ไทยลีก3วุ่นต่อ!นนทบุรีฯยื่นท้วงส.บอลฯตัดสินไม่เป็นธรรม

นนทบุรี ยูไนเต็ด เดินหน้าสู้ ทวงสิทธิ์ที่ต้องได้ไปรอบแชมเปี้ยนส์ลีก 12 ทีมสุดท้าย หลัง ส.บอลฯ พิจารณาให้ บางกอก เอฟซี ทีมอันดับ 3 ที่มีเฮดทูเฮดที่ดีกว่าได้ไปแทน โดย นนทบุรี ยูไนเต็ด ลุยยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปที่ บ.ไทยลีก เพื่อคัดค้านการพิจารณาหลังต้องตัดจบการแข่งขันจากโควิด-19 แจงชัดการวินิจฉัยหาทีมเข้ารอบกับลีกต้องตัดจบของ ส.บอลฯ เป็นการพิจารณาด้วยการนำกฏที่ไม่ถูกต้องมาใช้ ทำให้ นนทบุรี ยูไนเต็ด ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับ โดยเฉพาะการตกหล่นเกณฑ์ข้อที่ 13.3 ที่ไม่มีการนำมาพิจารณา ส่วนข้อบังคับที่ ส.บอลฯ ใช้ ทั้งข้อ 13 , ข้อ 13.1 , ข้อ 13.2 และ ข้อ 13.2.1 ยืนยัน ใช้ไม่ได้ เพราะเป็นกฏที่การแข่งขันต้องสิ้นสุดฤดูกาลเท่านั้น แต่นี่เป็นการพิจารณา "ระหว่างฤดูกาล"
จากผลสรุปที่ ส.บอลฯ สั่งตัดจบการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก3ทั้ง 6 ภาคหลังเจอวิกฤต โควิด-19 พร้อมกับสรุป 12 ทีมที่จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเพื่อคัด 3 ทีมที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก2ฤดูกาลหน้า ซึ่งมี 2 สโมสรที่แม้อันดับตารางคะแนนจะอยู่ในอันดับ 2 แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเพราะคะแนนเฮดทูเฮดเป็นรองทีมอันดับ 3 ทั้งในส่วนของโซนกรุงเทพฯ ซึ่ง นนทบุรี ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ของตาราง รวมถึง แม่โจ้ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ของโซนภาคเหนือที่อดไปเล่นรอบแชมเปี้ยนส์ลีกในขั้นสุดท้าย
ล่าสุด สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ได้ทำหนังสือขออุทธรณ์ผลการพิจารณาทีมเพื่อเข้าแข่งขันในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกไปยังประธานบริษัท ไทยลีก จำกัด โดยผู้จัดการแข่งขันให้สิทธิ์กับ นอร์ทกรุงเทพ เอฟซี ทีมอันดับ 1 และ บางกอก เอฟซี ทีมอันดับ 3 แทนที่ของ นนทบุรี ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 โดยที่ บางกอก เอฟซี มีจำนวนนัดที่แข่งขันและคะแนนรวมเท่ากันกับ นนทบุรี ยูไนเต็ด โดยผู้จัดได้ยกระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ รายการไทยลีก3 ฉบับวันที่ 23 ก.ค.2563 ข้อ 13 , ข้อ 13.1 , ข้อ 13.2 และ ข้อ 13.2.1 ทำการตัดสินให้ทีมบางกอก เอฟซี ได้ไปเล่นรอบแชมเปี้ยนส์ลีก
จากผลการตัดสินดังกล่าว นนทบุรี ยูไนเต็ด เห็นว่าสโมสรไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับ เนื่องจากการจบการแข่งขันในครั้งนี้ไม่อาจจะถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ "สิ้นสุดฤดูกาล" ดังนั้นการที่ผู้จัดฯยกเพียงระเบียบข้อ 13 , ข้อ 13.1 , ข้อ 13.2 และ ข้อ 13.2.1 มาใช้ในการพิจารณาตัดสินนั้นย่อมไม่ตรงตามระเบียบและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากการแข่งขันที่ถูกจบลงไปนั้นย่อมส่งผลให้เป็นการแข่งขันที่ "ไม่สิ้นสุดฤดูกาล" ตามระเบียบข้อบังคับที่ 13.1 แต่จะอยู่ในระเบียบข้อบังคับที่ 13.3 ซึ่งเป็นการจบลีก "ระหว่างฤดูกาล" นั่นเอง
หากพิจารณาตามข้อเท็จจริงของการแข่งขันที่ "ไม่สิ้นสุดฤดูกาล" จึงต้องนำระเบียบข้อ 11(วรรคท้าย) มาพิจารณาด้วย โดย ระเบียบข้อ 11(วรรคท้าย) ระบุไว้ว่า หลังจากจบการแข่งขันไทยลีก3 ให้ทีมที่มีคะแนนอันดับหนึ่งและอันดับสองของแต่ละกลุ่ม ตามตารางคะแนนการแข่งขัน รวม 12 ทีม ได้สิทธิ์ไปแข่งขันในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจำนวนทีมจากแต่ละกลุ่มที่ได้สิทธิ์เข้ามาแข่งขัน อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันแต่ละปี เมื่อพิจารณาตามข้อ11(วรรคท้าย) นนทบุรี ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในอันดับที่ 2 ตามตารางคะแนนการแข่งขัน จึงสมควรได้สิทธิ์ไปแข่งขันในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก
