การกลับมาของคู่หู มอนชี่ - เอเมรี่

ผมได้ยินชื่อ มอนชี่ มานานในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลที่มันสมองปราดเปรื่องและตาคมราวกับเหยี่ยว
เซบีย่า พลิกสถานะจากทีมที่เคยตกชั้นจากลา ลีกาเมื่อปี 1999 สู่ทีมที่เป็นแชมป์ยูโรปา ลีกมากที่สุด 5 สมัย แชมป์โกปา เดล เรย์ 2 สมัย เข้าชิงฟุตบอลถ้วยใหญ่น้อย 14 รายการในเวลา 10 ปีและงัดข้อกับทีมยักษ์ใหญ่ทั้งในประเทศและยุโรปได้อย่างถึงใจก็เพราะความสามารถของเขาส่วนหนึ่ง
เครือข่ายแมวมอง 700 คนที่ถูกจัดวางอย่างมืออาชีพ ทีมงานอีก 16 คนคอยมอนิเตอร์หน้าจอฟุตบอลลีกน้อยใหญ่ทั้งหลายเกือบครบทุกลีก ผ่านกระบวนการจัดสรรคุณสมบัติอย่างเป็นขั้นตอนและพร้อมหยิบใช้ได้ทุกนาที
โค้ชอยากได้นักเตะแบบไหน สไตล์ไหน.. มอนชี่จะหาคนที่เหมาะสมให้
"ในช่วง 5 เดือนแรกทีมงานของเราทั้ง 16 คนจะดูเกมอย่างเดียวโดยไม่มีเป้าหมายพิเศษใดๆ ดูเพื่อรวบรวมข้อมูล จัดทีมยอดเยี่ยมของแต่ละลีกในทุกๆ สัปดาห์ จากนั้นเมื่อถึงเดือนธันวาคมจะเริ่มลงลึกในรายละเอียด สร้างโปรไฟล์นักเตะแต่ละคนด้วยสถิติในแง่มุมต่างๆ เกมเหย้า เกมเยือน เกมทีมชาติ แยกแยะออกมาจนได้นักเตะที่อยู่ในข่ายทุกตำแหน่งราว 250 คน" มอนชี่อธิบาย
"โค้ชอาจจะบอกว่าเขาอยากได้แบ๊กซ้ายที่มีสถิติวิ่งเฉลี่ยสัก 11 กิโลเมตรต่อเกม สามารถวิ่งสปีดยาวๆ ได้ 800 เมตร และเล่นได้ดีทั้งสองเท้า จากนั้นเราก็จะค้นหาในฐานข้อมูลที่มีและได้รายชื่อนักเตะที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายมาให้โค้ชทันทีราวๆ 10 คน"
ดานี่ อัลเวส, หลุยส์ ฟาเบียโน่, อีวาน ราคิติช, การ์ลอส บัคค่า, เควิน กาเมโร่, เอเวร์ บาเนก้า, อเล็กซ์ วิดัล, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี้ยค เหล่านี้คือผลงานของมอนชี่ทั้งนั้น ซื้อมาไม่แพงแต่ขายได้แพง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักเตะที่ปั้นขึ้นมาจากทีมเยาวชน โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, เซร์คิโอ รามอส, เฆซุส นาบาส, ดีเอโก้ กาเปล ที่กลายเป็นดวงดาวแห่งรามอน ซานเชซ ปิซฆวน
ในวันที่เนื้อหอมสุดขีด สโมสรใหญ่ๆ อย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เทียวไล้เทียวขื่อตามจีบไปร่วมงานด้วย แต่สุดท้ายมอนชี่ไปลงเอยกับโรม่า แล้วสร้างผลงานด้วยชื่ออย่าง จัสติน ไคลเวิร์ต, เชงกิส อุนเดร์, ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ รวมถึงดาวยิงคนล่าสุด นิโกโล่ ซาโนโล่ ดาวรุ่งที่กำลังร้อนแรง
จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ มอนชี่ไม่ได้ทำงานที่โรม่ายาวนานเหมือนเซบีย่าที่ผูกพันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้รักษาประตูเยาวชนของสโมสร และหลังจากครบสองปีในการทำงานที่กรุงโรม เส้นทางของมอนชี่จะบินข้ามทะเลไปลงที่ลอนดอน
ที่อาร์เซน่อล เขาจะได้ทำงานร่วมกับ อูไน เอเมรี่ อีกครั้ง..
บทบาทของคนเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลหรือผู้อำนวยการกีฬาแล้วแต่จะเรียกนั้นมีความสำคัญในโครงสร้างสโมสรฟุตบอลหลายๆ ทีมโดยเฉพาะในภาคพื้นยุโรป เนื่องจากเป็นคนทำงานเชื่อมระหว่างโค้ชกับบอร์ดบริหารโดยตรง
ฟุตบอลขับเคลื่อนด้วยหลายปัจจัย นักฟุตบอลเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด สโมสรไหนบริหารจัดการเรื่องนักเตะเข้า-นักเตะออกได้ดีที่สุดย่อมได้เปรียบ เพราะสินทรัพย์อย่างนักฟุตบอลนั้นนอกจากมีมูลค่าในตัวเองแล้วยังสามารถสร้างมูลค่าให้กับสโมสรได้อีกด้วย
โดยตำแหน่งแล้วมอนชี่คือคนที่ต้องทำงานกับโค้ชในด้านการมองหานักฟุตบอลที่เหมาะสมกับทีม เหมาะสมกับแคแร็คเตอร์ของทีม เหมาะสมกับแนวทางการเล่นของทีม เพื่อที่โค้ชจะได้ทำงานง่ายขึ้น ไม่ใช่ว่าโค้ชอยากได้กองหน้าร่างเล็กแต่ดันไปเอาหัวหอกร่างยักษ์มาให้
การทำงานระหว่างมอนชี่กับ อูไน เอเมรี่ ที่เซบีย่านั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นการทำงานที่เข้าขากันมากที่สุดคู่หนึ่งของวงการ ทีมดังแห่งอันดาลูเซียมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดก็ช่วงนั้น
ไม่มีทะเลาะปีนเกลียวหรือขัดแย้งกัน หากแต่ทำงานร่วมกัน ปรึกษากันและมองหานักเตะที่เหมาะสมต่อระบบการเล่นไปด้วยกัน เป็นการทำงานในฝันตามสายตาของบอร์ดบริหารที่ย่อมสบายใจเมื่อเห็นโค้ชกับผู้อำนวยการฟุตบอลทำงานด้วยกันได้อย่างราบรื่น
ก็เพราะในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นเลย นอกจากคนสองคนไม่มีทางคิดเหมือนกันหมดทุกเรื่องแล้ว บทบาทในการทำงานก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย คนเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลย่อมต้องมีมุมมองด้านอื่นนอกเหนือจากแท็คติกด้านฟุตบอลเพียวๆ ซึ่งตรงนี้แตกต่างจากธรรมชาติการทำงานของคนเป็นโค้ช
โค้ชคงไม่มาสนใจกับภาพลักษณ์ใดๆ ของนักฟุตบอลนอกจากฝีเท้า ยิ่งโลว์โปรไฟล์เท่าไหร่ยิ่งดีด้วยซ้ำเพราะคุมง่าย ขอเพียงแค่เก่งจริงและเล่นในระบบที่วางเอาไว้ได้เท่านั้นพอ แต่ผู้อำนวยการฟุตบอลจะดูละเอียดขึ้นอีก ถัดจากฝีเท้าและแนวทางการเล่นที่น่าจะเข้ากับระบบของโค้ชแล้วยังต้องดูแคแร็คเตอร์ ดูศักยภาพในการพัฒนา ดูมูลค่าที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต ดูความโดดเด่นด้านต่างๆ และยังต้องโดดไปดูตัวเลือกคนอื่นที่มีสไตล์การเล่นใกล้เคียงกับเป้าหมายแต่มีคุณสมบัติรอบด้านกว่า มีวี่แววเติบโตต่อไปเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการมากกว่า
กระทั่งบางคนที่ดูแล้วอาจไม่เข้ากับระบบเลยแต่อยากได้ตัวมาปั้นเพราะเซนส์บอกว่านักเตะคนนี้เจิดจรัสแน่นอน นำมาให้โค้ชได้ทดลองใช้ดูก่อนเผื่อถ้าเล่นได้ขึ้นมาก็ติดลมบน..
งานของคนในสองตำแหน่งนี้จึงกระทบกระทั่งกันเป็นปกติ.. ก็เพราะบทบาทมันนำทางให้เป็นอย่างนั้น
ทว่ากับเอเมรี่และมอนซี่ไม่มีปัญหาในการทำงานระหว่างกันเลยที่เซบีย่า สองคนนี้สุมหัวปรึกษาเพื่อหานักเตะที่เป็นเป้าหมายร่วมกัน เหตุผลสำคัญในความราบรื่นมีง่ายๆ สั้นๆ แค่ข้อเดียวนั่นคือเอเมรี่เชื่อใจมอนชี่เต็มร้อย
ด้วยความที่มอนชี่ทำงานในราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ก่อนเอเมรี่มานาน รู้จักทุกซอกทุกมุมของสโมสร มีความเป็นเซบีย่าทั้งตัวและหัวใจ เอเมรี่จึงวางใจมอนชี่มาก ถ้าอยากได้ซ้ายด้วยกันหรือขวาด้วยกันก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเอเมรี่อยากได้ซ้ายและมอนชี่อยากได้ขวา โดยบทบาทแล้วเรื่องต้องจบด้วยขวาของมอนชี่ แต่เป็นขวาที่เอเมรี่ยอมรับอย่างเต็มใจ
โมเดลผู้อำนวยการฟุตบอลนั้นได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ในฟุตบอลอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ ทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล นำมาใช้แล้วได้รับผลที่ดี ซิกิ เบกิริสไตน์ ช่วย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างอาณาจักรแห่งความสำเร็จที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ไมเคิ่ล เอ๊ดเวิร์ดส์ ก็ทำงานร่วมกับเจอร์เก้น คล็อปป์ได้อย่างน่าชื่นชมโดยเฉพาะผลงานของทีมหงส์แดงในฤดูกาลนี้
จากมือทองอย่าง สเวน มิสลินทัต ที่เคยดึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง, อุสมาน เดมเบเล่ มาให้กับคล็อปป์ที่ดอร์ทมุนด์สู่มือทองกว่าอย่างมอนชี่ที่มีดีกรีคำชื่นชมยาวเป็นหางว่าว แฟนบอลอาร์เซน่อลบางคนอาจยังเสียดายของดีอย่างมิสลินทัตที่เข้ามาทำงานได้เพียงปีเดียวก็โบกมือลาเพราะไม่แน่ใจในสถานภาพอันไม่มั่นคงหลังมีความเปลี่ยนแปลงด้านฝ่ายบริหาร แต่ก็คงใจชื้นขึ้นมากเมื่อเห็นข่าวการเข้ามาของมอนชี่
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มอนชี่ กับ เอเมรี่ จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในฤดูกาลหน้า เป็นดูโอที่น่าดูและน่าติดตาม เอเมรี่จะเข้าสู่ปีที่สองของตัวเองในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เขาจะมีทีมของตัวเองชัดขึ้นโดยที่มีมอนชี่เสกนักเตะที่สมบูรณ์แบบให้
แต่ในขณะเดียวกันมันก็น่าหวาดเสียวตามมาด้วย นั่นเพราะสถานะของทั้งคู่ไม่เหมือนที่เซบีย่าเลย..
จากที่มอนชี่อยู่ก่อนมานานเป็นยี่สิบปีแล้วเอเมรี่เข้าไปเป็นน้องใหม่ที่เซบีย่า กลายเป็นว่าทั้งคู่เริ่มนับหนึ่ง-สองที่อาร์เซน่อลด้วยเวลาห่างกันแค่ปีเดียวเท่านั้น ยังต้องอาศัยเวลาปรับตัวและทำความเข้าใจกับความเป็นสโมสรอาร์เซน่อลและฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไปด้วยกัน
นั่นคือปัจจัยที่ทั้งสองคนเคยมีที่เซบีย่าแต่จะไม่มีที่ลอนดอน และเหมือนเช่นเคยครับ มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบกับเราว่าผลลัพธ์ของสองคนนี้ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จะออกมาเป็นอย่างไร..
ตังกุย