ชี้ชะตาโซลชา? 5 ประเด็นร้อนก่อนแมนยูบุกเอฟเวอร์ตัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเมาหมัดอย่างหนักหลังจากปราชัยมาสองนัดติดต่อกันในทุกรายการทำให้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กลับมาอยู่ในช่วงเก้าอี้ร้อนฉ่าอีกครั้ง ค่ำวันนี้พวกเขาจะต้องเจองานหนักเมื่อต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 4 ของตาราง ถือเป็นการเจอกันถูกที่ถูกเวลามากๆเมื่อเทียบกับฟอร์มในช่วงหลังของทั้งสองทีม ทีมใดจะฟื้นกลับมาได้คงต้องรอติดตาม แต่ก่อนเกมเรามาดูประเด็นต่างๆที่น่าสนใจกัน
1.แขวนบนเส้นด้าย
ผลการแข่งขันสองนัดหลังสุดของ “ผีแดง” จุดประเด็นให้ โซลชา กลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้ง และยิ่งไปกว่านั้นสื่อท้องถิ่นอย่าง แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ก็สุมไฟเพิ่มขึ้นจากการรายงานข่าวว่า “ปีศาจแดง” ติดต่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพื่อมาต่อคิวรอรับงานกุนซือแล้ว
โซลชา เคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มานับไม่ถ้วนเมื่อฤดูกาลที่แล้วและเขามักจะเอาตัวรอดได้เสมอ แต่แฟนผีเริ่มจะหมดความอดทนกับผลการแข่งขันที่วนลูปแบบนี้ ชัยชนะในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล, เปแอสเช, ไลป์ซิก นั้นยอดเยี่ยมแต่กับเกม อาร์เซน่อล และ บาซัคเซเฮียร์ นั้นช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ โซลชา ต้องปรับปรุงด่วน เขามีเวลาให้เรียนรู้มาหนึ่งฤดูกาลเต็มๆแล้ว แต่กลับยังแก้ไขไม่ได้ ไม่แปลกใจที่คืนนี้อาจจะเป็นเกมชี้ชะตาของเขาก็ว่าได้ เชื่อว่าหาก “ผีแดง” แพ้แบบหมดรูปอาจจะต้องถึงเวลาที่โดนปลดเสียที
2.แผนไหนดี?
หลังจากยึดแผนการเล่น 4-2-3-1 มาตลอด โซลชา ก็เริ่มมีการปรับแผนในช่วง 5 นัดหลังตามคู่แข่งที่ต้องเจอ ทั้งระบบ 5-3-2 ในเกมพบ เปแอสเช หรือ 4-4-2 ไดมอนด์ในเกมกับ ไลป์ซิก และ อาร์เซน่อล หรือ 4-1-3-2 ในเกมกับ บาร์ซัคเซเฮียร์
บางแผนใช้ได้กับเกมหนึ่งแต่บางแผนก็ใช้ไม่ได้กับอีกเกมหนึ่งยก ตัวอย่างเช่นระบบ 4-4-2 ไดมอนด์ซึ่งเป็นแผนที่อัดแดนกลางมา 4 คนโดยไม่มีปีกและแนวรุกริมเส้นจะต้องอาศัยแบ็กในการเติมเกมบุก โซลชา นำมาใช้ได้ผลกับ ไลป์ซิก แต่เมื่อยึดแผนนี้ในเกมกับ อาร์เซน่อล กลับขึ้นเกมบุกไม่ได้
ความพ่ายแพ้ต่อ บาซัคเซเฮียร์ น่าสนใจว่าจะทำให้เกมเยือน เอฟเวอร์ตัน คืนนี้ โซลชา จะกลับมายึดแผน 4-2-3-1 เหมือนเดิมหรือเปล่า? เนื่องจากเป็นแผนที่ค่อนข้างเพลย์เซฟสำหรับกุนซือและลูกทีมน่าจะเข้าใจมากที่สุด แต่ปัญหาหลักๆของแผนนี้ยังคงเป็นตำแหน่งปีกขวาซึ่งยังไม่มีใครยืนระยะได้เลยทั้ง ฆวน มาต้า หรือ แดเนี่ยล เจมส์
3.เตลลิสพร้อมหรือยัง?
อเล็กซ์ เตลลิส เซ็นสัญญาเข้ามาในทีมวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ และเขาเพิ่งจะลงสนามเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นซึ่งเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงเกมเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมแมตช์นั้นอดีตแบ็กซ้ายปอร์โต้เล่นไม่จบเกมด้วยเนื่องจากถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 67
โซลชา ออกมายืนยันหลังเกมพบ ไลป์ซิก ว่า เตลลิส ติดเชื้อโควิด-19 นั่นทำให้เขาต้องกักตัว 2 สัปดาห์และพลาดลงสนามในเกมกับ อาร์เซน่อล และ บาซัคเซเฮียร์ จนกระทั่งเมื่อวานก่อน เตลลิส กลับมามีผลตรวจเชื้อเป็นลบแล้ว จึงซ้อมกับทีมเต็มรูปแบบแล้วเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา
ความพ่ายแพ้สองนัดที่ผ่านมารวมถึงเกมเสมอ เชลซี แสดงให้เห็นว่าทำไมต้องทีมต้องการ เตลลิส การครอสบอลด้านข้างยังเป็นปัญหาอยู่มากทั้งจากปีกและแบ็กทำให้ทีมเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ยากเหลือเกิน คืนนี้เขาอาจจะยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยน่าจะกดดัน ลุค ชอว์ ให้เค้นฟอร์มดีออกมา ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์จะเสียตำแหน่งหลังเกมทีมชาติ
4.คีย์แมนรีเทิร์น
“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” นอกจากเสริมทัพได้น่าจับตามองในช่วงซัมเมอร์แล้ว พวกเขายังเปิดตัวฤดูกาลนี้อย่างสวยงามด้วยการเก็บชัย 8 นัดรวดในทุกรายการจน คาร์โล อันเชลอตติ และลูกทีมได้รับคำชมอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตาม 3 เกมหลังสุด เอฟเวอร์ตัน กลับฟอร์มแผ่วหาชัยชนะไม่เจอ เริ่มจากเสมอ ลิเวอร์พูล แบบเกือบแพ้ ก่อนมาปราชัย 2 นัดติดให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ นิวคาสเซิ่ล ถ้าจะหาสาเหตุหลักๆที่ฟอร์มตกลงอาจเป็นเพราะขาดนักเตะตัวหลักหลายคนไม่ว่าจะเป็น ริชาร์ลิซอน กับ ลูก้าส์ ดีญ ที่ติดโทษแบนรวมถึง ฮาเมส โรดริเกซ ที่บาดเจ็บซึ่งเกมคืนนี้จะได้ทั้ง ดีญ และ ฮาเมส กลับมาสู่ทีม เชื่อว่าทั้งสองจะมีผลต่อเกมรุกของทีมมากทีเดียวโดยเฉพาะในรายหลังที่ตั้งแต่ย้ายมาเล่นพรีเมียร์ลีกก็ฟอร์มเปรี้ยงจากการยิง 3 แอสซิสต์ 3
แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเกมรับของทีมซึ่งเก็บคลีนชีทไม่ได้มา 8 นัดติดต่อกันในทุกรายการแล้วและถ้านับเฉพาะในลีกก็เพิ่งจะไม่เสียประตูแค่นัดเปิดฤดูกาลเท่านั้น
5.สถิตไม่ดีบู๊ทอฟฟี่
“ผีแดง” ทำสถิติแย่ๆมาต่อเนื่องหลังเก็บผลการแข่งขันไม่ได้ดั่งใจ และสำหรับการเยือนถิ่น กูดิสัน พาร์ค คืนนี้ ก็มีแววจะเป็นเช่นนั้นอีกครั้งเมื่อดูจากสถิติการเจอกันในช่วงหลัง โดย แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ เอฟเวอร์ตัน ในลีกได้แค่ 3 ครั้งจาก 12 นัดหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 5)
โซลชา ยังไม่เคยพา “ปีศาจแดง” ชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้เลย โดยสามครั้งที่ผ่านมามีทั้งแพ้หมดรูป 4-0 ในฤดูกาล 2018-19 และเสมอ 1-1 ทั้งเหย้าและเยือนในฤดูกาล 2019-20 แถมถ้านับรวมสมัยคุม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ก็เท่ากับว่าไม่ชนะ “ทอฟฟี่” ทั้ง 4 นัดที่เจอกัน (เสมอ 2 แพ้ 2)
คงไม่ต้องบอกว่าคืนนี้กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจองานยากแค่ไหน หากบุกเก็บสามแต้มไม่ได้จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีแต้มน้อยที่สุดหลังผ่านไป 7 แมตช์นับตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90 เลยทีเดียว
"Zvo"
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]