ฟุตบอลยุโรปผสานกลิ่นอายละตินเป็นสไตล์การเล่นของกองทัพฝอยทองแน่นอนต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในทีมม้ามืดตัวจริงเสียงจริงที่ลุ้นผงาดครองถ้วยยูโรในคราวนี้ด้วยการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง สัญชาติญาณการเล่นด้วยทีมเวิร์กมีโอกาสจะทำให้ไปถึงฝั่งฝันได้เช่นกัน
ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าโปรตุเกสเข้าถึงรอบรองชนะเลิศสองครั้งและเป็นรองแชมป์อีกหนึ่งหน (2004) ในยูโร 4 หนหลัง ทีเดียว อย่างไรก็ดีพวกเขาก็เสียรังวัดไปพอสมควรกับฟุตบอลโลกเมื่อสองปีก่อนที่ตกรอบเร็วเกินคาดหลังจากที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดนคาดหวังถึงการแบกทีม และยูโรคราวนี้ก็ไม่แตกต่างจากครั้งนั้นเพราะในรอบคัดเลือก "เจ็ตโด้" เป็นท็อปสกอร์ของทีมด้วยการยิงถึง 5 ประตู ทำให้คว้าแชมป์กลุ่มไอมาได้ ซึ่งอัตราแชมป์ตอนหลังจับสลากแบ่งกลุ่มออกมาอยู่ที่ 20-1
เฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือพยายามทำงานหนักเพื่อถ่ายเลือดทีมชุดใหม่แม้ว่าทัวร์นาเมนต์นี้อาจจะเร็วไปสำหรับการเล็งเห็นผลผลิตของเขาแต่มิดฟิลด์อย่าง เรนาโต้ ซานเชซ วัย 18 ปีก็น่าจับตามองไม่น้อยหลังจากที่ย้ายไปซบกับเสือใต้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้ามองกับการเล่นในระบบแบบนี้แถมปรับมาเป็น 24 ทีมโปรตุเกสต้องเข้ารอบอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนรอบน็อกเอาท์จะไปไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะระเบิดฟอร์มได้ดีเพียงใดด้วยหลังจากที่ก่อนชิงแชมเปี้ยนสลีกก็มีปัญหาบาดเจ็บแต่สุดท้ายได้แชมป์ทว่าวัยก็ปาเข้าไป 31 ปีแล้ว ที่สำคัญสองปีก่อนเจ้าตัวก็เจ็บเข่าเป็นเหตุทำให้ทีมร่วงบอลโลกด้วย