อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น ระบุ การจ่ายเงินจำนวนมากไปกับการเสริมทัพไม่ใช่เรื่องฉลาด เพราะอาจจะเหมือน บาร์เซโลน่า ที่มีหนี้ก้อนโต พร้อมบอกว่าการมาของเหล่าชีคห์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดไปอย่างสิ้นเชิง
อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น มิวนิค ยืนกรานว่าการทุ่มเงินจำนวนมากในตลาดการเสริมทัพไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม โดยเอากรณีของ บาร์เซโลน่า มาเป็นตัวอย่าง
ช่วงซัมเมอร์นี้ บาเยิร์น ได้นักเตะประเภทที่พร้อมลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ทันทีมาร่วมทีมแค่ 4 คน ได้แก่ หลุยส์ ดิอาซ, โยนาธาน ทาห์, ทอม บิชอฟ และ นิโกลัส แจ็คสัน ซึ่งทั้งหมดนี้พวกเขาใช้เงินไปรวม 88.8 ล้านยูโร (ประมาณ 3,285.6 ล้านบาท)
ที่จริง บาเยิร์น เคยตกเป็นข่าวกับนักเตะหลายคนเหมือนกัน อย่างเช่น ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ นิค โวลเทอมาเดอ เป็นต้น แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มแผนในดีลเหล่านั้นไปเพราะมองว่ามันจะเป็นการใช้เงินมากเกินความจำเป็น ซึ่งมันก็ส่งผลให้บางคนตำหนิ "เสือใต้" เหมือนกันว่าไม่พยายามเสริมทัพมากเท่าที่ควร
เฮอเนส เผยว่า "แน่นอนว่าเราอยากได้ เวียร์ตซ์ มาอยู่กับเรา แต่เรารู้ดีว่าสภาพการเงินของเราน่ะเป็นยังไง สิ่งนั้นมีความสำคัญมากพอๆ กับความสำเร็จด้านกีฬาเลย ลองดู บาร์เซโลน่า เป็นตัวอย่างก็ได้ ถ้าคุณเอาแต่ซื้อๆๆ สุดท้ายคุณก็จะติดหนี้หัวโตถึง 1.2 พันล้านยูโร"
"ตลาดการเสริมทัพก็เหมือนกับเกมเศรษฐีนั่นแหละ ตอนแรกคุณดำเนินการแบบเงียบๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชีคห์โผล่มาดื้อๆ จนทุกอย่างเปลี่ยนไป โวลเทอมาเดอ ไม่ได้เก่งจนถึงขั้นมีค่าตัว 90 ล้านยูโรตามที่ นิวคาสเซิ่ล จ่ายไปหรอก เราจะไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนั้นแน่"