5 ประเด็นน่าสนใจก่อน"ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์" บุรีรัมย์ พบ บีจี ปทุม

ไทยลีก สัปดาห์ที่ 4 มีศึกใหญ่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปะทะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ว่าแล้วขอจัดประเด็นน่าสนใจก่อนการเผชิญหน้ากันระหว่างสองยอดทีมแห่งยุคมาให้อ่านกัน!!

อิชิอิ วัดกึ๋น เทกูระโมริ

มาซาทาดะ อิชิอิ คือหนึ่งในกุนซือที่วงการลูกหนังญี่ปุ่น ยกย่องให้เป็นโค้ชระดับ "ตำนาน" ผลงานการนำ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์ เจลีก 2016 ต่อยอดสู่การสู้กับ เรอัล มาดริด ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้อย่างสูสีในรอบชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในปีเดียวกัน เป็นเครื่องการันตีถึงความเก่งกาจที่มี

ขณะที่ มาโกโตะ เทกูระโมริ เทรนเนอร์รุ่นน้องเองอาจจะด้อยกว่าในเรื่องของถ้วยรางวัล ทว่าฝีไม้ลายมือของเขานั้นจัดว่าไม่ธรรมดา เพราะการนำ เวกัลตะ เซนได ทีมเล็กๆ ฝ่าฟันไปถึงรองแชมป์ เจลีก 2012 ทั้งๆ ที่สโมสรประสบกับเหตุการณ์ "สึนามิ" มาหมาดๆ ก็บ่งบอกถึงมันสมองอันปราดเปรื่องในตัว

การดวลกันระหว่าง 2 กุนซือชาวญี่ปุ่น ณ สยามประเทศ จึงเป็นอะไรที่น่าดูชมไม่น้อยเลยเชียว

ทีมชาติไทย ล้น 2 ฝั่ง

บุรีรัมย์ กับ บีจี ปทุม คือสองสโมสรที่อุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นนำของประเทศ โดยเฉพาะทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ที่ต่างฝ่ายต่างขนนักเตะดีกรีช้างศึกมาสู้กันได้อย่างสูสี

ปราสาทสายฟ้านำโดย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน พี่ใหญ่ในวัย 38 ปี, ธีราทร บุญมาทัน, ศศลักษ์ ไหประโคน, พรรษา เหมวิบูลย์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ศุภชัย ใจเด็ด

ส่วนทัพกระต่ายแก้วมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวชูโรง ตามด้วย สารัช อยู่เย็น, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, จักพัน ไพรสุวรรณ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และต้องนับรวม ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่

ศุภชัย และ ธีรศิลป์


ศุภชัย ใจเด็ด คือ "ว่าที่" ความหวังสูงสุดของทีมชาติไทย ในอนาคต ผลงานของเขาดีวัน-ดีคืนขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาการลูกหนังของกองหน้าชาวปัตตานี กำลังไต่สูง เมื่อฤดูกาล 2021-22 ก็กด 14 ประตู กระทั่งปัจจุบันก็ซัดไปแล้ว 4 ลูก เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ไทยลีก ในตอนนี้

ธีรศิลป์ แดงดา บนวัย 34 ปี อาจจะไม่ปราดเปรียวเหมือนเก่าก่อน ทว่าพิษสงของอดีตหัวหอก อัลเมเรีย ยังทรงพลานุภาพไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะยิงไม่เยอะ ทว่าประโยชน์ของเขาสามารถช่วยทีมได้มหาศาล

ดังนั้นนี่คือการ "วัดคม" ระหว่างสองศูนย์หน้าต่างยุคที่มีอายุห่างกัน 10 ปี (ธันวาคม - ศุภชัย จะครบ 24 บริบูรณ์) โดยมี 3 คะแนน สุดสำคัญเป็นเดิมพัน

แพ้-ชนะ ขึ้นอยู่กับแผงมิดฟิลด์

เดิมที บุรีรัมย์ เจ้าถิ่นน่าจะใช้ โกรัน เคาซิช จับคู่กับ ธีราทร บุญมาทัน ในตำแหน่งคู่มิดฟิลด์ โดยมี ศุภชัย ใจเด็ด ยืนอยู่หลัง โจนาธาน โบลินกี้ ทว่าการที่ ศศลักษ์ ไหประโคน ถูกพักแข้ง เป็นเหตุให้ รัตนากร ใหม่คามิ หรือไม่ก็ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี มาทำหน้าที่แทน

อย่างไรก็ตาม ในการเจอกับ บีจี ปทุม ที่มี "แผงกลางในฝัน"อันประกอบด้วย พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ทำให้ทีมปราสาทสายฟ้าอาจจะต้องปรับมาใช้มิดฟิลด์อาชีพสามคนเพื่อต่อกรกับอาคันตุกะจากเมืองหลวง

แดนกลางคือจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถชี้วัดผลแพ้หรือชนะได้ เพราะหากคุณเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบตรงจุดนี้สำเร็จ เปอร์เซ็นต์ที่จะบรรลุเป้าหมายในบั้นปลายก็จะมากขึ้นตามมา

สถิติมีไว้เพื่อทำลาย

 นับตั้งแต่มิถุนายน ปี 2018 เป็นต้นมา บุรีรัมย์ ยังไม่เคยแม้แต่จะเสมอกับ บีจี ปทุม ได้เลย ซึ่งนับจำนวนก็เป็น 6 เกม เข้าไปแล้วที่แชมป์ ไทยลีก 7 สมัย (ไม่นับรวมในชื่อสโมสร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ปราชัยต่อทีมกระต่ายแก้ว

ล่าสุดก็ศึก ได้กิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022 ที่แพ้ต่อ เดอะ บลู แมชีน ไป 2-3

บีจี ปทุม จึงเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวในสยามประเทศที่สามารถ "ข่ม" บุรีรัมย์ ได้ถึงเพียงนี้

อย่างไรก็ตาม สถิติมีไว้ให้ "ทำลาย" 

อย่าลืมว่าปัจจุบัน กองทัพปราสาทสายฟ้าลงเล่นใน ไทยลีก 2022-23 ไปแล้ว 3 เกม และก็ชนะรวดทุกแมตช์ ขณะที่ บีจี ปทุม ที่เพิ่งกลับมาจาก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม สุดท้าย ก่อนจะประเดิมปราชัยต่อ ชลบุรี เอฟซี ไป 0-1

ดังนั้นการพบ บุรีรัมย์ ในวันนี้ พวกเขาจะพลาดอีกไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบต่อการลุ้นแชมป์ในช่วงปลายฤดูกาล 

เมื่อเป็นเช่นนั้น "ความกดดัน" จึงตกอยู่กับลูกทีมของ มาโกโตะ เทกูระโมริ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ฝั่ง บุรีรัมย์ ได้เปรียบทั้งการเป็นเจ้าบ้าน อีกทั้งยังอยู่ในโมเมนตั้มการแข่งขันที่ดี มี 9 คะแนนในมือ จึงไม่ต้องเสี่ยงที่จะเปิดเกมแลกหมัดกับ บีจี ปทุม 

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ กรกฎาคม 2014 - กันยายน 2016 เป็นจำนวน 8 เกม ติดต่อกันที่ทีมกระต่ายแก้วไม่สามารถเอาชนะปราสาทสายฟ้าได้เลยสักครั้ง ก่อนที่จะสลับฝั่งกันเมื่อปี 2018 นั่นเอง

เพราะฉะนั้น สถิติมีไว้เพื่อ "ทำลาย"

ที่มาของภาพ : Gettyimages

ติดตามช่องทางอื่นๆ:

Website : siamsport.co.th

Facebook : siamsport

Twitter : siamsport_news

Instagram : siamsport_news

Youtube official : siamsport

Line : @siamsport