ชิงถ้วย คอนเฟอเรนซ์ ลีก! เกร็ดก่อนเกม โอลิมเปียกอส พบ ฟิออเรนติน่า

แม้ว่าตามชื่อชั้นแล้วถ้วยนี้จะถือเป็นถ้วยที่มีศักดิ์ศรีเป็นรอง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่มันก็มีความหมายอย่างมากกับทั้ง 2 ทีม เพราะ โอลิมเปียกอส ไม่เคยได้แชมป์ระดับทวีปยุโรปมาก่อน ส่วน ฟิออเรนติน่า เคยได้แชมป์ระดับทวีปแค่หนเดียว นั่นคือ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อฤดูกาล 1960-61 ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเกร็ดเกี่ยวกับเกมนี้เพื่อรับกระแสกัน

- เจอกันหนแรกอีกคู่

เชื่อหรือไม่ว่านี่ถือเป็นครั้งที่ 3 ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดที่คู่ชิงดำของเกมถ้วยยุโรปเป็นการเจอกันครั้งแรกของ 2 ทีมนั้นๆ เพราะใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นก่อนระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อินเตอร์ มิลาน ก็เป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่เช่นกัน ส่วนอีกคู่คือนัดชิงดำของ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซีซั่นที่แล้วที่ เวสต์แฮม เจอกับ ฟิออเรนติน่า

- การดวลกับคู่แข่งจากชาตินั้นๆ

ในประวัติศาสตร์ของ โอลิมเปียกอส พวกเขาเคยเอาชนะทีมจากประเทศอิตาลีในเกมถ้วยยุโรปได้ 7 หน ทำให้นี่เป็นชาติที่พวกเขากำชัยในเกมถ้วยยุโรปได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก อังกฤษ และ ฝรั่งเศส โดย โอลิมเปียกอส เคยพิชิตตัวแทนจาก 2 ชาตินั้นได้ 12 เกม กับ 11 ครั้ง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม หากมองไปที่เฉพาะการเจอกับทีมจากอิตาลีในเกมถ้วยยุโรป 7 นัดหลังสุดแล้วล่ะก็ มันก็ต้องบอกว่า โอลิมเปียกอส มักจะฝันร้ายตอนออกจากสนามอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเอาชนะได้เพียงหนเดียวเท่านั้น นั่นคือเกม ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซีซั่น 2018-19 ที่ชนะ เอซี มิลาน 3-1

อีกด้านหนึ่ง ฟิออเรนติน่า ก็มีประสบการณ์ที่ไม่สู้ดีนักเมื่อต้องดวลกับทีมจากกรีซในเกมถ้วยยุโรป เพราะพวกเขาเอาชนะได้เพียง 1 หนจากจำนวนทั้งหมด 5 เกม โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 3 เกมกับแพ้ 1 ครั้ง ซึ่งเกมเดียวที่ชนะได้แก่ศึก ยูฟ่า  ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำฤดูกาล 2014-15 ที่เฉือน พีเอโอเค ซาโลนิก้า 1-0

- แก้มือหรือช้ำอีก ?

หากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 เป็นต้นมา นี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ทีมใดทีมหนึ่งซึ่งแพ้ในนัดชิงดำของเกมถ้วยยุโรปได้โอกาสกลับมาแก้มือทันทีในรายการเดิม ซึ่ง 3 หนก่อนหน้านี้นั้นจบลงด้วยการมี 2 ทีมที่ลบล้างความผิดหวังได้ และ 1 ทีมที่ช้ำตามเดิม

สำหรับทีมที่แก้มือได้นั้นคือ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเคยแพ้ เชลซี ในช่วงดวลจุดโทษของนัดชิงชนะเลิศศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011-12 แต่ได้แชมป์ในซีซั่น 2012-13 กับ ลิเวอร์พูล ที่เคยพ่าย เรอัล มาดริด 1-3 ในนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2017-18 ก่อนจะมาได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ในฤดูกาล 2018-19

ส่วนทีมเดียวจาก 3 รายนั้นที่ช้ำซ้ำสองคือ เบนฟิก้า จากการเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของ ยูโรปา ลีก ซีซั่น 2012-13 แต่แพ้ เชลซี 1-2 และพอมาถึงนัดชิงดำอีกครั้งในฤดูกาล 2013-14 "เหยี่ยวลิสบอน" ก็แพ้ เซบีย่า ในช่วงดวลจุดโทษ

- ไม่ชัวร์แม้เล่นในบ้าน

อย่างที่บอกไปว่านัดนี้เตะกันที่ กรีซ โดยจะเป็นที่ โอปาป อารีน่า รังเหย้าของ เออีเค เอเธนส์ ทำให้ถึงแม้จะไม่ได้เตะกันที่สนามของ โอลิมเปียกอส แต่หลายคนก็มองว่า โอลิมเปียกอส น่าจะได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์เหนือแฟนบอล ฟิออเรนติน่า เพราะกองเชียร์ของพวกเขาจะเดินทางมาเชียร์ทีมได้สะดวกกว่า รวมถึงนักเตะ โอลิมเปียกอส ก็น่าจะคุ้นเคยกับสภาพอากาศของที่ กรีซ ได้ดีกว่า

ถึงกระนั้น ในเกมถ้วยยุโรป 4 นัดหลังสุดที่หนึ่งในคู่ชิงชนะเลิศถือเป็นทีมจากชาติเดียวกันของสนามที่ใช้จัดการแข่งขันนั้น มันกลายเป็นว่าทีมเจ้าบ้านกลับชวดแชมป์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นศึก ยูฟ่า คัพ (ชื่อเดิมของ ยูโรปา ลีก) ซีซั่น 2004-05 ที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แพ้ ซีเอสเคเอ มอสโก 1-3 ใน เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาเด้ ของกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส, แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2010-11 ที่ แมนยู แพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 ที่สนาม เวมบลีย์, บาเยิร์น ซึ่งพ่าย เชลซี คารัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ในช่วงดวลจุดโทษของนัดชิงดำใน แชมเปี้ยส์ ลีก ฤดูกาล 2011-12 และศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2017-18 ที่ มาร์กเซย แพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-3 ในสังเวียน กรูปาม่า สเตเดี้ยม ของเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส

ครั้งสุดท้ายที่ทีมจากชาติเดียวกันของสนามที่ใช้จัดนัดชิงชนะเลิศของเกมถ้วยยุโรปได้แชมป์ไปครองต้องย้อนไปถึงศึก ยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 2001-02 โดยที่ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม เจอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ เดอ เกยป์ สนามเหย้าของ เฟเยนูร์ด เอง ก่อนที่ เฟเยนูร์ด จะชนะไป 3-2

- เด็กเกร็ดบอล -