ราล์ฟ รังนิก มองว่า บาเยิร์น มิวนิค คิดผิดที่ทุ่มมหาศาลคว้า แฮร์รี่ เคน ด้วยค่าตัวรวมกว่า 130 ล้านยูโร พร้อมย้ำหากเป็นตนจะเน้นซื้อแข้งดาวรุ่งมากกว่าทุ่มซื้อสตาร์อายุเกิน 30 ปี
ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ทีมชาติออสเตรีย กล่าวว่าในมุมมองส่วนตัวนั้น บาเยิร์น มิวนิค ทำพลาดที่ทุ่มเงินมหาศาลไปกับการซื้อ แฮร์รี่ เคน โดยที่จริงควรจะเน้นซื้อแข้งอายุน้อยมากกว่า
บาเยิร์น จ่ายเงินรวม 110 ล้านยูโร (ประมาณ 4,180 ล้านบาท) เพื่อดึง เคน ไปร่วมทัพเมื่อปี 2023 โดยตอนนั้นเขามีอายุ 30 ปี ซึ่งหลังจากผ่านมา 2 ฤดูกาล ดาวยิงชาวอังกฤษก็เพิ่งคว้าแชมป์รายการแรกร่วมกับทีมได้ นั่นคือแชมป์ บุนเดสลีกา ในซีซั่น 2024-25
รังนิก เผยว่า "บาเยิร์น ควรจะซื้อ แฮร์รี่ เคน ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุแค่ 20 ปี คุณควรจะต้องเซ็นสัญญากับ แฮร์รี่ เคน ในตอนที่มีอายุเพียง 18 ปีหรือ 20 ปี แล้วจากนั้นก็รั้งตัวเขาเอาไว้กับทีมให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเป็นผมแล้วน่ะผมจะทำแบบนั้น แต่ผมขอย้ำว่าทุกสโมสรต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ยังไงก็ตาม คุณควรจะพยายามหานักเตะแบบนี้ให้เจอเร็วกว่านี้ถึงจะถูก"
"เขาทำประตูได้หลายลูก, ช่วยให้ทีมได้แชมป์ลีก และมีอิทธิพลที่ดีกับบรรยากาศภายในห้องแต่งตัว จริงอยู่ว่าเขาได้แชมป์ลีก เยอรมนี ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติสำหรับทีมอย่าง บาเยิร์น อยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยสักหน่อย พวกเขาไม่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เราคงต้องรอดูกันว่าในอีก 2 ปีหลังจากนี้จะเป็นยังไง คือผมไม่ได้กำลังจะบอกว่านี่เป็นการซื้อที่แย่หรอกนะ แต่ถ้าเป็นผมแล้วน่ะผมจะทำแบบอื่น"
"ถ้าผมเป็นเจ้าของทีมหรือเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรแล้วน่ะ ผมก็จะพยายามเซ็นสัญญาและลงทุนเฉพาะกับพวกนักเตะดาวรุ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหนนั่นก็เป็นการลงทุนแบบเดียวที่ดูสมเหตุสมผล ผมหมายถึง มันดูสมเหตุสมผลด้วยเหรอที่คุณจ่ายเงินตั้ง 30, 40, 50 ล้านยูโรไปกับนักเตะที่อายุ 28 ปีหรือ 30 ปีแล้ว ? มันไม่สมเหตุสมผลสักนิด"
"ลองคำนวณดูนะ คุณซื้อนักเตะอายุ 28 ปีหรือ 30 ปีโดยที่เซ็นสัญญายาว 5 ปี โดยที่คุณจ่ายเงินไป 50 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัว ส่วนค่าเหนื่อยจ่ายไป 15 ล้านยูโรต่อปี"
"นั่นเท่ากับว่าคุณจ่ายค่าเหนื่อยรวมตั้ง 65 ล้านยูโร และพอไปนับรวมกับค่าตัว 50 ล้านยูโรมันก็หมายความว่าคุณจ่ายเงินทั้งหมด 115 ล้านยูโร แถมมันยังต้องนับรวมค่าเอเยนต์ด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะเสียเงินทั้งหมดนี้ถึงราว 130 ล้านยูโรเลยทีเดียว"
"คุณไม่มีทางหาเงินมาชดเชยส่วนที่เสียไปได้หมดแน่ๆ แถมถ้าคุณโชคร้ายแล้วน่ะนักเตะคนนั้นก็อาจจะลงเล่นไม่ได้ในช่วง 1 หรือ 2 ปีสุดท้ายด้วยซ้ำ คุณจะใช้งานนักเตะจากการลงทุนแบบนั้นได้อย่างมากสุดแค่ในช่วง 3 ปีแรกของสัญญา มันเหมือนกับการเล่นพนันหรือไปเล่นคาสิโนเลย อารมณ์เหมือนผมเอาเงิน 130 ล้านยูโรไปเดิมพันกับเรื่องที่ว่าลูกเหล็กมันจะตกลงบนสีแดงหรือสีขาว ผมรู้ว่าคำพูดของผมมันอาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อย แต่คุณคงเข้าใจถึงเรื่องที่ผมจะสื่อนะ"