ลิเวอร์พูล: ยูโรปาลีกของหงส์แดง!

แฟนหงส์ไม่ค่อยคุ้นกับการลุ้นบอลคืนวันพฤหัสบดีสักเทาไหร่ ...และการเจอกับทีมระดับเกรดบีของทวีปในยูโรปา ลีก ดูเหมือนไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายที่จะเล่นเช่นกัน

โดยคู่แข่งเกมแรกของพวกเขาคือ Linzer Athletik-Sport-Klub หรือ LASK ที่ผู้บรรยายฝรั่งออกเสียง ลาสค์ ทีมดังจากประเทศออสเตรีย 

แน่นอน...เจ้าบ้านไม่มีอะไรจะเสีย ส่วนทีมเยือนลิเวอร์พูลคงต้องมองเรื่องการโรเตชั่นนักเตะสำหรับสามถ้วยช่วงนี้ ยูโรปา ลีก, พรีเมียร์ลีก และ ลีก คัพ ในช่วงเวลา 7 วัน

พฤหัส, อาทิตย์และวันพุธ 

ดังนั้นนักเตะที่ไม่ได้เล่นกับทีมมาช่วงสองนัดล่าสุด เวอร์จิล ฟานไดจ์ ต้องลงเพื่อ แมตช์ ฟิตเนส เช่นเดียวกันกับ โกนาเต ขณะที่แบ๊กสองข้างเปลี่ยนตามจังหวะ ทางขวานี่ น่าสนใจ บายเชติช ถูกส่งมาเล่นแบ๊กขวา ทางซ้ายไม่แปลกเมื่อ ซิมิกาส ลงเล่นแทน รอบโบ

3 แดนกลาง วาตารุ เอนโด้ คือเบอร์หก ส่วน ไรอัน กราเฟนแบร์ก และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เป็นเบอร์ 8 ส่วนสามตัวทำ เบน โดค ทางขวา, ลุยส์ ดิอาส ซ้ายและ ดาร์วิน นูนเยส หน้าเป้า

LASK ภายใต้การทำงานของโค้ช โทมัส ซาเจเดอร์ ชาวออสเตรีย ทำงานแทนโค้ชเดิม ดีทมาร์ คูบาวเออร์ กับนักเตะชุดที่ไม่มีใครติดทีมชาติออสเตรีย (ส่วนใหญ่ ราปิดกับ ซัลส์บวร์ก ติดทีมชาติ)

เกมนี้ขาดกำลังหลักอย่าง ปีกตัวเก่งเจ้าของสถิติยิง 17 ลูกเมื่อปีก่อนอย่าง เลนนี ปินตอร์ รวมทั้งปีกทีมชาติญี่ปุ่น เกอิโต นากามูระ ที่ย้ายไปแรงส์ ในฝรั่งเศส รวมทั้งนักเตะที่ยืมจากโรมา เอบริมา ดาร์โบ ที่ไม่ฟิตเต็มร้อย มีชื่อสำรองก่อน

เกิดอะไรขึ้นในครึ่งแรก

LASK แน่น รัดกุม

ทีม LASK ของโค้ช ซาเจเดอร์ จัดระบบ 3-4-3 เน้นรับลึกทุกครั้งที่ลิเวอร์พูลเดินเกมเข้าหา แต่ที่เห็นชัดคือการเข้าหาบอลเร็ว ไม่ให้เด็กหงส์ชุดผสมตั้งหลักได้ง่ายๆ ถึงตัวตลอด บวกกับการโจมตีเร็วทำให้การครองบอลของลิเวอร์พูลดูติดขัดไม่น้อยทีเดียว 

3 แดนกลางหงส์ไม่ลงลอค

เอนโด้ เล่นกับ กราเฟนแบร์ก และ เอลเลียตต์ ครั้งแรกพอมีข้อแก้ตัวได้ว่า คงเล่นให้เข้ากันยากสักหน่อย แต่ปัญหาครึ่งแรกคือจังหวะบอลสองและการแย่งบอล หรือทำลายเกมของเจ้าบ้าน ทำได้ไม่ดี 

นั่นอาจเป็นเพราะการขยับเอา สเตฟาน บายเชติช รับบท "อินเวิร์ต ฟูลแบ๊ก" ที่ต้องปรับตัวกับตำแหน่งใหม่อีกด้วย

ข้างหน้าไม่ร่วมเล่น

โดค, ดาร์วิน และ ดิอาส เล่นไม่เข้ากัน ไม่มี  combination play ระหว่างตัวรุกด้วยกันเลยสามคนนี้ จังหวะลุ้นประตูมีแค่ลูกตั้งเตะ ที่ ฟานไดจ์ โหม่งย้อนมาเสาแรก แล้ว ดาร์วิน โขกเผาขนติดมือ ลาวาล ออกมาเฉย.... นั่นคือครั้งเดียวที่ยิงเข้ากรอบ นอกนั้นก็ไม่ได้ลุ้นอะไรมากนักจาก 6 ครั้งที่ได้ยิง 

โดยเฉพาะการร่วมเล่นของสามกองหน้าไม่มีอะไรมากนัก คงเป็นเพราะ "ครั้งแรก" ของสามคนนี้ 

เสียประตูก่อน

สี่เกมแล้วที่โดนยิงก่อน แม้จังหวะนี้โทษใครไม่ได้เพราะลูกสูตรของ LASK นั้นดีเกิน เปิดย้อนมาหน้าเขตโทษมี เฟลคเกอร์ วิงแบ๊กขวารออยู่ จับบอลได้แล้วยิงสวนผ่านนักเตะสองฝั่งเข้าประตูไปง่ายดาย

กราเฟนแบร์ก รู้ตัวก็สายแล้วในการพุ่งเข้ามาบล้อค ต้องชมว่า ซ้อมมาดีสำหรับลูกนิ่ง

ยิงนาทีที่ 14 แล้วก็ยาวจนจบครึ่งแรกทีมเจ้าถิ่นนำ 1-0

ครึ่งหลังหงส์เพรสหนัก

เปิดครึ่งหลังมา เจเค ไม่เปลี่ยนตัวใช้ชุดเดิม เน้นการเพรสแดนบนและแดนสอง คุมเกมบุกฝั่งเดียว ซึ่งเจ้าบ้านแม้เน้นเกมรับแน่น แต่การเข้าหาบอลยังเร็วและถึงตัวเหมือนครึ่งแรก ทำให้เด็กหงส์ เดินเกมยากหน่อย 

แต่จากการคุมเกมได้หมดทำให้ทีมกดดันต่อเนื่องและได้ประตูหลังผ่านไปสิบนาที แม้ว่าเป็นจุดโทษ แต่การต่อบอลหน้าไลน์ทำได้ดีระหว่าง บายเชติชจนถึง การได้จุดโทษ กองหลังไปเตะข้อเท้า ลุยส์ ดิอาส และเป็น ดาร์วิน นูนเยส ยิงตีเสมอ 1-1 น.56 

เปลี่ยนชุดใหญ่ลง

โดมินิก โซโบสไล, โจ โกเมส, อเลกซิส แมกอลิสเตอร์ ลงเล่นแทน วาตารุ เอนโด้, เบน โดค และ บายเชติช ในช่วง 30 นาที ยังไม่ทันได้น้ำได้เนื้อลิเวอร์พูลนำจากการแก้เพรสได้

โกนาเต้ วางยาวกลางสนาม ดาร์วิน เก็บบอลได้ (ยกเท้าสูง) แล้วตวัดให้ เอลเลียตต์ ริมเส้น ซึ่งจ่ายที่ว่างให้ กราเฟนแบร์ก ขึ้นเติม เขาเหลือบมองข้างในก่อนปาดจังหวะแรกเข้าพื้นที่อันตราย ....ดิอาส ชาร์จ เข้าไปให้หงส์แดงนำ 2-1 น.62

จากนั้นความกดดันหายไปและทีมเล่นแบบคุมเกมไว้ หากมีโอกาสค่อยโจมตี จนได้ประตูฝัง 3-1 จังหวะ โม ซาลาห์ ดีดด้วยซ้ายลอดขา ลาวาล เข้าง่ายๆ ในสามนาทีท้าย

บทสรุป

1 โรเตชั่นให้โอกาสทีมชุดสอง พักชุดใหญ่เพื่อเกมกับเวสต์ แฮม โดยมีโครงสร้างหลัก ดิอาส , ดาร์วิน และคู่เซนเตอร์ 

2 ได้เห็น เอลเลียตต์ เล่นทั้งมิดฟิลด์ด้านขวา, ปีกขวา และ มิดฟิลด์ด้านซ้ายช่วง 15 นาทีท้าย

3 บายเชติช เล่น "อินเวิร์ต ฟูลแบ๊ก" อาจเป็นตัวแทน เทร้นต์ ได้ เมื่อแดนกลางนั้นเต็ม ไม่มีที่ว่างให้สอดแทรกเวลานี้

4 เบน โด๊ค ยังต้องพัฒนาต่อไป

5 กราเฟนแบร์ก  เปิดตัวจัดแอสซิสต์ อย่างแม่นยำ แต่..."สภาพร่างกาย" ไม่เปรี๊ยะ เข้าใจว่าไม่ค่อยได้มี แมตช์ ฟิตเนสมาก เจ็บและถูกเปลี่ยนออกนาทีที่ 75 โม ซาลาห์ เล่นแทน 

ชัยชนะก็เรื่องหนึ่ง แต่ที่ได้จากเกมแรกนี้....ถือว่าขุมกำลังนั้นมีพร้อมให้ โรเตชั่น แบบนี้เป็นผลดีต่อทีม ภาพเริ่มชัดในโครงสร้างทั้งข้างหน้า, สามกองกลาง และกองหลัง 

อ้อ....บอลคืนวันพฤหัสดูคึกคักมากกว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport