เดลี่ เมล สื่อเมืองผู้ดีเผย นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถอดเสื้อชุดเยือนสีเขียวแถบขาวมอบให้กับแฟนบอลหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัดออกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ พร้อมยืนยันไม่สวมชุดดังกล่าวในซีซั่นนี้อีกแล้วแม้จะยังมีเกมนัดเยือนให้ต้องลงสนาม
เมล เผยถึงการถอดเสื้อตัวดังกล่าวของขุนพลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กับสาวกที่มารออยู่หน้าประตูทางเข้าสนาม จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม หลังจบเกมว่าเป็นไอเดียของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมที่ต้องการตอบแทนความจงรักภักดีของแฟนพันธุ์แท้ซึ่งยอมเดินทางมาเชียร์ทีมทั้งๆที่โปรแกรมถูกกำหนดให้ฟาดแข้งในช่วงดึกสามทุ่มตรงตามเวลาของอังกฤษโดยในเวลานั้นไม่มีรถไฟให้บริการเดินทางกลับเมืองแมนเชสเตอร์อีกแล้ว
ขณะเดียวกัน สื่อเจ้าดังกล่าวเสริมว่า ผีแดง จะไม่สวมชุดเยือนตัวดังกล่าวลงเล่นอีกในช่วงที่เหลือของซีซั่นแม้ในจำนวนเก้านัดที่เหลือ พวกเขาจะมีเกมออกไปเยือน เชลซี , บอร์นมัธ , คริสตัล พาเลซ และ ไบรท์ตัน แต่ ผีแดง สามารถสวมชุดแดงลงเล่นได้เนื่องจากบรรดาทีมเจ้าบ้านไม่ได้มีชุดแดงเป็นชุดเหย้า
ต่อข่าวดังกล่าว ส่งผลให้กองเชียร์ส่วนใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด พึงพอใจเนื่องจากพวกเขามองว่าเสื้อสีเขียวแถบขาวเป็นชุดที่อัปลักษ์ที่สุดชุดหนึ่งเท่าที่สโมสรเคยมี
กระนั้นก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ชื่อว่าเป็นทีมลูกหนังที่ขายเสื้อแข่งได้มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก เรอัล มาดริด จากการสำรวจเมื่อปีก่อนโดยพวกเขารับทรัพย์ไปทั้งสิ้น 213 ล้านปอนด์ (ราว 9,585 ล้านบาท) ขณะที่ ราชันชุดขาว โกยเงินได้ 391 ล้านปอนด์ (ราว 17,595 ล้านบาท) จากการขายเสื้อได้สามล้านตัว
ด้าน บาร์เซโลน่า รั้งอันดับสามในข่ายนี้ตามด้วย แมนฯ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล , อาร์เซน่อล , เอซี มิลาน , เชลซี , สเปอร์ส และ เปแอสเช
พร้อมกันนี้ มีการเผยด้วยว่าเสื้อ ผีแดง ที่ขายดีที่สุดในซีซั่นนี้คือเสื้อของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่ เรอัล มาดริด เป็นเสื้อของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม แต่เสื้อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลกับทั้งสามสโมสรที่เขาค้าแข้งด้วยไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด , เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส