ฟิตต่อเนื่อง!ทัพลูกเด้งมุ่งซ้อมผ่านวิดีวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ทัพลูกเด้งทั้งชุดใหญ่และเยาวชนทีมชาติยังมุ่งซ้อมต่อเนื่องร่วมกันแม้สถานการณ์ไวรัสระบาดผ่านการวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยเน้นไปที่การฟิตเนสร่างกายและกระบวนการคิด เฮดโค้ชเปรยอาจมีการคุยกับสมาคมฯ เพื่อหาทางออกในการให้ผู้เล่นทีมชาติได้มาเก็บตัวซ้อมร่วมกันหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ไปอีกหลายเดือน แต่อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมให้กำลังใจคนไทยอยากให้มีสติและใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้
"โค้ชกิจ" กรกิจ เสริมกิจเสรี ผู้ฝึกสอนเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาทีมชาติและเยาวชนทีมชาติในขณะนี้ยังคงทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องในสถานที่พักของตนเองผ่านการวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกันเพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19
"เราจะมีการทำการฝึกซ้อมผ่านกระบวนการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำนวน 5 วันต่อ 1 สัปดาห์ โดยวันจันทร์, พุธ และ ศุกร์ ในช่วง 16.00 น. - 18.00 น. จะเป็นการออกกำลังกายฟิตเนสเพื่อไม่ให้ร่างกายหย่อนยานไปแม้จะไม่มีการแข่งขันและยังคงการพัฒนาศักยภาพให้ต่อเนื่องไปด้วย ส่วนวันอังคารกับพฤหัสบดีใน เวลา 15.00 น. - 16.00 น. จะเป็นชั่วโมงของกระบวนการคิด โดยจะให้นักกีฬาได้ถามคำถามที่พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับตัวเขาหรือเกี่ยวกับเกมการแข่งขัน นี่คือ 2 สิ่งที่ทางสตาฟโค้ชมุ่งเน้นในช่วงที่ไม่มีการแข่งขันและฝึกซ้อมร่วมกันไม่ได้คือ ฟิตเนสและกระบวนการคิด" โค้ชกิจกล่าว
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพลูกเด้งไทยยังเผยอีกว่า การฝึกซ้อมในรูปแบบนี้เริ่มมาได้ 3 สัปดาห์และได้รับความร่วมมือจากนักกีฬาเป็นอย่างดี การวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์นั้นจะทำร่วมกันทั้งทีมชาติชุดใหญ่และทีมเยาวชนทีมชาติ นำทัพโดย พี่น้องเสวตรบุตร หญิง สุธาสินี กับ บัว จิณห์นิภา, "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง และ "ไบร์ท" ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล ซึ่งการวิดีโอร่วมกันแต่ละครั้งก็จะมีผู้เข้าร่วมกว่า 20 คน โดยแบบฝึกแต่ละสัปดาห์อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ด้วยวิธีการซ้อมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เช่นนี้หากดูแล้วแบบฝึกไหนที่มันซับซ้อนเกินไปเข้าใจยากก็จะเปลี่ยนทันที
อย่างไรก็ดีแน่นอนว่าประสิทธิภาพย่อมไม่เทียบเท่ากับซ้อมร่วมกันซึ่งๆ หน้า ซึ่งในกรณีนี้ทางสตาฟโค้ชจะปรึกษากับทางสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยต่อไปสำหรับความเป็นไปได้ที่นักกีฬาทีมชาติจะมีโอกาสมาฝึกซ้อมร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพให้ต่อเนื่องหากสถานการณ์ต่างๆ ยังต้องเป็นแบบนี้ไปอีกหลายเดือน โดยประเทศมหาอำนาจวงการลูกเด้งๆ หลายชาติก็ได้มีกระบวนการที่กำลังปฏิบัติอยู่อย่างเช่นจีนหรือเกาหลีใต้ ทั้งนี้สำหรับไทยก็คงต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองกันก่อนด้วย
"กับสถานการณ์ตอนนี้ผมอยากเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคน ผมอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น เราต้องมาตั้งสติว่าเราจะอยู่กับเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่นแฟนสาวของผมเป็นพยาบาล ครั้งแรกที่เขาส่งรูปมาให้ผมดูในขณะที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ช่วงโควิดนี้ผมตกใจมาก แต่ผมก็ให้กำลังใจไปว่า ตั้งสติให้ดี ใส่ชุดให้รัดกุมและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่ง มันเกิดขึ้นทั้งโลก ดังนั้นคนที่รายได้ต้องน้อยลงก็คงต้องเรียนรู้กันไปว่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร ฟังเหมือนจะพูดง่ายว่าให้ตั้งสติ แต่ผมมองว่าหากเราฟุ้งซ่านไป โวยวายเสียใจไปสุดท้ายมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ" "โค้ชกิจ" กรกิจ เสริมกิจเสรี กล่าวทิ้งท้าย