เข้าโค้งสุดท้าย! เปรียบเทียบคุณภาพขุมกำลังตอนนี้ของ ลิเวอร์พูล กับ แมนซิตี้

ตอนนี้การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2018-19 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว และมันก็น่าจะเหลือทีมที่มีลุ้นแชมป์แบบจริงจังแค่ 2 ทีมเท่านั้น นั่นคือ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ดันพลาดท่าแพ้ เบิร์นลี่ย์ แบบสุดช็อก 1-2 ในนัดล่าสุด
ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล เป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนด้วยผลงาน 66 แต้ม จากการลงเล่น 27 นัด ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ตามหลังเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ในทางกลับกัน "เรือใบสีฟ้า" คือฝ่ายที่ได้เปรียบเรื่องผลต่างประตูได้-เสีย จากการที่มีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่า "หงส์แดง" 10 ลูก
แน่นอนว่าในเกมฟุตบอลนั้น นักเตะทุกคนต่างก็มีความสำคัญกันทั้งหมด ยิ่งในช่วงสำคัญแบบนี้ขุมกำลังทุกคนยิ่งมีค่ากับทีมมากขึ้นไปอีก ซึ่งวันนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบกันว่าระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ นั้น ฝั่งไหนมีขุมกำลังในแต่ละตำแหน่งที่ดีกว่ากัน
- ผู้รักษาประตู
การเข้ามาของ อลีสซง เบ็คเกอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ถือเป็นการอัพเกรดคุณภาพในตำแหน่งนายทวารครั้งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล เพราะเขาเล่นได้ดีกว่า ลอริส คาริอุส มือกาวชาวเยอรมันอย่างชัดเจน การที่เขาเก็บคลีนชีทในลีกประจำซีซั่นนี้ได้ถึง 15 ครั้ง คือหนึ่งในสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีมือ 2 ที่พอไว้ใจได้ในระดับหนึ่งอย่าง ซิมง มิโญเล่ต์ ด้วย ส่วน ควีวีน เคลเลเฮอร์ เป็นนายด่านเบอร์ 3 ที่คงต้องพัฒนาฝีมือไปก่อน
ทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ แน่นอนว่า เอแดร์ซอน โมราเอส ทำผลงานได้น่าพอใจในซีซั่นนี้ แต่ถ้าพูดตามตรงก็ต้องบอกว่าเขาฟอร์มตกลงมาจากฤดูกาลก่อนเยอะพอตัว ฟอร์มของเขาในตอนนี้สู้กับ อลีสซง ไม่ได้ ส่วนตัวสำรองอย่าง อรียาเน็ต มูริช นั้น ถ้าเทียบกับ มิโญเล่ต์ ก็ต้องบอกว่าเป็นรอง ขณะที่ เคลาดิโอ บราโว่ เลิกพูดถึงไปได้เลย เพระเจ้าตัวเอ็นร้อยหวายขาดจนต้องพักนานไปแล้ว
คะแนนคุณภาพในปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล 4.5/5, แมนฯ ซิตี้ 4/5
- แผงหลัง
ลิเวอร์พูล คือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดของลีกในตอนนี้ หลังจากจนถึงตอนนี้พวกเขาเพิ่งโดนยิงในลีกไปเพียง 15 ลูกเท่านั้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องนั้นก็คือความยอดเยี่ยมของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังชาวดัตช์ที่ทำผลงานได้สุดยอดสมกับค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,075 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ลิเวอร์พูล โชคดีด้วยที่ ฟาน ไดค์ ไม่เคยเจ็บหนักจนต้องพักนานเลย และในฤดูกาลนี้เขาก็ลงเล่นในลีกครบทั้ง 27 นัด ขณะที่เซนเตอร์แบ็กคนอื่นๆ ที่พอเชื่อใจได้ก็มีแค่ โจ โกเมซ เท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ดันโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานซะอีก ขณะที่ เดยัน ลอฟเรน และ โฌแอล มาติป เป็นพวกผีเข้าผีออก
นอกจากนี้ ตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กขวาของ ลิเวอร์พูล ก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย จริงอยู่ว่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำผลงานได้โดดเด่น แต่ ลิเวอร์พูล ไม่มีตัวเลือกไหนที่ดีพอจะเล่นได้สักครึ่งหนึ่งของศักยภาพทั้งหมดของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลย
ทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ พวกเขามีตัวเลือกในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ดีๆ หลายคน ไม่ว่าจะเป็นทั้ง จอห์น สโตนส์, อายเมอริค ลาป๊อร์กต์, แว็งซ็องต์ กอมปานี และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ แน่นอนว่าทั้ง 4 คนไม่มีใครสู้ ฟาน ไดค์ ในตอนนี้ได้ แต่พวกเขาต่างก็เป็นกองหลังคุณภาพสูง และเหนือกว่าเซนเตอร์แบ็กอีก 3 รายของ ลิเวอร์พูล พอตัว ดังนั้นการที่ ลาป๊อร์กต์ เพิ่งเจ็บจากเกม คาราบาว คัพ นัดชิงดำ จึงอาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากนัก
ส่วนฝั่งฟูลแบ็กนั้น โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็มีแข้งที่มีประสบการณ์ดีทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์, ดานิโล่, ฟาเบียน เดลฟ์ เรียกได้ว่าแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ดูดีกว่าพอตัวเลย
คะแนนคุณภาพในปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล 4/5, แมนฯ ซิตี้ 4.5/5
- แผงกลาง
ในภาพรวมแล้ว แผงกลางของ แมนฯ ซิตี้ ดูมีชื่อชั้นดีกว่าอย่างชัดเจน เพราะพวกเขามีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นานดินโญ่, แบร์นาโด้ ซิลวา, ดาบิด ซิลบา, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ และ ลีรอย ซาเน่
ถึงกระนั้น กองกลางที่สำคัญที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ ในตอนนี้คือ แฟร์นานดินโญ่ หลังจากที่เขามักจะช่วยทีมได้อยู่บ่อยๆ และเป็นทั้งคนที่เข้าสกัดในลีกมากที่สุดของทีม ที่จำนวน 52 ครั้ง รวมถึงเป็นมิดฟิลด์ที่ผ่านบอลมากที่สุดของทีมในลีก ที่จำนวน 1,884 หนด้วย (คนที่ผ่านบอลในลีกมากที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ คือ ลาป๊อร์กต์ ที่จำนวน 2,313 หน)
ปัญหาก็คือ แฟร์นานดินโญ่ เพิ่งเจ็บจากเกม คาราบาว คัพ มาหมาดๆ โดยที่ โจเซป กวร์ดิโอล่า ก็ยอมรับว่าลูกทีมคนเก่งต้องพักหลายสัปดาห์ ซึ่งนั่นก็ทำให้คุณภาพโดยรวมในด้านนี้ของ แมนฯ ซิตี้ น่าเป็นห่วงพอตัว ขณะที่ เดอ บรอยน์ ก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่สุดยอดเหมือนเมื่อซีซั่นก่อนได้
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งแผงกลางของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่ากันเท่าไหร่นัก ปัญหาสำคัญในตอนนี้สำหรับกองกลางชุดปัจจุบันของ คล็อปป์ คือการขาดการผ่านบอลที่ดี ซึ่งแน่นอนว่าคนที่น่าผิดหวังที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น นาบี เกอิต้า ที่ฟอร์มตกจากตอนอยู่กับ แอร์เบ ไลป์ซิก อย่างมาก
ที่จริงก่อนหน้านี้ เซอร์ดาน ชากิรี่ พอจะเป็นตัวโจ๊กเกอร์ และสร้างจังหวะการเล่นที่คาดไม่ถึงให้กับทีมได้ แต่ดาวเตะชาวสวิสก็ฟอร์มตกไปซะดื้อๆ และไม่มีส่วนร่วมกับประตูในลีกของทีมอีกเลย นับตั้งแต่วันที่ ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา ดังนั้นคุณภาพของแผงกองกลาง ลิเวอร์พูล ในตอนนี้จึงน่าเป็นห่วงพอตัว
คะแนนคุณภาพในปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล 3.5/5, แมนฯ ซิตี้ 4/5
- แผงรุก
ช่วงต้นฤดูกาลนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ต่างก็เป็นแนวรุกสุดโหดที่แทบทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ต้องหวาดผวาเมื่อเจอกับพวกเขา หลังจากที่ทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันทำประตูเป็นว่าเล่นจนทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ฟอร์มของ ซาลาห์ น่าเป็นห่วงพอตัว เพราะใน 9 นัดหลังสุดของทุกรายการ เขาทำประตูได้แค่ 3 นัดเท่านั้น จริงอยู่ว่าจำนวนประตูที่เขาทำได้ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การที่เขามาฟอร์มตกในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ ลิเวอร์พูล เลย
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังมาเจ็บในเกม "แดงเดือด" อีกต่างหาก โดยยังไม่รู้ว่าเขาต้องพักนานแค่ไหน ซึ่งถ้าเจ้าตัวอดลงเล่นหลายนัด คล็อปป์ ก็อาจจะต้องไปพึ่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ดิว็อค โอริกี้ ก็ไม่ใช่ตัวหลักที่พอจะฝากความหวังได้มากเท่าไหร่
สถานการณ์ในแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล ตรงกันข้ามกับ แมนฯ ซิตี้ อย่างสิ้นเชิง 2 แนวรุกตัวหลักอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ต่างก็ทำผลงานได้น่าประทับใจทั้งคู่ นอกจากนี้ พวกเขายังมีตัวสำรองอย่าง กาเบรียล เชซุส ที่พร้อมจะพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้ดีกว่ากลุ่มตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล เช่นกัน
คะแนนคุณภาพในปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล 3.5/5, แมนฯ ซิตี้ 4.5/5
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]