หรือบอลไทยจะหยุดอยู่แค่นี้ถ้าไม่...

เป็นที่ถกเถียงกันมานาน ทำไมวงการลูกหนังไทยถึงไม่ก้าวผ่านย่านอาเซียน สู่ระดับเอเชียกันเสียที บ้างก็หวังจะไปเล่นในเวที ฟุตบอลโลก กันเลยทีเดียว
หากแต่มีหลายสิ่งที่เห็นได้ชัด ว่าเรายังทำไม่ได้หากจะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับนั้น นั่นก็อยู่ที่ต้นเหตุ ก็เป็นเรื่องของการฝึกซ้อมประจำวันในบ้านเรานี่แหละ
โดยทัศนคติ ที่ฝังอยู่กับการฝึกซ้อมวันละหนึ่ง มื้อละประมาณ 2 ช.ม. ในตอนเย็น มองยังไงมันก็ไม่น่าจะเข้าถึงศาสตร์ความเก่งฟุตบอลได้อย่างแน่นอน
เย็นซ้อมเสร็จบ้านใครบ้านมัน มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่าฟุตบอล ที่ดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรก มากเสียกว่าฟุตบอลอาชีพไป
ยกตัวอย่างลีกชั้นนำเอเชียอย่าง เจลีก ญี่ปุ่น ที่มีนักฟุตบอลไทยไปเล่นหลายคน ซึ่งปัจจุบันก็มี อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน และ เจ ชนาธิป สงกระสินธ์ โดยทั้งสองคนต่างมีกิจวัตรประจำวันที่ไม่แตกต่างจากนักฟุตบอลญี่ปุ่นคนอื่น
นั่นก็คือต้องตื่นแต่เช้า เข้าสโมสรเพื่อทำการฝึกซ้อมหนักเบา ทำการฟิตเนส กายภาพฟื้นฟูร่างกาย หรือแม้กระทั่งการนั่งดูเทปศึกษาเกมคู่ต่อสู้ และอีกจิปาถะ ที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ทีมงานจะจัดโปรมาแกรมมาให้ ก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมต่างๆที่ทางทีมวางไว้แต่ละวัน เช้ายันบ่ายยาวถึงเย็นเป็นปกติ เหมือนนักฟุตบอลไม่ต่างจากพนักงานบริษัท ที่ต้องทำงานกันทั้งวัน
ถ้าจะอ้างถึงเรื่องสภาพอากาศหน้าร้อน บ้านเขาช่วงซัมเมอร์ก็อุณหภูมิอยู่ที่ 30 กว่าองศา ซ้อมหรือแข่งขัน บางวันก็ช่วงเที่ยงบ่ายเย็นเป็นปกติธรรมดา หรือจะเป็นลีกเบลเยียม อย่างทีมของ ตอง กวินทร์ ก็ซ้อมเช้าถึงเย็น เป็นเรื่องปกติ
แม้แต่นักฟุตบอลอิหร่าน ประเทศในดินแดนอาหรับ ที่ร้อนไม่ต่างจากบ้านเรา เราก็มักจะเห็นแข้งอิหร่าน ซ้อมกลางแดดช่วง 10 โมงเช้าอยู่เสมอ
ยิ่งไม่ต้องเทียบกับนักเตะดาวดังระดับโลก อย่างเช่น เมสซี่,โรนัลโด้ ก็ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักเป็นเวลานาน เพื่อให้ร่ายกายแข็งแกร่งอยู่เสมอ แม้อายุจะมากขึ้นจนมาถึงจุดนี้ได้
เรื่องดังกล่าวเราคงไม่ได้มโนขึ้นมาเอง ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดล่าสุด ก็คงจะเป็นที่ "ฮาจิเมะ โฮโซไก" นักเตะแดนปลาดิบ ที่เคยมาค้าแข้งในไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงไทยลีกไว้ว่า "ที่นี่เขาซ้อมกันแบบสบาย แถมค่าตัวเยอะมาก"
ดูแล้วยังเป็นคำถาม ถึงทฤษฎีฟุตบอลบ้านเรา ที่เห็นคุณค่าของการฝึกซ้อมน้อยเกินไปหรือเปล่า ก็ได้แต่หวังการปลูกฝังทัศนคติใหม่ๆให้แก่เด็กรุ่นใหม่ ที่อยากจะก้าวเข้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ให้มองมืออาชีพเป็นตัวอย่าง มองแค่ "ฟุตบอลไม่ใช่งานอดิเรก" ก็แล้วกัน