โดยระเบียบ ข้อ 13 เกี่ยวกับการจัดอันดับ ประกอบด้วย ข้อ 13.1 ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดเมื่อสิ้นฤดูดาลเป็นทีมแชมป์ ส่วนทีมที่ได้คะแนนรองลงมาจะถูกจัดอันดับลดหลั่นกันตามคะแนนรวมที่ได้จนถึงทีมสุดท้าย
อธิบายได้ว่า การแข่งขันเมื่อ "สิ้นสุดฤดูกาล" คือ ต้องเป้นการแข่งขันแบบพบกันหมดในแต่ละกลุ่ม จำนวน 2 เลก ซึ่งแต่ละทีมจะแข่งขันเป็นทีมเหย้า 1 ครั้งและเป็นทีมเยือน 1 ครั้ง ซึ่งเป็นตามกฏและกติกา Laws of The Game ตามข้อ 11(วรรคหนึ่ง) ซึ่งการแจ่งขันในฤดูกาบ 2563/64 มีการแข่งขันไม่ครบตามข้อ 11 วรรคหนึ่ง จึงไม่สามารถที่จะนำระเบียบข้อบังคับที่ 13.1 มาเป็นเกณฑ์พิจารณาในกรณีนี้ได้
ส่วนข้อ 13.2 ในกรณีที่มีทีมมากกว่า 1 ทีมขึ้นไป ได้คะแนนรวมเท่ากันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาการจัดอันดับ เรียงลำดับดังนี้ นนทบุรี ยูไนเต็ด มี 44 คะแนน , บางกอก เอฟซี มี 44 คะแนน ข้อ 13 การจัดอันดับสามารถพิจารณาได้ 2 ข้อดังนี้
13.1 ทีมที่ได้คะแนนรวมสูงสุดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเป็นทีมชนะเลิศ ส่วนทีมที่ได้คะแนนรองลงมาจะถูกจัดอันดับลดหลั่นกัน ตามคะแนนรวมที่ได้จนถึงทีมสุดท้าย นนทบุรี ยูไนเต็ด พิจารณาแล้วว่า เมื่อการแข่งขันของลีกไม่มีการแข่งขันจน "สิ้นสุดฤดูกาล" ตามข้อ 13.1 จึงนำเอาหลักเกณฑ์ข้อ 13.1 มาพิจารณาไม่ได้
ข้อ 13.3 ในการจัดอันดับระหว่างการแข่งขัน เพื่อแสดงลำดับในตารางคะแนนระหว่างฤดูกาลให้ใช้เกณฑ์พิจารณา โดยใช้หลักเกณฑ์การเรียงลำดับดังนี้ 13.3.1 พิจารณาจากคะแนนรวมสูงสุด , 13.3.2 ถ้าคะแนนเท่ากันให้พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ประตูเสีย , 13.3.3 ถ้าคะแนนยังเท่ากันอีกให้ดูเฉพาะประตูได้ และ 13.3.4 ถ้าคะแนนยังเท่ากันอีกให้ดูจากจำนวนนัดที่ชนะ
ทางสโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ได้พิจารณาตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันของลีก มิได้มีการแข่งขันจน "สิ้นสุดฤดูกาล" ตามข้อ 13.1 จึงนำเอาหลักเกณฑ์ ข้อ 13.1 มาใช้พิจารณาไม่ได้ ต้องนำเอาระเบียบข้อ 13.3 มาพิจารณาเพราะเป็นการจัดอันดับ "ระหว่างการแข่งขัน" เพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมใดจะมีลำดับ 1-2 ตามตารางในระหว่างฤดูกาล เพื่อจะได้ทีมที่ไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ตามข้อ 13 ซึ่งเมื่อพิจารณาตามนี้แล้วจะเห็นว่า นนทบุรี ยูไนเต็ด ที่มีผลต่างประตูได้ประตูเสีย ดีกว่า บางกอก เอฟซี จึงมีสิทธิ์ได้ไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก
การที่บริษัทไทยลีกได้ให้เหตุผลในวันที่พิจารณา ( 5 ม.ค.64 ) ในข้อ 13.3 เพื่อหาทีมที่จะแสดงอันดับในตารางคะแนนระหว่างฤดูกาลนั้น ทางสโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ได้ทำการตรวจสอบแล้วปรากฏว่า การพิจารณาของบริษัท ไทยลีกนั้น ไม่สอดคล้องและขัดแย้งกับระเบียบข้อบังคับ ตามข้อ 11(วรรคท้าย) และข้อ 13 เนื่องจากข้อ 11 มีรายละเอียดระบุว่า หลังจากจบการแข่งขันในลีก ให้ทีมที่มีคะแนนสะสมอันดับหนึ่งและสองของแต่ละกลุ่ม ตามตารางคะแนนการแข่งขัน ได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก และข้อ 13 มีรายละเอียดระบุว่าให้มีการจัดอันดับทีมที่มีคะแนนรวมสูงสุดเป็นทีมชนะเลิศ หากมีทีมที่คะแนนเท่ากันมากกว่าหนึ่งทีม ให้ใช้เกณฑ์จัดอันดับตามข้อ 13.2 และ 13.3 ดังนั้นจะเห็นได้ว่าระเบียบข้อ 11 และข้อ 13 จึงเป็นรายละเอียดของการหาทีมที่มีคะแนนเท่ากันเพื่อไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก หาใช่เพื่อการใช้แสดงอันดับในตารางดังที่บริษัท ไทยลีก วินิจฉัย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทางสโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด จึงขออุทธรณ์คำตัดสินของบริษัท ไทยลีกฯ เพื่อได้โปรดพิจารณาทบทวนในคำวินิจฉัยดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ ของบริษัท ไทยลีก 2563 ซึ่งจะนำพามาซึ่งความยุติธรรมและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป