ส่อง 12 สนามศึกรักบี้เวิลค์คัพ 2019 ญี่ปุ่น

รักบี้ชิงแชมป์โลก หรือ "รักบี้เวิลด์คัพ" จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยในครั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 20 ก.ย.- 2 พ.ย.2562 ซึ่งรักบี้ชิงแชมป์โลกจัดขึ้นก่อนหน้านี้มาแล้ว 8 ครั้ง โดยนิวซีแลนด์เป็นแชมป์มากที่สุด 3 สมัย รองลงม
1.สนามซัปโปโรโดม
ความจุ : 41,410 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Hitsujigaoka, Toyohira-ku, Sapporo, Hokkaido
สนามแห่งนี้เป็นสนามอเนกประสงค์พื้นสนามสามารถเลื่อนเข้าออกได้ ซึ่งยังใช้เป็นสนามแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 ถึง 3 แมตช์ด้วยกันคือเกมในกลุ่มอี เยอรมัน ชนะ ซาอุฯ 8-0, กลุ่มจี อิตาลี ชนะ เอลกวาดอร์ 2-0 และ กลุ่มเอฟ อังกฤษ ชนะ อาร์เจนติน่า 1-0 นอกจากนี้ยังใช้เป็นสนามในพิธีเปิดและปิดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2017 ส่วนทีมที่ใช้สนามแห่งนี้เป็นเจ้าบ้านก็คือทีมฟุตบอลคอนซาโดเล่ ซัปโปโล กับ ทีมเบสบอล Nippon Ham Fighters โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 2 เกมในกลุ่มซี อังกฤษ พบ ตองก้า กับ กลุ่มดี นิวซีแลนด์ พบ ฟิจิ
2.สนามกีฬาอนุสรณ์การฟื้นฟูคามาอิชิ
ความจุ : 16,187 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Unosumai-cho, Kamaishi-shi, Iwate Pref
ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นและสึนามิเมื่อปีพ.ศ. 2554 (ค.ศ.2011) และถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพศึกรักบี้เวิลด์คัพ ซึ่งเป็นสนามแห่งนี้ยังเป็นสนามที่เล็กที่สุดในศึกรักบี้ชิงแชมป์โลกในครั้งนี้อีกด้วย ตามประวัติสนามแห่งนี้ได้ความเสียหายครั้งใหญ่ในช่วงเหตุการดังกล่าว และยังทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในระแวงนั้นสูญหายและเสียชีวิตราวๆ 1,000 คน และเมื่อทางรัฐบาลญี่ปุ่นเสนอให้สนามแห่งนี้ใช้ในการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกจึงมีการเทเม็ดเงินจำนวน 3 พันล้านเยนเพื่อซ่อมแซมใหม่ โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 2 เกมในกลุ่มบี นามีเบียร์ พบ แคนนาดา กับ กลุ่มซี ฟิจิ พบ อุรุกวัย นอกจากนี้อาจจะใช้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหญิงปี 2023 อีกด้วย
3.สนามคุมะกาย่ารักบี้เสเดี้ยม
ความจุ : 24,000 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Kamikawakami, Kumagaya-shi, Saitama Pref.
เป็นสนามที่สร้างขึ้นเฉพาะกีฬารักบี้โดยตรงของจังหวัดไซตามะ และยังเป็นรังเหย้าของยอดทีมรักบี้อย่าง "Panasonic Wild Knights" หรือบ้างครั้งสนามแห่งนี้จะใช้แข่งขันรักบี้ในเกมลีกของระดับมหาวิทยาลัย โดยคุมะกาย่ารักบี้เสเดี้ยมคือสนามกีฬาที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพ 2019 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันรักบี้โลกที่จัดขึ้นในเอเชีย และเพื่อความยื่งใหญ่จะมีการเพิ่มที่นั่งชั่วคราว 6,000 ที่นั่งเพื่อเพิ่มความจุสนามกีฬาให้เป็น 30,000 ที่นั่ง โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 3 เกมในกลุ่มเอ รัสเซีย พบ ซามัวร์, กลุ่มซี อาร์เจติน่า กับ สหรัฐอเมริกา และ กลุ่มดี จอร์เจีย กับ อุรุกวัย
4.สนามโตเกียวสเตเดี้ยม (อายิโนะโมโต๊ะสเตเดี้ยม)
ความจุ : 49,970 ที่นั่ง
ที่อยู่ :Nishimachi, Chofu-shi, Tokyo
