สุดยอดข่าวเด่นแห่งปี 2018 ที่แฟนๆ จะไม่ลืม

ตลอดระยะเวลากว่า 365 วันของปี 2018 มีเหตุการณ์ต่างๆบนโลกฟุตบอลมากมายที่เกิดขึ้น ซึ่งทางทีมงานได้รวบรวม 13 เหตุการณ์สำคัญที่แฟนบอลน่าจะจดจำและเก็บไว้เป็นเรื่องราวในความทรงจำต่อไป
เวลาของเวนเกอร์กับอาร์เซน่อล หมดลง
20 เมษายน 2018 เป็นวันที่เหล่าแฟนๆเดอะ กูนเนอร์ส ต้องรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออาร์แซน เวนเกอร์ ได้ประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล หลังสิ้นสุดฤดูกาล 2017/18
และ 7 เกมที่เหลือของฤดูกาล เหมือนเป็นการทัวร์อำลาของขรัวเฒ่าเลือดเฟร้นช์ ยังสนามต่างๆ และภาพที่น่าประทับใจที่สุดเกิดขึ้นที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด นอกจากจะเป็นการคุมทีมอาร์เซน่อลมาเยือนโรงละครแห่งความฝันครั้งสุดท้ายแล้ว โมเมนต์ที่สร้างความอบอุ่นแก่แฟนบอลคือภาพที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มอบของขวัญให้แก่คู่แข่งที่เคยคั่วแย่งแชมป์กันจนเกิดเป็นคำที่ว่า"ศัตรูที่รัก"
แมนซิตี้ 100 แต้ม!
ในประวัติศาสตร์เวที พรีเมียร์ลีก ยังไม่เคยมีทีมใดสามารถเก็บได้ถึง 100 คะแนนได้เลย จนเมื่อซีซั่นที่แล้ว พลพรรคเรือใบสีฟ้า ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำเรื่องนั้นให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที
ว่ากันตามตรง สถิตินี้เกือบจะไม่เกิดขึ้นแล้ว หากซิตี้ ไม่ได้กาเบรียล เชซุส กองหน้าแซมบ้ายิงประตูชัย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 4 ในเกมนัดสุดท้ายที่สนามเซนต์ แมร์รี่ กับเซาธ์แฮมป์ตัน
ฤดูกาลที่แล้วเป็นปีแห่งความสมบูรณ์แบบของแมนฯซิตี้จริงๆ นอกจากจะทำได้ 100 คะแนนแล้ว พวกเข้ายังจารึกบันทึกหน้าใหม่ด้วยการมี ผลต่างประตูมากที่สุด จำนวน 79 ประตู และ เก็บชัยชนะได้ถึง 32 เกม จาก 38 นัด
ค่ำคืนสุขสม ณ กรุงโรม
ชัยชนะของบาร์เซโลน่า ที่มีเหนือ โรม่า 4-1 ณ สนามคัมป์นู แทบทำให้ขาข้างหนึ่งของบาร์ซ่า ไปยืนรอในรอบรองชนะเลิศ แต่มันหาไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อผลที่สตาดิโอ โอลิมปโก ออกมาทำให้เหล่าขุนพล ยักษ์ใหญ่คาตาลัน แทบทรุดลงกับพื้น
ประตูจากเอดิน เชโก้ นาทีที่ 6 ลูกจุดโทษของดานิเอเล่ เด รอสซี่ นาที 58 และปิดท้ายด้วยประตูจากคอสตาส มาโนลาส ช่วงท้ายเกม ส่งผลให้หมาป่ากรุงโรม พลิกนรกเข้ารอบต่อไป ด้วยกฎประตูทีมเยือนแบบเหลือเชื่เสฟอ หลังผลรวมสองนัดจบลงที่ 4-4
คาริอุส หมูหก
นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยใหญ่ยุโรป ครั้งแรกในรอบ 10 ปีของลิเวอร์พูล จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด 1-3 และมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันของเดอะ ค็อปทุกคน
ในขณะที่สกอร์ยังเสมอกัน 0-0 นาทีที่ 51 จากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ลอริส คาริอุส นายทวารหน้าหล่อของหงส์แดง ก็ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยด้วยการไม่ดูตาม้าตาเรือไปขว้างบอลติดขาของคาริม เบนเซม่า ที่จ้องๆมองๆอยู่ไม่ไกล สุดท้ายหัวหอกเลือดน้ำหอมก็ฉกบอลไปยิงประตูแบบนิ่มๆ
ยังไม่หมดแค่นั้น หลังจากซาดิโอ มาเน่ ทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูล คล้อยหลังเพียง 9 นาที แกเร็ธ เบล ก็ลองฝีมือของคาริอุส ด้วยการซัดด้วยซ้ายกว่า 35 หลา บอลพุ่งเหมือนจะไม่มีอะไร แต่คาริอุส ก็ทำสิ่งที่ไม่มีอะไรให้มันเกิดขึ้น เมื่อเจ้าตัวทำบอลหลุดมือเข้าประตูแบบดื้อๆ ชนิดแฟนหงส์ทั่วโลกต้องอ้าปากค้าง
ก่อนที่สุดท้าย เบลคนเดิม จะมาตอกย้ำชัย ด้วยการยิงจักรยานอากาศแบบสุดสวย แบบที่คาริอุส หมดปัญญาจะป้องกัน
และจากเกมนั้น ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องหันไปคว้าตัวอลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล เข้ามาจากโรม่า ซึ่งตอนนี้เดอะ ค็อป คงรู้แล้วว่าระหว่าง คาริอุส กับ อลีสซง ใครดีกว่ากัน?
