หลัง3รับ7ก็เท่านั้น! สิ่งที่อยากบอกหลังแมนยูปอดแหกโดนแมนซิตี้เลี้ยงไข้

ตอนนี้เมืองแมนเชสเตอร์ถูกฉาบด้วยสีฟ้า หลังจาก ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ ซิตี้ แบบคาบ้านตามที่คาดเอาไว้นั่นแหละ ซึ่งมันก็สมเหตุสมผล ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตระหนกตกใจอะไรมากมาย
แต่นี่คือสิ่งที่เด็กผีอย่างผมอยากจะบอกทุกท่าน
1.หลังสามก็เท่านั้นแหละ
อีน้าแกติดตั้งระบบ 'หลังสาม'
มิเท่านั้นยังใส่คู่หู 'แม็คเฟร็ด' เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ บวกกับวิงแบ็คที่มีความเป็นแบ็คมากกว่าความเป็นปีกทั้ง 2 ข้าง เท่ากับว่ามีผู้เล่นประเภทตัวรับถึง 7 คน ไม่รวมผู้รักษาประตูอยู่ในสนาม
เป้าหมายคือรักษาสกอร์ ด้วยการเล่นเกมรับแล้วรอโต้กลับ ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หรือมีกลยุทธ์พิเศษอะไร ซึ่ง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มันเคยใช้ได้ผลเวลาเจอคู่แข่งอย่าง แมนฯ ซิตี้
แต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ เอริก ไบยี่ ก็กระทุ้งตาข่ายให้ผู้มาเยือนขึ้นนำซะอย่างนั้น
แบบนี้เรียก 'แผนแตก' นะครับ เพราะเกมแพลนที่วางเอาไว้คือคุณต้องรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วชิงจังหวะขึ้นนำให้ได้เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาก่อน
2.แม้จะอุดมด้วยตัวรับ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นเกมรับได้หมาไม่แดกเลยนะครับ
เท่านั้นไม่พอ
คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมตอบโต้ไม่ได้
ปกติคุณภาพการรับส่งบอลก็บัดซบอยู่แล้ว ยิ่งถูกผู้เล่นของทีมเรือใบเพรสซิ่งเข้ากดดัน กองหลังเซ็ตเกมขึ้นมาไม่ได้ แดนกลางครองบอลไม่ได้ นอกจากเตะทิ้งเตะขว้างให้มันพ้นๆ ตัว มันก็เหมือนเตะบอลอัดกำแพงให้มันกระเด้งกลับมาหาตัวเองอย่างรวดเร็วนั่นแหละ
พูดง่ายๆ ว่าเล่นเกมรับแบบไม่มีทรง
แล้วก็พลาดจนได้
ต่อเมื่อ 'แผนแตก' อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องทำในสถานการณ์นั้นคือเล่นตามแผนเดิมอย่างอดทนไปก่อน แล้วค่อยๆ หาจังหวะย่องตอด เพราะตราบใดที่ตามอยู่แค่ประตูเดียว คุณก็ยังอยู่ในเกม
แมนฯ ยูไนเต็ด ทำแบบนั้นนะครับ
แต่เกมรับก็มาพลาดง่ายๆ ในช่วงที่ไม่ได้รับอนุญาตให้พลาดอีกครั้ง
เข้าใจครับว่าทั้ง 2 ประตูที่เสียมาจากความผิดพลาดของตัวนักเตะเอง แต่เพราะเหยาะแหยะแบบนี้ไง มันถึงได้ผิดพลาด
เกมจบตั้งแต่ตอนนั้น
3.แทนที่ตามตามแค่ประตูเดียวดันตามหลัง 0-2 ด้วยรูปเกมที่เป็นรองแบบเปิดคลีนิกสาธิตวิธีการเล่น...ลิงชิงบอล
สถานการณ์นั้นมันก็ต้องยอมเสี่ยงเปิดเกมรุกแบบไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะครับ
เซ็นเตอร์แบ็คจึงถูกถอดออกไป 1 ตัว เพื่อส่งตัวรุกลงมาแทน พลางปรับระบบเป็น 4-2-3-1 เพื่อเน้นเกมรุก
ขอสาบานตามตรงว่าท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมไม่คิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมาจากป่าช้าได้หรอกครับคุณ เพราะรูปแบบการเล่นมันคนละตีนกันเลย
สิ่งที่หวังว่าจะได้เห็นบ้าง คือการเล่นแบบสู้ตายถวายชีวิต
คือแพ้ก็แพ้ โดนเพิ่มก็ช่างหัวลูกสาวคุณยายมัน ขอให้สู้ตาย และช่วยแพ้ให้มันสมศักดิ์ศรีหน่อย
ขอแค่พวกมึงแสดงความหื่นกระหายออกมาในศึกแห่งศักดิ์ศรีแบบนี้บ้างก็น่าดีใจแล้ว
อนิจจา...
สิ่งที่เห็นคือการเล่นแบบปอดแหก เหมือนพวกมึงพึงพอใจที่แพ้แค่ 0-2 ดีกว่าบุกแหลกแล้วแพ้เละกว่าเดิม
ส่วนผู้จัดการทีม
แทนที่จะลุกออกมากระตุ้นลูกทีม หรือด่าแรงๆ ให้แสดงความทุ่มเทมากกว่าเดิม พี่เขากลับวางตูดดูลูกทีมเล่นแบบยอมแพ้เหมือนไม่เดือดร้อนอะไรพลางนั่งนึกคำแก้ตัวสวยๆ เพื่อบอกนักข่าวหลังจบเกม ประเภทเราจะสู้ไปด้วยกัน เรามาไกลเกินกว่าที่จะยอมยกธงขาวง่ายๆ
4.หลังนำ 2-0 แมนฯ ซิตี้ เล่นแบบ 'เลี้ยงไข้' นะครับ
พวกเขาถอนตีนออกจากคันเร่งแล้วปล่อยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ครองบอลบ้าง โดยตัวเองเล่นแบบรัดกุม ไม่เร่งเครื่องเต็มกำลัง ขนาดนั้นเจ้าถิ่นยังไม่มีปัญญายิงตรงกรอบเลยครับคุณ
ที่สำคัญคือหากเล่นแบบ 'เอาตาย' แล้วทะลึ่งถล่มเจ้าบ้านจนแหลกเหลวอย่างน่าอับอายไปมากกว่านี้ เดี๋ยว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกปลดออกจากตำแหน่งนี่ชิบหายเลยนะครับ
มีหวังถูกทัวร์ลงจากกลุ่มเซฟโอเล่
ว่าแล้วเอาแค่พอหอมปากหอมคอดีกว่า 5555
5.ถามจริงๆ คุณคิดว่าผู้จัดการทีมแบบนี้เหรอครับที่จะกระชากปีศาจแดงกลับมาจากนรก ???
ถามจริงๆ ว่ายังมีคนหวังลมๆ แล้งๆ แบบนั้นอยู่อีกหรือ ???
ย้ำอีกครั้งและอีกครั้งว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หมดความชอบธรรมในตำแหน่งผู้จัดการทีมปีศาจแดงไปนานแล้ว
เข้าใจครับว่ามันยังอยู่ในช่วงที่พวกเขาเจอโปรแกรมหนักแบบเป็นซีรี่ส์ ผลงานย่อมไม่ค่อยโสภาและสถาพรสักเท่าไหร่
แต่มันควรจะแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณนักสู้ และรูปแบบการเล่นที่เป็นระบบออกมาบ้างหรือเปล่า
ไม่ใช่ยอมแพ้แบบงอมืองอตีนแบบนี้
ผมมั่นใจแบบเต็มประดาว่าอีน้าไม่มีทางกอบกู้ แมนฯ ยูไนเต็ด จากความตกต่ำ เช่นเดียวกับไม่มีทางช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จทั้งในฤดูกาลนี้ หรือฤดูกาลหน้า
ฉะนั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จึงไม่ควรได้ทั้งเวลาและโอกาสอีกต่อไป แม้ตอนนี้จะยังไม่มีผู้จัดการทีมระดับอ๋องที่พร้อมจะคุมทีมแทนเขาก็ตาม
น่าสงสารบรรดาเด็กผีที่เบื้องบนของทีมปีศาจแดงไม่ได้คิดแบบนั้น
บอ.บู๋