อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น ระบุ สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดการเสริมทัพตอนนี้มันบ้าบอไปแล้ว พร้อมกระตุ้นทุกฝ่ายในวงการฟุตบอลเยอรมนีว่าต้องยึดมั่นกับแนวทางที่รักษามาเป็นเวลานานเอาไว้ให้ได้ เพื่อจะเป็นแบบอย่างที่ดีต่อโลกฟุตบอล
อูลี่ เฮอเนส ประธานกิตติมศักดิ์ของ บาเยิร์น มิวนิค เรียกร้องให้ทุกทีมใน เยอรมนี อย่ายอมรับเงินการลงทุนจากชาติในย่านตะวันออกกลางหรือสหรัฐอเมริกาแบบที่ในลีกอื่นๆ ทำกัน หลังจากมองว่าตลาดการเสริมทัพในตอนนี้มันเพี้ยนไปแล้ว
ตลาดช่วงซัมเมอร์ปี 2025 ถือเป็นตลาดที่มีการใช้เงินเสริมทัพกันเยอะมากๆ โดยเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ใช้ไปรวม 3.2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ บุนเดสลีกา ยังถือว่าใช้เงินน้อยกว่า กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยซ้ำ เพราะของ เซเรีย อา จ่ายกันราว 1.02 พันล้านปอนด์ ขณะที่ใน บุนเดสลีกา ใช้เงินรวม 739 ล้านปอนด์
ทั้งนี้ ล่าสุด เฮอเนส ขึ้นรับรางวัลพิเศษจากทางลีกฟุตบอลอาชีพเยอรมนี (เดเอฟแอล) ในเชิงยกย่องความสำเร็จที่เขาทำได้ ซึ่งในงานนี้เขาพูดเรื่องตลาดในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย โดยบอกว่า "มันเป็นอะไรที่บ้าบอมากๆ! ผมอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลระดับนานาชาติในช่วง 6-8 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น เฮอเนส ยังพูดถึงเรื่องที่ในตลาดรอบนี้ พรีเมียร์ลีก มีการใช้เงินก้อนโตเช่นกัน โดยระบุว่า "เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งคงจะมีคนพูดกันว่า -พวกเขาบ้าไปแล้วรึไง ?- แน่ๆ"
"วงการฟุตบอลเยอรมันของเราจำเป็นต้องทำตามแนวทางของเราเอง ผมขอร้องกับทุกคนในห้องนี้ว่าอย่าได้รับเงินที่จะกลายเป็นสิ่งที่ทำลายทุกอย่างเด็ดขาด"
"สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันจะจบแบบไม่สวยแน่นอน พวกเราใน บุนเดสลีกา จำเป็นต้องทำตามแนวทางของเราและทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่เหมาะสม เราต้องแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเราและไม่ยอมรับเงินของพวกอาหรับกับเงินแบบกองทุนเฮดจ์ฟันของคนอเมริกัน เดเอฟแอล ต้องทำให้มั่นใจว่าสโมสรของ บุนเดสลีกา จะไม่มีวันยอมรับเงินพวกนี้"
"ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้มันเพี้ยนไปแล้ว ถ้าเราไม่ระวังให้ดีแล้วน่ะท้ายที่สุดแล้วหลายคนก็อาจจะถามว่า -พวกเขายังสติดีอยู่รึเปล่า ?- ได้เลย ผมเองทุกวันนี้ทำงานเพื่อเงินเดือนแค่เดือนละ 2,000-3,000 ยูโรเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันมันมีการจ่ายเงินถึง 30, 40 กับ 50 ล้านยูโรไปกับนักเตะที่ฝีเท้าพื้นๆ"
สำหรับวงการฟุตบอลเยอรมนีนั้น มีประเพณีการใช้กฎเจ้าของทีมแบบ 50+1 ที่ต่างจากลีกอื่น โดยมันทำให้สมาชิกของสโมสรจะมีสิทธิ์ในการโหวตตัดสินเรื่องต่างๆ มากกว่านักลงทุนจากภายนอก แต่บางคนมองว่ามันทำให้สโมสรใน บุนเดสลีกา เสียเปรียบเรื่องการแย่งนักเตะกับลีกอื่นไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นกรณีของ นิค โวลเทอมาเดอ ที่ บาเยิร์น เคยอยากได้ แต่สุดท้ายเป็น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ได้ตัวเขาไปครอง