VAR ครั้งแรกในฟุตบอลโลก
จากลูกปัญหาครั้งฟุตบอลโลก 2010 บนแผ่นดินแอฟริกาใต้ เมื่อแฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงไกลบอลลอยผ่านมือมานูเอล นอยเออร์ แล้วไปชนคานด้านในและตกบนพื้นหญ้า หากชมภาพช้าจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ลูกบอล เลยเส้นเข้าประตูเต็มใบ ทว่าผู้กำกับเส้นกลับไม่ให้เป็นประตู ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และจากนั้น เทคโนโลยีช่วยตัดสิน ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น จนได้รับการยอมรับในวงการลูกหนัง
วีเออาร์ หรือ วิดีโอช่วยตัดสินนี้ เริ่มใช้ในลีกยุโรปอย่างแพร่หลาย ทั้ง บุนเดสลีก้า, กัลโช่ เซเรีย อา และ ลาลีกา สเปน และเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่าน มหกรรมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ก็มีการใช้เทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในศึกเวิลด์ คัพ
ซึ่งการใช้วีเออาร์ ครั้งแรกเกิดขึ้นในเกมที่ทีมชาติฝรั่งเศส พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย โดยเป็นจังหวะที่ อ็องตวน กรีซมันน์ ถูก จอช ริสดอน กองหลังจิงโจ้ เข้าสกัดล้มลงในเขตโทษ ทำให้ อันเดรส คุนย่า ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัย ต้องทำการขอใช้'วีเออาร์' ก่อนให้เป็นลูกจุดโทษแก่ ทัพตราไก่ และควักใบเหลืองแจกริสดอน
ทีมชาติอังกฤษชนะดวลจุดโทษ!
ท่ามกลางเกมสุดกดดันจนต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ใครที่เป็นแฟนสิงโตคำรามต่างต้องนั่งกัดเล็บพะวงคิดว่าชาติที่เชียร์นั้นอาจต้องยุติเส้นทางฟุตบอลโลก 2018 ไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
เหตุผลคือในประวัติศาสตร์ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ พวกเขาไม่เคยชนะการดวลลูกโทษในรายการนี้ได้เลย ไล่ตั้งแต่ แพ้เยอรมันตะวันตกในปี 1990, แพ้อาร์เจนตินาในปี 1998 และแพ้โปรตุเกสในปี 2006
อย่างไรก็ดี แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็พาขุนพลทรี ไลออนส์ ลบล้างเรื่องนี้ได้ แม้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะยิงพลาดแต่ก็ได้จอร์แดน พิคฟอร์ด และ เอริค ดายเออร์ มาเป็นฮีโร่พาสิงโตคำรามเอาชนะโคลอมเบียได้ในที่สุด
ฝรั่งเศสกับแชมป์โลกสมัยที่ 2
หลังผิดหวังจากศึกยูโร 2016 ทัพตราไก่หมายมั่นทำผลงานให้ดีที่สุดในรายการใหญ่ของโลกลูกหนัง ทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้ อุดมไปด้วยสตาร์และดาวรุ่ง อาทิ อูโก้ โยริส, ปอล ป็อกบา, อองตวน กรีซมันน์ และหนึ่งแข้งทีมเอจ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้
นัดชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศส ต้องดวลกับเพื่อนร่วมชาติยุโรป อย่างโครเอเชีย และผลจบลงด้วยชัยชนะของพลพรรคเล เบลอส์ 4-2 ประกาศศักดาแชมป์ฟุตบอลโลก สมัยที่สอง ต่อจากปี 1998
โรนัลโด้ สละชุดขาว
ท่ามกลางข่าวความขัดแย้งระหว่างเขากับฟลอเรนติโน่ เปเรซ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย 33 ปี เลือกสละตัวเองออกจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ด้วยการย้ายซบยูเวนตุส ด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้านยูโร หรือราว 3,700 ล้านบาท เป็นอันสิ้นสุดช่วงเวลาอันหอมหวน 9 ปี ในแผ่นดินกระทิงดุ
ปรากฎการณ์ของโรนัลโด้ เริ่มจากการที่ เสื้อแข่งของเขา ได้ถูกขายผ่านช่องทางออนไลน์และช็อปสโมสร ไปมากกว่า 520,000 ตัวใน 24 ชั่วโมงแรกของการประกาศย้ายตัว
ถึงแม้การย้ายลีกมาเล่นในกัลโช่ ปีแรก แต่โรนัลโด้กลับสร้างสถิติต่างๆมากมายในสีเสื้อเจ้าม้าลาย ทั้ง ยิง 10 ลูกให้ ยูเวนตุส เร็วสุด, ซัดประตูให้ ยูเวนตุส ยิงครบ 5,000 ตุงใน เซเรีย อา , ยิงทะลุ 400 ลูกในลีกยุโรป, กระทุ้ง 10 ลูกในลีกเร็วสุดสถิติร่วมกับจอห์น ชาร์ลส์, คนแรกที่เก็บชัยชปล.ครบ 100 นัด
และหากย้อนกลับไปถามสาวกราชันชุดขาวตอนนี้ ว่าคิดถึงเขาไหม คำตอบที่ได้คงมีคำตอบเดียวคือ "คิดถึง"
โมดริช มนุษย์ผู้เอาชนะ'โรนัลโด้-เมสซี่'
ก่อนหน้านี้เกิดคำถามที่ว่า ใครจะเป็นผู้แย่งชิงบัลลง ดอร์ ออกจากอ้อมอก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์โปรตุกีส หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแข้งอาร์เจนไตน์ ลงได้ หลัง 10 ปีที่ผ่านมา รางวัลนี้ไม่เคยพ้นจากมือ สองซุป'ตาร์ นี้ได้เลย
ซึ่งใครคนนั้น ที่สามารถล้มทั้งโรนัลโด้ และ เมสซี่ ได้ คือลูก้า โมดริช จอมทัพโครแอตวัย 33 ปี ที่เมื่อตลอดปี 2018 เขาได้สร้างผลงานอันสุดยอดทั้งในสโมสรและในนามทีมชาติ
หนึ่งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพาทีมชาติโครเอเชีย ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 คือผลงานระดับมาสเตอร์ พีซ ซึ่งโมดริช ได้คะแนนโหวตรวม 753 คะแนน ชนะอดีตเพื่อนร่วมทีมชุดขาว แชมป์เก่าบัลลง ดอร์ 5 สมัย ที่ได้ไป 476 คะแนน อย่างขาดลอย ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อ็องตวน กรีซมันน์ กองหน้าชาวฝรั่งเศส ผู้ได้แชมป์ยูโรปา ลีก กับแอต. มาดริด
อีกทั้ง โมดริช ยังเหมารางวัลส่วนตัวในปี 2018 ไปนอนกอดได้หลายรางวัล อาทิ นักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2018, รางวัลผู้เล่นแห่งปีของยูเอฟ่า, รางวัลกองกลางแห่งฤดูกาล 2017/18 ของยูเอฟ่า, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมชายของฟีฟ่า รวมถึงยังมีชื่อติดทีมแห่งฤดูกาลของแชมเปี้ยนส์ ลีก กับทีมยอดเยี่ยมโลกของ FIFA FIFPRO อีกด้วย
ปีทองของชนาธิป สรงกระสินธ์
นาทีนี้ เชื่อว่าแฟนบอลญี่ปุ่นทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักแข้งทีมชาติไทยรายนี้ จะเรียกว่าเป็นปรากฎการณ์เลยก็ว่าได้ ที่มีนักเตะจากชาติอาเซียนไปแจ้งเกิดในเวที เจลีก 1
ชนาธิป พาทีมคอนซาโดเล่ ซัปโปโร จบอันดับที่ 4 ของลีก ทั้งที่ปีก่อนหน้านี้ ซัปโปโร เป็นเพียงทีมที่ลุ้นหนีตกชั้น ด้วยผลงานส่วนตัวที่ทำไปถึง 8 ประตูในลีก พร้อมกับเป็นหัวใจในแนวรุกจึงทำให้"ชนาคุง" กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆ และได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมทีมให้เป็น MVP ประจำสโมสร
เท่านั้นยังไม่พอ "เจ" ยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำซีซั่น 2018 ของเจลีก เรียกได้ว่าเป็นปีทองของเขาจริงๆ
เหตุการณ์ช็อคโลกที่เมืองเลสเตอร์
ช่วงกลางดึกของค่ำคืนวันที่ 27 ตุลาคม ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อเฮลิคอปเตอร์ ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วงตกสู่พื้น บริเวณข้างสนามคิง เพาเวอร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
ปีศาจแดงปลดแอกมูรินโญ่ แต่งตั้งอดีตฮีโร่ขึ้นคุมทีม
วันอังคาร ที่ 18 ธันวาคม ช่วงเช้าตามเวลาประเทศอังกฤษ เกิดข่าวใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศปลดโชเซ่ มูรินโญ่ออกจากตำแหน่ง หลังความพ่ายแพ้ต่อลิเวอร์พูล 1-3 เพียงสองวัน นับเป็นการสิ้นสุดระยะเวลา สามปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมกับพาโทรฟี่ แชมป์ลีก คัพ และแชมป์ ยูโรปา ลีก มาประดับตู้โชว์ของสโมสร
จากนั้น บอร์ดปีศาจแดง ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ประกาศแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลา อดีตฮีโร่ผู้พังประตูชัยใส่บาเยิร์น มิวนิค ในเกมรอบชิงฯยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อซีซั่น 1998/99 มาเป็นกุนซือขัดตาทัพจนสิ้นสุดฤดูกาลนี้
ช้างศึกไปไม่ถึงฝันร่วงรอบรองฯ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
แน่นอนว่าเป้าหมายเดียวของทีมชาติไทยในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 คือต้องเป็นแชมป์สถานเดียวเท่านั้น และมันจะเป็นผลงานอันน่าผิดหวังสุดๆหากทัพช้างศึกไม่สามารถคว้าแชมป์ได้
ทีมชาติไทย เริ่มต้นได้สวยหรูกับชัยชนะเหนือ ติมอร์ เลสเต 7-0 ต่อด้วยเอาชนะอินโดนีเซีย 4-2 ก่อนจะมาสะดุดคว้าชัยเมื่อบุกไปเสมอกับฟิลิปปินส์ 1-1 ท่ามกลางรูปแบบการเล่นที่แฟนบอลต่างตั้งคำถาม? และนัดสุดท้ายของรอบแรกการดวลกับสิงคโปร์เป็นการตัดสินอนาคตการเข้ารอบ ซึ่งขุนพลทีมไทย เอาชนะทัพลอดช่องไปแบบ สบายๆ 3-0
อย่างไรก็ดี ของจริงมันมาอยู่ที่รอบรองฯ เมื่อทีมชาติไทยต้องดวลกับมาเลเซีย โดยนัดแรกมิโลวาน ราเยวัช บุกไปควักผลเสมอจากถิ่น บูกิจ จาลิล 0-0 ซึ่งนัดที่สอง โจทย์ของทีมชาติไทยหากจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ คือต้อง เอาชนะให้ได้ แต่หากเสมอแบบมีสกอร์ จะทำให้ตกรอบทันที
ทัพธงไตรรงค์ มาได้ประตูขึ้นนำจากการทำเข้าประตูตัวเองของ โมฮัมเหม็ด ไฟซาล แต่จากนั้นเสือเหลือง ก็ตามตีเสมอได้จากลูกยิงไกลสุดสวยของโมฮัมเหม็ด ไซมี่ แบ็กขวาดาวรุ่ง ครึ่งหลังไทย มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกโหม่งของพรรษา เหมวิบูลย์ ก่อนที่ทีมเยือนมาได้ทีเด็ดจาก นอร์ชารูล ทำประตูตีเสมอ 2-2
เกมทำท่าจะจบลงที่สกอร์นี้ แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไฟซาล ผู้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 ทำแฮนด์บอลจนผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกจุดโทษพร้อมกับแจกใบเหลืองที่สองแก่เจ้าตัว แต่ทว่าอดิศักดิ์ ไกรษร กลับยิงข้ามคานออกไปแบบไม่น่าเชื่อ และกรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที ท่ามกลางความช็อกของแฟนบอลร่วม 5 หมื่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]