สิ่งที่น่าทึ่งในตัว โจ ณัฐวุฒิ

เกมการชกบนเวทีว่าประทับใจแล้ว พอได้ฟังบทสัมภาษณ์สด ๆ ของ โจ ณัฐวุฒิ ก็ยิ่งทำให้ประทับใจนักชกวัย 34 ปีคนนี้มากกว่าเดิม

ไฟต์ที่เขาเจอ ตะวันฉาย น้อยคนที่จะรู้จักเขามาก่อน และในฐานะมวยแทน ไม่มีใครที่มองว่าเขาสู้ได้

ตลอดการชก 3 ยกจนสิ้นสุดเสียงระฆัง เกิดเสียงแตกว่าใครจะเป็นฝ่ายได้รับการชูมือ 

แม้ผู้ชนะวันนั้นคือ ตะวันฉาย แต่ชื่อของ โจ ณัฐวุฒิ เข้าไปอยู่ในใจแฟนมวยชาวไทยหลายคน

แล้ว "พี่โจ" ก็มีชื่อขึ้นป้ายอีกครั้งใน ONE FIGHT NIGHT 17 เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566

คู่ชกของเขาไม่ได้ดูแกร่งนักจึงมองว่าไม่ใช่เกมที่ยากสักเท่าไหร่ 

ทว่าเมื่อสิ้นสุดระฆังดังยกสาม ทุกเสียงปรบมือเกรียวกราวให้แก่คู่นี้ เพราะมันน่าจะเป็นหนึ่งในคู่ที่มันส์สุดในรอบปี

ต่างฝ่ายต่างสาดอาวุธ ฝั่งรับแทบทรุด ส่วนฝั่งบุกก็เกือบแย่ตอนปลาย

.

.

.

ณ ห้องสัมภาษณ์นักมวย เสียงปรบมือจากคนข่าวมีให้ "พี่โจ" ไม่ต่างจากบนสังเวียน

ทุกคนต่างซูฮกยกนิ้ว และยิ่งรู้ว่า "พี่โจ" ต้องเย็บหลายเข็มตรงหน้าแข้งก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"ในยกแรกมีอาการแข้งขวาแตกจากการเตะไปโดนเข่าคู่ต่อสู้ทำให้ใช้งานไม่ได้ และต้องเย็บถึง 5 เข็ม" พี่เขาตอบแบบงง ๆ ว่าไม่รู้แตกได้อย่างไร

"เขาโดนอาวุธผมไปเต็ม ๆ แต่ยังทนได้ แข็งแรงมาก" 

ตลอดการพูดคุยแบบกันเอง เสียงนุ่ม ๆ เรียบ ๆ ง่าย ๆ ของ โจ ณัฐวุฒิ ฟังเพลินชวนให้อมยิ้ม

ไม่มีถ้อยคำไหนที่ดูโอ้อวดหรือทะนงว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ "พี่โจ" เดินหน้าตลอดทุกวินาทีคือตอนชกที่ อเมริกา 5 ยก 

ที่นั่นเดินหน้าใส่กันตั้งแต่ยกแรก คิดคะแนนกันทุกยก ฉะนั้นทุกยกมีความหมายหมด

เขาพูดเชิงตลกว่าเสร็จแล้วจะไปเที่ยวต่อ และมีความใฝ่ฝันสักครั้งว่าอยากชิงแชมป์มวยไทย 

จากนี้ "พี่โจ" จะบินกลับไปยัง อเมริกา และคำพูดที่เขาบอกชวนให้ทึ่งในความคิด

"ช่วงที่ผมกลับไปอเมริกา ผมยังต้องทำงานอื่น ๆ ด้วยไม่ได้ซ้อมมวยอย่างเดียว ผมวางแผนทำธุรกิจหารายได้หลังชกมวยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีหลังอำลาวงการ"

มันเป็นชุดความคิดที่น่ายกย่อง ไม่แปลกใจที่ทำไม "สโมคกิ้ง โจ" ในวัย 34ปีถึงมีคนรักมากมายขนาดนี้

HOSSALONSO