โซลชาปอดแหกหรือรอบคอบ?ชำแหละหลังเกมแมนยูถล่มยับศึกยูโรปา

    เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม เรอัล โซเซียดาด ด้วยสกอร์ 4-0 ในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม นัดแรก และนอกบ้าน !!!

    1. กุนซือเชื้อสายไวกิ้ง-แมนคูเนี่ยน จัดทีมแบบ 'เอานะ' กว่าที่คาด เพราะใช้ตัวสำรองแค่ 4 คนเท่านั้นเอง

    ดีน เฮนเดอร์สัน แทน ดาบิด เด เคอา

    เอริก ไบยี่ แทน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ

    อเล็กซ์ เตลลิส แทน ลุค ชอว์ 

    และ แดน เจมส์ แทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

    นอกนั้นขาประจำทั้งหมด โดยขยับ เมสัน กรีนวูด ไปเล่นเป็นหน้าเป้า ขณะที่ ปอล ป๊อกบา, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และ เอดิสัน คาวานี่ มีอาการบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้

    2. ช่วงต้นเกม เรอัล โซเซียดาด ดูวูบวาบน่ากลัวนะครับ แต่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มเหนือกว่าด้วยคุณภาพผู้เล่นที่สูงกว่าจนน่าจะขึ้นนำอยู่ 2-3 จังหวะ แต่เพราะความไม่เด็ดขาดจึงทิ้งโอกาสไปหมด

    สุดท้ายมาขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของคู่แข่งที่ดันชนกันเองทีเดียว 3 คน

    หลังทำประตูแรกได้สำเร็จก็ถอนตีนจากคันเร่ง แล้วหันมาเล่นด้วยความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็ปล่อยให้คู่แข่งบุกขย่มเป็นระยะจนจบครึ่งแรก

    3. เมื่อต้องการประตูตีเสมอ เรอัล โซเซียดาด จึงพยายามโหมบุก ซึ่งนั่นทำให้ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเห็นจุดอ่อนของพวกเขา

    หนึ่งคือเกมรุกที่ยึดถือสากกะเบือเป็นแม่แบบ

    หนึ่งคือเกมรับที่ห่วยแตกเหลือเกิน

    ดันกันขึ้นมาบุกแล้วยิงไม่ได้ หลังจึงลอยขึนมาตามเชป เปิดพื้นที่ว่างในแดนตัวเองมากมาย แบบนี้แอบเห็นรอยยิ้มของท่านซาตาน

    ทั้ง 4 ประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดจากจังหวะฉาบฉวย บวกกับความผิดพลาดของทีมจากสเปนเองทั้งหมดเลย

    เห็นไหมครับว่าเวลาพวกเขาได้ประตู มันมักมาจากการเล่นที่รวดเร็วและน้อยจังหวะ ไม่ใช่มาจากจังหวะต่อบอลไปต่อบอลมาสักหน่อย

    ยกตัวอย่างประตูนำ 3-0 เมื่อ เฮนเดอร์สัน ตัดลูกได้แล้วรีบออกบอลเร็วทันทีให้ เฟร็ด ที่วางยาวจังหวะเดียว แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวไปเผด็จศึกได้เลย 

    4. ข้อนี้ขอกล่าวถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด 

    เขาก็ทำให้เด็กผีทางบ้านสบถถึงญาติผู้พี่ของตัวตุ๊ดตู่ออกมาจากปากเป็นระยะ ด้วยความพยายามที่จะเลี้ยงเข้าประตูบ้าง ดึงเกมให้เสียจังหวะบ้าง และส่งได้ไม่ยอมส่งบ้างอยู่ดี

    อย่างไรก็ตาม

    พี่แกมีส่วนกับ 3 ประตูแรก ทั้งจ่าย ทั้งสร้างจังหวะ ทั้งยิง แถมใช้ความเร็วและความคล่องปั่นป่วนคู่แข่ง

    เออ...กูยอมก็ได้ 

    5. หลังนำห่าง 3-0 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ควรจะทยอยส่งตัวสำรองลงมาได้แล้วนะครับ

    เฉพาะอย่างยิ่ง อาหมัด ดิยัลโล่ ที่แฟนบอลอยากเห็น

    กว่าอีน้าแกจะยอมส่งลงมาให้แฟนๆ ดูตัว ต้องรอถึงนาทีที่ 83

    มุมหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความละเอียด รอบคอบ และไม่ประมาท คือถ้ายังไม่มั่นใจแบบเต็มประดาว่าชนะแน่ๆ ก็ยังไม่ส่งลงมา

    มุมหนึ่งมันแสดงให้เห็นว่า...มึงปอดแหกนี่หว่า

    คือนำ 3-0 แล้ว มันไม่ต้องกลัวห่าเหวอะไรแล้ว คู่แข่งก็ไม่ได้น่าขามเกรงอะไรแล้ว แถมอัตราความอู๊ดดี้สูงมาก แบบนี้มันต้องส่งดาวรุ่งตีนไฟที่ใครๆ อยากเห็นลงมาเลย.......เนอะ

    บอ.บู๋

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport