ทีมชาติไทย ชวดใช้สังเวียนแข้งราชมังคลาฯ เป็นรังเหย้า 2 นัดในศึกชิงเจ้าอาเซียน 2022 หลังติดจัดคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลก "จัสติน บีเบอร์-Maroon 5" ที่จองไว้แล้ว คาบเกี่ยวกับโปรแกรมโม่แข้งของช้างศึก ด้าน "บิ๊กโจ" เลขาฯ ส.บอล เผยเร่งหาสนามสำรองด่วน เพื่อเป็นไปตามกฎเอเอฟเอฟที่ทุกชาติต้องมีอย่างน้อย 2 สนาม
สืบเนื่องจากทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่มีภารกิจลุยศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022" โดยรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่าและแชมป์ 6 สมัยรายการนี้ จะมีโปรแกรมลงเตะในบ้านตัวเองสองเกมคือ วันที่ 26 ธ.ค. 2565 พบ ฟิลิปปินส์ และวันที่ 2 ม.ค. 2566 พบ กัมพูชา
ล่าสุด ทัพ "ช้างศึก" อาจจะไม่ได้ลงเล่นบนสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่เพิ่งถูกปรับปรุงมาใหม่ และจะเป็นสนามหลักที่จะใช้แข่งขันรายการนี้แล้ว เนื่องจากสนามแห่งนี้เตรียมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวคาบเกี่ยวกัน โดยวันที่ 6 พ.ย.65 เป็นคอนเสิร์ตของจัสติน บีเบอร์ "JUSTIN BIEBER JUSTICE WORLD TOUR BANGKOK 2022" และวันที่ 10 ธ.ค.65 เป็นคอนเสิร์ตของวงมารูนไฟว์ "Maroon 5 World Tour 2022"
จากกรณีดังกล่าวทางด้าน "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อถึงเรื่องนี้แล้วว่า "โอกาสที่ทีมชาติไทยจะได้เล่นที่ราชมังคลากีฬาสถานในรอบแรกนั้นต้องยอมรับยากมาก เพราะสนามผ่านงานใหญ่กว่าจะฟื้นฟูต้องใช้เวลา คอนเสิร์ตจบ 10 ธันวาคม 2565 แต่เกมนัดแรกเล่น 26 ธันวาคม 2565โอกาสจะฟื้นสนามให้เต็มร้อยเป็นไปได้ยาก"
"แน่นอนครับว่าต้องดูหลายองค์ประกอบเลย เช่นเมื่อคอนเสิร์ตจบแล้ว ทางสนามจะมีมาตรการเก็บกวาดสิ่งของรวมถึงฟื้นฟูสนามอย่างไรบ้าง ตรงนี้ไม่ใช่อำนาจของเราเป็นของหน่วยงานที่ดูแลสนามโดยตรง ดังนั้นไม่น่าจะทันแข่งขัน จึงต้องหาสนามสำรองเอาไว้ ซึ่งตามระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียนฯ ทุกชาติต้องมีอย่างน้อย 2 สนาม ซึ่งไทยกำลังมองหาสนามสำรองอีกหนึ่งแห่งแทนที่" "บิ๊กโจ" กล่าวปิดท้าย
สำหรับโปรแกรมของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง โดยมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ในศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียนหนนี้ ประกอบด้วย วันที่ 20 ธ.ค.65 พบ บรูไน หรือ ติมอร์ เลสเต (เยือน), วันที่ 26 ธ.ค.65 พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า), วันที่ 29 ธ.ค.65 พบ อินโดนีเซีย (เยือน) และวันที่ 2 ม.ค.66 พบ กัมพูชา (เหย้า)
ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport