รับน้อง บอร์นมัธ โหดเกินน !

1 บอร์นมัธ โดนเร็ว

2 ลูกใน6 นาที เหมือนนักที่เจอ อาร์เซนอล2 ลูกใน10 นาที เกมแพลนพังทันที

3 หงส์ออกตัวแรง

กระนั้นไม่ว่าจะยิงเร็วนำก่อนหรือไม่ แต่เชื่อว่าเกมนี้นักเตะทุกคนพร้อมแสดงความมุ่งมั่นเพื่อให้ชนะเกมนี้ ถ้าไม่ชนะเกมนี้ จะไปชนะเกมไหน มันคือเกมที่ต้องกลับมา ดังนั้นเขี่ยบอลได้ นักเตะหงส์ ลุยแหลกทันที แบบไม่ให้ตั้งตัว แล้วก็ได้ผลกับประตูแรกเร็วจากการโจมตีครั้งแรก

จากนั้นประตูที่สองตามมานาทีที่6 จาก เอลเลียตต์ ยิงนอกเขตโทษ ประตูแรกที่ เอลเลียตต์ ยิงได้ในพรีเมียร์ลีก

สกอร์2-0 ที่บอร์นมัธเสียเร็วใน6 นาทีบวกกับการออกตัวด้วยความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ คือสองแรงบวกที่ทำให้บอร์นมัธเละเทะในครึ่งแรก

จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 5-0

นี่ครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลยิงคู่แข่งในลีก 5 ลูกใน ครึ่งแรกนับจากปี1958 ข้อมูลจากนักสถิติหงส์แดง คุณ @ged0407

ครึ่งหลังก็เหมือนเดิมเพราะบอร์นมัธ ไม่มีทางสู้

ชัยชนะอย่างท่วมท้นถล่มทลาย 9-0

ครั้งแรกต่อจาก นัดถล่ม พาเลส9-0 เมื่อ ก.ย. ปี1989

ชุดของ เซอร์ เคนนี ดัลกลิช คุมทีม

ผลสกอร์9-0 แบบท่วมท้นถูกใจแฟนๆ โดยไม่มีชื่อ โม ซาลาห์ ยิงประตูสักลูก มันได้อะไรมากกว่า 3 แต้ม อย่างนั้นหรือ….เปล่า

ได้อยู่ละครับ

แน่นอน…. ลดความกดดันลงพร้อมกับความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ในการเล่น แต่เรื่องสภาพทีมและผลงานนับจากนี้คือเรื่องที่น่าติดตาม

เมื่อครั้งถล่มคริสตัล พาเลส 7-0 เมื่อ19 ธ.ค. 2020 ทว่าจากนั้นผลงานดรอปลงจนโดนตกไปกลางตาราง

ดังนั้นต้องเปลี่ยนผลแข่งอย่างถล่มทลายนี้ให้มากกว่า one-off มันต้องกลับมาต่อเนื่องเหมือนเคย

กระนั้นคงไม่ต้องเทียบเคียงกับบริบทที่แตกต่างออกไป เมื่อสองปีก่อน ด้วยเพราะสิ่งที่ เจอร์เก้น คลอปป์ เรียกประชุมทีมเมื่อวันพุธ เพื่อลดความกดดันให้นักเตะคงเห็นผลในเกมนี้อย่างชัดเจน

ต่อจากนี้รอดูผลงานในช่วงที่สภาพทีมไม่สมบูรณ์ ต่อเนื่องขนาดไหน เมื่อเจอ นิวคาสเซิล, เอฟเวอร์ตัน นาโปลี, วูล์ฟ …..

แต่สิ่งที่เป็นแง่บวกอีกจุดหนึ่งคือ…”ดาวรุ่ง”

เอลเลียตต์ , ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ยิงประตูแรกในPL

สเตฟาน บายเซติช ลงเล่น อันเป็นสายเลือดใหม่ทีพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม…นับจากนี้

ป.ล. เจอร์เก้น คลอปป์ บอกก่อนเกมว่า

“ถ้านักเตะกองกลางคนไหนใช่…จะซื้อแน่นอน

ว่าแต่5 วัน ทันมั้ยครับ”

Jackie