โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานทีมชาติเยอรมัน เตือน บุนเดสลีกา กำลังหมดความดึงดูดหลัง บาเยิร์น มิวนิค กวาดแชมป์ถี่เกิน พร้อมยกตัวอย่างยุคตนยังลุ้นแชมป์สูสี แถมชี้ช่องว่างทางการเงินทำลีกขาดความสนุกในระยะยาว
โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน กล่าวว่า บุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังมีสภาพน่าเป็นห่วง จากการที่ บาเยิร์น มิวนิค ได้แชมป์บ่อยเกินไป และมีแนวโน้มทิ้งห่างคู่แข่งร่วมลีกมากขึ้นในด้านการเงิน
บาเยิร์น คือเจ้าของสถิติแชมป์ บุนเดสลีกา มากที่สุดที่จำนวน 34 สมัย โดยถ้านับเฉพาะ 13 ฤดูกาลที่ผ่านมา มันก็มีถึง 12 ครั้งที่พวกเขาได้แชมป์ลีกไปครอง
คาห์น เผยว่า "แม้ว่า บุนเดสลีกา จะยังมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับนานาชาติ แต่เราก็เสียเปรียบอีก 2 ชาติชั้นนำ (หมายถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ลา ลีกา สเปน) ในแง่ของความถี่กับความคงเส้นคงวาของทีมแชมป์ เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั้น เรื่องการชิงแชมป์ใน บุนเดสลีกา คือสิ่งที่เราควรจะมากังวลกัน"
"เรากำลังพูดถึงลีกที่มีแต่แชมป์หน้าเดิมๆ เอฟเซ บาเยิร์น มิวนิค ได้แชมป์ลีกถึง 12 ครั้งจาก 13 ปีหลังสุด นั่นไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลดีในระยะยาว"
"สมัยที่ผมยังเล่นอยู่ ลีกมันเปิดกว้างมากกว่าทุกวันนี้ มันมีการลุ้นแชมป์ที่สูสีกว่ายุคนี้และมีทีมที่เป็นแชมป์ของ เยอรมัน มากกว่าตอนนี้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ลีกมันไม่ได้เป็นลีกที่มีการขับเคี่ยวกันอย่างสูสีอย่างที่ป่าวประกาศกันมาพักหนึ่งแล้ว"
"มันจะเป็นการขับเคี่ยวที่สูสีกันได้ยังไงเมื่อทีมที่มีงบประมาณ 30 หรือ 40 ล้านยูโร ต้องดวลกับทีมที่มีงบทำทีม 300 ล้านยูโร ? ตัวสำรอง 5 คนของ เอฟเซ บาเยิร์น อาจจะมีมูลค่ามากกว่าขุมกำลังทั้งทีมของทีมในกลุ่ม 3 อันดับสุดท้ายของตารางคะแนนด้วยซ้ำ ซึ่งช่องว่างที่ว่านี้มันกำลังกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากรายการที่เพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นศึกชิงแชมป์สโมสรโลก เพราะรายการแบบนี้มันทำให้ทีมชั้นนำมีรายได้เพิ่มจากเดิมไปอีก ระบบมันกำลังถูกบ่อนทำลายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้การลุ้นแชมป์มันคาดเดาได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย และนั่นก็ทำให้มันน่าเบื่อสุดๆ"
"เราต้องมอง บุนเดสลีกา ใน 2 ด้าน แน่นอนว่าถ้ามองกันแค่ระดับประเทศมันยังเป็นลีกที่แข็งแกร่ง, มีค่าเฉลี่ยผู้ชมในสนามเยอะ และยังเป็นลีกที่น่าดึงดูดใน เยอรมนี แต่นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ในระดับนานาชาตินั้น บุนเดสลีกา ยังไม่ได้มีบทบาทที่โดดเด่นมากมายอะไรเลย"
"เวลาที่ผมคุยกับคนจากประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ พวกเขาจะมองว่า บุนเดสลีกา, เซเรีย อา และ ลีก เอิง เป็นลีกแบบเดียวกัน ขณะที่ พรีเมียร์ลีก กับ ลา ลีกา โดดเด่นกว่าชาวบ้านอย่างชัดเจน ทุกคนรู้จักสตาร์และทีมของลีกเหล่านั้นเป็นอย่างดี นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไม เวียร์ตซ์ ถึงตัดสินใจย้ายไปเล่นที่ อังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่น่าดึงดูดมากที่สุด"