วิกฤติสอยคิวฮ่องกงส่อโดนตัดงบหากไร้ดาวรุ่งผงาดเวทีโลก

เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 45 ของ มาร์โก ฟู นักสอยคิวผู้เป็นดั่งวีระบุรุษ ของพื้นที่เขตปกครองพิเศษ ที่มีชื่อว่าฮ่องกง แม้ฝีมือของเขาจะเลยผ่านช่วงพีคไปแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านักสอยคิวอาตี๋รูปร่างผอมสูงผู้นี้ คือนักแม่นรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แห่งเกาะเศรษฐกิจทางทะเลจีนใต้อย่างแท้จริง ด้วยผลงานการคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 3 รายการ และเคยขึ้นไปรั้งถึงอันดับ 5 ของโลกมาแล้ว เป็นสิ่งยืนยัน อย่างไรก็ตามเมื่อ มาร์โก ฟู เริ่มเข้าสู่ขาลง กลับยังวี่แววนักสอยคิวฮ่องกงสายเลือดใหม่ ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทายาท

ที่ผ่านมา มีแต่นักสนุกเกอร์จีนรุ่นใหม่เท่านั้น ที่ยกโขยงกันไปเล่นอาชีพที่อังกฤษกันเป็นจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับฮ่องกง ที่ดาวดวงใหม่ยังไม่เกิดเสียที

มีเพียง อึ้ง ออน ยี ที่ยังพอทำให้แฟนสนุกเกอร์ฮ่องกงภาคภูมิใจได้บ้าง จากการทำผลงานโดดเด่น ในเวทีสนุกเกอร์หญิง โดยเฉพาะวีรกรรมคว้าแชมป์โลกสตรี 3 สมัย

แต่พอหันมาดูบรรดานักสอยคิวชาย ส่วนใหญ่ก็เจ๋งเฉพาะในประเทศเท่านั้น พอเป็นตัวแทนไปแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ ก็ซมซานพ่ายแพ้กลับมาทุกหน

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง(HKBSCC) โดนขู่จากสถาบันกีฬาแห่งฮ่องกง(HKSI) มาโดยตลอดว่า หากยังไร้เงาดาวรุ่งดวงใหม่ ก้าวขึ้นมาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ จะทำให้สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง ถูกลดสถานะจากสมาคมกีฬาเกรด เอ ให้หล่นไปอยู่ในเกรด บี ทันที

 พอถูกลดเกรด จะส่งผลให้ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลในแต่ละปีน้อยลงตามไปด้วย โดยสมาคมกีฬาเกรด เอ ที่ได้งบหนุนเป็นจำนวนเงินที่สูง ล้วนแล้วแต่เป็นกีฬาที่สร้างความสำเร็จให้กับฮ่องกงแทบทั้งสิ้น

นับว่ายังดี ที่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา สถาบันกีฬาแห่งฮ่องกงยังคงพิจารณา ต่ออายุให้สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง เป็นสมาคมกีฬาเกรด เอ ไปอีก 2 ปี โดยจะมีผลไปจนถึงสิ้นปี 2025

เหตุผลสำคัญที่ทำให้สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง รอดพ้นจากการถูกลดเกรดอย่างหวุดหวิด มาจากความสำเร็จ ในการจัดการแข่งขันรายการฮ่องกงมาสเตอร์ 2022 เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน 

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ได้เชิญมือพระกาฬระดับโลก 6 คน ได้แก่ รอนนี่ โอซัลลิแวน, นีล โรเบิร์ตสัน, จัดด์ ทรัมป์, มาร์ค เซลบี้, จอห์น ฮิกกินส์ และ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มาร่วมดวลกับ 2 นักสอยคิวขวัญใจชาวฮ่องกงอย่าง มาร์โก ฟู และ อึ้ง ออน ยี

สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดทัวร์นาเมนต์นี้ ได้กล้าคิดแหวกกรอบ ด้วยการนำศึกฮ่องกงมาสเตอร์ส 2022 ไปจัดในฮอลแข่งขันขนาดใหญ่อย่างฮ่องกงโคลอสเซียม ซึ่งสามารถจุผู้ชมได้กว่า 1 หมื่นที่นั่ง

จึงทำให้ศึกฮ่องกงมาสเตอร์สครั้งที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในด้านจำนวนคนดู ที่เข้ามาชมถึงขอบโต๊ะตลอด 4 วันของการดวลคิวกันอย่างล้นหลาม โดยเฉลี่ยแต่ละวัน มียอดแฟนสนุกเกอร์ยอมควักกระเป๋าซื้อตั๋วเข้ามาดูราวๆ 8,000 กว่าคนเลยทีเดียว

นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ที่ช่วยให้องค์กรสนุกเกอร์แห่งเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยังอยู่ในสถานะสมาคมกีฬาเกรด เอ อย่างหวุดหวิด   

กระนั้นก็ตาม หากอีก 2 ปีต่อจากนี้ ยังไร้วี่แววนักกีฬาฮ่องกงสายเลือดใหม่ ก้าวขึ้นมาทำผลงานได้ดีในเวทีนานาชาติ สภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง ก็มีสิทธิ์โดนลดเกรดเช่นกัน

เท่าที่ดูสถานการณ์ในตอนนี้ ยังนึกไม่ออกเลยว่า นักสอยคิวดาวรุ่งของฮ่องกงคนใด จะก้าวขึ้นมาทำผลงานได้ดี ในเวทีระดับนานาชาติ ในห้วงเวลาอีก 2 ปีต่อจากนี้ เพราะยังไม่มีใครฉายแววอย่างชัดเจนเลยแม้แต่คนเดียว

ทว่าหากท้ายที่สุดแล้ว วงการกีฬาแม่นรูฮ่องกง ขาดแคลนดาวรุ่งฝีมือดีจริงๆ จนไม่มีใครทำผลงานได้ดีในเกมนานาชาติ ยังมีอีกวิธีที่จะทำให้องค์กรสอยคิวของพวกเขา รักษาสถานะอยู่ในระดับเกรด เอ ต่อไป นั่นก็คือต้องลุ้นให้เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 20 ที่เมืองไอจิและนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ในปี 2026 กลับมาบรรจุกีฬาสอยคิวอีกครั้ง

ตามระเบียบของสถาบันกีฬาแห่งฮ่องกงได้ระบุว่า ชนิดกีฬาใดก็ตามที่ยังถูกบรรจุในเอเชียนเกมส์หรือโอลิมปิก ยังมีโอกาสถูกพิจารณาให้อยู่ในสถานเกรด เอ ต่อไป แม้ผลงานในเวทีนานาชาติของนักกีฬาชนิดนั้นๆจะไม่ดีก็ตาม

ดังนั้นสภาควบคุมกีฬาบิลเลียดแห่งฮ่องกง ต้องภาวนาให้กีฬาคิวสปอร์ต (สนุกเกอร์,บิลเลียด,พูล และแครอมบอล) หวนกลับมาบรรจุชิงชัยในเอเชียนเกมส์อีกครั้ง ในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากหลุดจากมหกรรมกีฬาแห่งทวีปเอเชียไปนาน นับตั้งแต่เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 16 ที่นครกวางโจว ประเทศจีน เมื่อปี 2010 โน่นเลยทีเดียว

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport