ฟอร์มยังโหด! เกร็ดผลงานสุดแจ่มของ เลเวอร์คูเซ่น

ยังคงเดินหน้าสู่ภารกิจการได้แชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน สมัยแรกของสโมสรได้ต่อไปสำหรับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังล่าสุดเปิดรัง ไบ อารีน่า เอาชนะ เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์บวร์ก ไปได้ 2-0 เมื่อวันอาทิตยืที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมจากนัดล่าสุดไม่ได้แค่ทำให้พวกเขากลับไปทิ้ง บาเยิร์น มิวนิค 10 แต้มอีกครั้งเท่านั้น แต่มันยังเกิดเกร็ดที่น่าสนใจอีกด้วย ซึ่งก็มีเกร็ดบางอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์เช่นกัน

- ทีมนักปั้น

ประตูขึ้นนำของ เลเวอร์คูเซ่น ในเกมนี้มาจากการที่ อเลฆานโดร กริมัลโด้ ผ่านบอลให้ เนธาน เทลล่า ส่งบอลเข้าไปนอนในก้นตาข่ายได้ในนาทีที่ 37 ซึ่งนี่ถือเป็นแอสซิสต์ใน บุนเดสลีกา ครั้งที่ 10 ของ กริมัลโด้ ประจำฤดูกาลนี้เข้าไปแล้ว

ที่จริงแล้ว กริมัลโด้ ไม่ใช่คนแรกของ เลเวอร์คูเซ่น ที่ทำแอสซิสต์ในลีกประจำซีซั่นนี้แตะหลัก 10 ครั้ง เพราะ ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ เคยทำได้ไปก่อนแล้ว และมันก็ส่งผลให้ เลเวอร์คูเซ่น เป็นทีมแรกจาก 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรปในฤดูกาล 2023-24 ที่มีนักเตะทำแอสซิสต์แตะหลัก 10 หนมากกว่า 1 คน

- การไร้พ่าย

หลังจากเล่นในลีกมา 25 นัด เลเวอร์คูเซ่น ก็ยังไม่แพ้ใครเลย ส่งผลให้พวกเขาทำลายสถิติของสโมสรในด้านการไร้พ่ายในลีกติดต่อกันยาวนานที่สุดหากนับตั้งแต่ช่วงเริ่มฤดูกาลได้เป็นที่เรียบร้อย เพราะสถิติเดิมอยู่ที่ฤดูกาล 2009-10 ที่เคยไม่แพ้ใครในลีก 24 เกมรวด

นอกจากนี้ ทีมของกุนซือ ชาบี อลอนโซ่ ก็ยังเข้าใกล้การทาบสถิติทีมที่ไร้พ่ายติดต่อกันนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ บุนเดสลีกา เข้าไปอีกขั้นด้วย เพราะทีมเดียวที่เคยไม่แพ้ใครใน บุนเดสลีกา ติดต่อกันยาวนานกว่าพวกเขาก็คือ บาเยิร์น มิวนิค ชุดฤดูกาล 2013-14 ของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเคยทำเอาไว้ถึง 28 เกมติด

- ชนะเยอะ

เชื่อหรือไม่ว่าหากเทียบกับซีซั่นก่อนนั้น เลเวอร์คูเซ่น ก็สามารถเก็บชัยชนะได้มากกว่าที่ บาเยิร์น แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วทำได้ตลอดทั้งซีซั่นเข้าไปแล้ว ทั้งที่ทีมของ อลอนโซ่ ยังเหลือโปรแกรมในลีกให้เล่นอีกตั้ง 9 นัด

ยิ่งไปกว่านั้น แค่ตอนนี้มันก็ทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ทาบสถิติของสโมสรในด้านการชนะในลีกมากที่สุดกับการเล่น บุนเดสลีกา ต่อ 1 ฤดูกาลเข้าไปแล้ว โดยเท่ากับซีซั่น 1996-97, 1999-2000 และ 2001-02 ซึ่งทั้ง 3 ครั้งนั้น เลเวอร์คูเซ่น จบด้วยการเป็นเพียง "รองแชมป์" ทั้งหมด ดังนั้นแน่นอนว่าแฟนบอล เลเวอร์คูเซ่น ก็หวังว่าบทสรุปในครั้งนี้มันจะต่างออกไป


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport