ปิดซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบ ! ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูล บุกทุบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ลิเวอร์พูล จบฤดูกาล 2019/2020 อย่างสมบูรณ์ ด้วยการทำผลงานสุดยอดหลังจากบุกไปทุบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-1 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาสามารถเก็บได้ 99 คะแนน กลายเป็นแต้มที่สูงที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร และยังเป็นการเก็บชัยชนะได้ 32 แมตช์เทียบเท่ากับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยทำไดเอาไว้เมื่อ 2 ซีซั่นก่อนหน้านี้
อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6
หมดสิทธิป้องกันประตูในจังหวะที่โดน ดไวท์ เกล หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มบอลเข้าประตูตั้งแต่ 25 วินาทีแรกของเกม จากนั้นก็โชว์ป้องกันลูกยิงของ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ ส่วนในครึ่งหลังแทบไม่ต้องทำงาน
เนโก วิลเลี่ยมส์ : 6
ต้องเจอกับงานหนักในการประกบผู้เล่นเกมรุกของเจ้าบ้าน โดยเฉพาะจังหวะเสียประตูแรกที่ไล่ตาม ดไวท์ เกล ไม่ทัน แต่ก็ถือว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเตะดาวรุ่งชาวเวลส์
โจ โกเมซ : 6
ทำผลงานได้ดีในยามที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว ครองบอลนิ่ง แม้จะมีจังหวะพลาดในช่วงท้ายเกมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ทีมเสียหาย
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ : 8
โหม่งประตูตีเสมอได้อย่างสุดยอด เล่นลูกกลางอากาศได้รวดเร็ว และเป็นจุดเด่นของนักเตะโดยเฉพาะในจังหวะทำประตู ส่วนเกมรับยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7
โดดเด่นในการเติมเกมรุก และเกมรับ แถมยังแอสซิสต์ให้ ดิว็อค โอริกี้ ทำประตู
เจมส์ มิลเนอร์ : 7
ยังคงเป็นนักเตะที่วิ่งเยอะ และพยายามหาช่องว่างตลอดเวลา เล่นด้วยความดุดันและแย่งบอลกลับคืนมาได้ตลอด
จอร์จินโย่ ไวนัลดุม : 7
โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง โดยรับบทบาทยืนลึกในแผงกองกลาง คอยทำหน้าที่ควบคุมจังหวะเกมได้ดี ผลงานของ ไวนัลดุม ยังคงมีอนาคตกับ "หงส์แดง" แน่นอน
นาบี เกอิต้า : 7
ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ครองบอลได้ยอดเยี่ยม พยายามขยับเคลื่อนเกมเข้าไปในกรอบเขตโทษ ไม่หวาดหวั่นในการเข้าปะทะกับกองหลังคู่แข่ง ต้องบอกเลยว่าแมตช์นี้ เกอิต้า โดดเด่นมากๆ
อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน : 6
ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก แต่หลังจากนั้นก็แสดงให้เห็นถึงการวิ่งหาพื้นที่ได้อย่างสุดยอด ก่อนจะเปิดบอลให้ ฟาน ไดค์ โหม่งตีเสมอ
ทาคูมิ มินามิโนะ : 6
ดาวเตะชาวแดนอาทิตย์อุทัย ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ แต่แมตช์นี้นักเตะแสดงให้เห็นถึงการทำงานหนัก และมีจังหวะโชว์ลีลาม้วนตัวสวยๆ และยิงประตูแต่ถูก มาร์ติน ดูบราฟก้า เซฟเอาไว้ได้
ดิว็อค โอริกี้ : 6
ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เกมที่ดีเยี่ยมสำหรับหัวหอกชาวเบลเยียม ทั้งการจับบอล และการผ่านบอลก็ไม่ค่อยน่าประทับใจ แต่ยังดีที่นักเตะโชว์จังหวะการยิงประตูสุดสวยบริเวณกรอบเขตโทษ
สำรองที่ลงสนาม
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (แทน อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น. 64) : 6
สร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับ นิวคาสเซิ่ล มีโอกาสยิงไปชนเสา
ซาดิโอ มาเน่ (แทน ทาคูมิ มินามิโนะ น. 64) : 7
ผลงานโดดเด่นเป็นสง่า ลงมาเปลี่ยนเกมได้ในทันที ที่สำคัญยังซัดประตูสุดสวยด้วยการโชว์ลีลาเหนือชั้น
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (แทน ดิว็อค โอริกี้ น. 64) : 7
ลงมาทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และช่วยสร้างสรรค์เกมให้กับทีมได้ตลอด โดยเฉพาะจังหวะการผ่านบอลที่เฉียบคมให้กับ ซาลาห์ และ เกอิต้า รวมไปถึงจังหวะแอสซิสต์ให้ มาเน่ ซัดประตูตอกฝาโลง
เคอร์ติส โจนส์ (แทน นาบี เกอิต้า น. 83) : ไมมีคะแนน
เนื่องจากลงเล่นช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะแสดงผลงาน
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (แทน เนโก วิลเลี่ยมส์ น. 83) : ไมมีคะแนน
เนื่องจากลงเล่นช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะแสดงผลงาน
ทอมเม้ง
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]