข่งชัดเจน โดยไม่พยายามสกัดบอลเลย

ปีศาจแดงนำห่าง 2-0 แถมเจ้าบ้านเหลือ 10 คน แบบนี้ก็แทบจะจบ 

เท่านั้นไม่พอ ก่อนจบครึ่งแรก บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดไปตะบันอีกประตูเป็น 3-0

โฮลี่ ชิต...นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยย ??? 

4 ทิ้งห่าง 3-0 คู่แข่งมีตัวผู้เล่นน้อยกว่า

ถ้าเป็น ลิเวอร์พูล รับรองว่าพวกเขาจะบุกขย่มใส่แบบไม่ยอมให้ผุดให้เกิดแน่นอน แต่นี่คือทีมที่ผีเข้าผีออกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด 

รูเบน อโมริม จึงเลือกให้ลูกทีมเล่นแบบรักษาสกอร์ในครึ่งหลัง

แม้ บิลเบา จะเลือกเล่นแบบรักษาสกอร์เช่นกัน และยอมที่จะแพ้ด้วยสกอร์นี้ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่กล้าที่จะบุกแบบพิฆาตเอาให้ไม่ได้เกิดชาติหน้า

คิดแล้วก็น่าเสียดาย แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะจับผลัดจับผลูบุกแหลกแล้วถูกตีไข่แตกขึ้นมา มันก็ลำบากเอาในเกมที่ 2

5 ดูจากจังหวะจบ เอาจริงๆ ผู้มาเยือนน่าจะทำได้มากกว่า 3 ประตูด้วยซ้ำ เพราะมีทั้งยิงชนคานและชนเสา 

กลับไปเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมประตูนำ 3-0 ถือว่าน่าอุ่นใจในระดับหนึ่ง แต่เรียนตามตรงว่ายังเหยาะแหยะไม่ได้

อย่าลืมว่า แอธเลติก บิลเบา จะเล่นแบบไม่มีอะไรจะเสีย ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้

หากโดนก่อนก็พร้อมจะสติแตกตลอดเวลา

ดังฉะนั้น กรุณาอย่าย่ามใจคิดว่าคู่แข่งเด๊ดห่าไปแล้วเด็ดขาด !!!

"บอ.บู๋"