ผลเสมอน่าพอใจ!ชำแหละชัดเกมแดงเดือดแมนยูบุกเจ๊าลิเวอร์พูล

แม้จะมีจังหวะทำลายตาข่ายแบบจะแจ้งมากกว่า แต่การควักผลเสมอกลับออกมาจาก แอนฟิลด์ ได้สำเร็จ ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว
1. ก่อนอื่นอยากให้ดูการจัดตัวของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
มันพลิกโผตรงที่ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ได้ลงตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คแทนที่จะเป็น เอริก ไบยี่ ที่ฟอร์มการเล่นกำลังเปล่งปลั่ง
จุดนี้กุนซือปีศาจแดงให้เหตุผลว่าเขาเตรียมให้ปราการหลังผู้นี้ลงเล่นในศึกแดงเดือดอยู่แล้ว ถึงได้พักเอาไว้ในเกมล่าสุด หมายความว่าพี่แกมองว่า 'เลิฟ' เหมาะกับแผนการเล่นในแมตช์นี้มากกว่า
2. ระบบเหมือนเดิมคือ 4-2-3-1 คู่กลางคือ 'แม็คเฟร็ด' เพียงแต่ให้ ปอล ป๊อกบา ไปเล่นเป็น 'หน้าขวา' ไม่ใช่ 'หน้าซ้าย' เหมือนที่คาดการณ์กันเอาไว้
ถามว่าทำไม ???
คำตอบคือผู้เป็นกุนซือต้องการให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นเป็นหัวหอกตัวเป้า
ประการหนึ่ง เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากความเร็วและคล่องของดาวเตะผู้นี้ที่สามารถ 'ส่าย' ออกซ้ายและออกขวาในจังหวะโต้กลับได้ดีกว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ถนัดในตำแหน่งหน้าซ้าย มากกว่าหน้าขวา
กลยุทธ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือตั้งรับอย่างรัดกุมแล้วหาจังหวะจู่โจมแบบกองโจร ผลเสมอเป็นสิ่งที่ต้องการ หากเอาชนะได้ถือเป็นโบนัส
3. สถานการณ์บังคับให้ ลิเวอร์พูล ต้องการชัยชนะมากกว่า พวกเขาจึงบีบสูงพลางเพรสซิ่งเข้าใส่ในจังหวะโลหะหนัก
แดนกลางของหงส์แดงจึงเหนือกว่าชัดเจน แม้จะถอยเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฯ พวกเขาต่อบอลทำชิ่งกันแม่นยำกว่า ความสามารถเฉพาะตัวก็สูงกว่าจึงเลี้ยงกินตัวได้ตลอด
แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือจังหวะสุดท้าย
เจ้าถิ่นครองบอลบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว และมีโอกาสยิงประตูมากกว่า แต่ไม่ได้สร้างความลำบากใจให้ ดาบิด เด เคอา เลยสักนิดเดียว เหตุเพราะผู้เล่นพันธุ์อสูรเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
เฉพาะอย่างยิ่งแผงแบ็คโฟร์ที่ยืนปิดพื้นที่แน่นหนา มากด้วยวินัย และไม่แสดงความผิดพลาดออกมาง่ายๆ ขณะที่ตรงกลางก็เข้าปะทะและทำลายจังหวะจนคู่แข่งทำอะไรไม่ถนัดนัก แถมตัวรุกริมเส้นทั้ง 2 ข้างยังถอยลงมาช่วยฟูลแบ็คอีกตะหาก
4. ปัญหาของปีศาจแดงอยู่ที่จังหวะสวนกลับ
เวลาโดนบีบ พวกเขาแงะขึ้นมาจากแดนตัวเองไม่ค่อยได้ มิเท่านั้นยังจ่ายบอลกันไม่ค่อยแม่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการวางบอลยาวไปยังที่ว่าง
ต่อเมื่อวางบอลได้ดี กองหน้าก็มักจะออกตัวเร็วไปจนล้ำหน้า
ที่สำคัญคือตัวเสกสรรค์เกมรุกอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส แผลงฤทธิ์ไม่ออก และผิดพลาดบ่อยครั้งในจังหวะจ่ายแบบได้เสียเป็นเมียผัว
5. อาการของ แมนฯ ยูไนเต็ด กระเตื้องขึ้นในครึ่งหลังที่มีโอกาสครองบอลพลางตอบโต้มากขึ้น และหาจังหวะเข้าทำแบบได้น้ำได้เนื้อชัดเจนกว่า
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แก้เกมได้โอเคย์นะคะ เมื่อส่ง เอดิสัน คาวานี่ ลงมาเป็นหน้าเป้าแล้วขยับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกไปทางซ้าย หัวหอกอุรุกวัยครองบอลเรียกฟรีคิกได้ ขณะที่ 'แรชชี่' มีบทบาทมากขึ้น เมื่อออกมากระชากลากเลื้อยทางซ้าย
กระนั้นก็ยังไม่ลืมความรัดกุมตามเป้าหมายหลักแบบไม่ยอมประมาทหงส์แดง
บทสรุปถือว่าน่าพอใจ โดยเฉพาะเกมรับที่จัดการ 3 ประสานหน่วยล่าสังหารของ เรด แมชชีน ซึ่งดูเหมือนจะฟอร์มตกไม่เลิกได้อย่างอยู่หมัดดีนักแล
บอ.บู๋