เป็นสนามเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นและยังเป็นรังเหย้าของเอฟซีโตเกียวในศึกเจลีก และนอกจากนั้นสนามแห่งนี้ยังใช้จัดศึกรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล โดยในฟุตบอลโลก 2002 ทีมชาติซาอุฯใช้สนามแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บตัวและฝึกซ้อมแต่ไม่ได้ใช้แข่งขันในฟุตบอลโลก นอกจากนี้ยังใช้เป็นเวทีคอนเสิร์ต โดยในช่วงเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ ปีพ.ศ. 2554 (ค.ศ.2011) ได้ถูกใช้เป็นที่พักพิงสำหรับผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในโอลิมปิกเกมส์ 2020 สนามแห่งนี้จะใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งอีกด้วย โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 8 เกม ไฮไลต์ก็คือใช้เป็นพิธีเปิดและคู่เปิดสนามในกลุ่มเอ "เจ้าภาพ" ญี่ปุ่น พบ รัสเซีย, ในกลุ่มบี นิวซีแลนด์ พบ นามิเบียร์, ในกลุ่มซี ฝรั่งเศส พบ อาร์เจนติน่า, อังกฤษ พบ อาร์เจนติน่า, ในกลุ่มดี ออสเตรเลีย พบ เวลส์ ,รอบควอเตอร์ไฟนัล 2 แมตช์ และ รอบชิงเหรียญทองแดง
5.สนามโยโกฮาม่าสเตเดี้ยม (นิสสันสเตเดี้ยม)
ความจุ : 72,327 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Kozukue-cho, Kohoku-ku, Yokohama, Kanagawa Pref
โยโกฮาม่าสเตเดี้ยมเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและยังเป็นรังเหย้าของโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมดังในศึกเจลีกและยังเป็นสโมสรใหม่ของ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน นอกจากนั้นสนามแห่งนี้ยังเป็นสังเวียนฟุตบอลโลก 2002 รอบชิงชนะเลิศ รวมไปถึงรายการฟุตบอลใหญ่ๆหลากหลายรายการนับไม่ถ้วน ด้วยความที่เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดจึงทำให้สุดยอดแมตช์สำคัญๆมาลงแข่งในสนามแห่งนี้ และในศึกรักบี้เวิลด์คัพก็เช่นกันเพราะทางเจ้าภาพญี่ปุ่นได้กำหนดให้มีการชิงชนะเลิศที่สนามแห่งนี้อีกด้วย ส่วนนอกนั้นอีก 6 แมตช์ ในกลุ่มเอ ไอร์แลนด์ พบ สก๊อตแลนด์, ญี่ปุ่น พบ สก๊อตแลนด์, ในกลุ่มบี นิวซีแลนด์ พบ แอฟริกาใต้, ในกลุ่มซี อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส และ รอบเซมิไฟนัลทั้ง 2 แมตช์
6.สนามชิซูโอกะสเตเดี้ยม
ความจุ : 50,889 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Aino, Fukuroi-shi, Shizuoka Pref.
อีก 1 สนามที่มีความสวยงามไม่น้อยสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับฟุตบอลโลก 2002 และยังเป็นสังเวียนที่ บราซิล เฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 จากการปั่นฟรีคิกมหัศจรรย์ของ "โรนัลดินโญ่" หลังจบฟุตบอลโลกสนามแห่งนี้ยังได้จัดกีฬาแห่งชาติของญี่ปุ่นและยังใช้แข่งฟุตบอลรายการต่างๆของประเทศ โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 4 เกมในกลุ่มเอ ญี่ปุ่น พบ ไอร์แลนด์, สก๊อตแลนด์ พบ รัสเซีย, ในกลุ่มบี แอฟริกาใต้ พบ อิตาลี, ในกลุ่มดี ออสเตรเลีย พบ จอร์เจีย
7.สนามโตโยต้าสเตเดี้ยม
ความจุ : 45,000 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Sengoku-cho, Toyota-shi, Aichi Pref
เป็นสนามที่มีหลังคาเหมือนหีบเพลงพับเก็บได้ และยังใช้เป็นสังเวียนแข้งรอบรองชนะเลิศของฟุตบอล FIFA Club World Cup และยังเป็นรังเหย้าของทีม นาโกย่า แกรมปัส กับทีมรักบี้ Toyota Verblitz อีกด้วย ซึ่งหลังคาสามารถเปิด-ปิดได้ นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของสนามแห่งนี้ แต่ปัจจุบันหลังคาจะถูกเปิดออกและไม่ปิดตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากคาบำรุงรักษาแพง โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 4 เกมในกลุ่มเอ ญี่ปุ่น พบ ซามัวร์, ในกลุ่มบี แอฟริกาใต้ พบ นามิเบียร์, นิวซีแลนด์ พบ อิตาลี, ในกลุ่มดี เวลส์ พบ จอร์เจีย
8.สนามฮะนะโซโน่รักบี้สเตเดี้ยม
ความจุ : 30,000 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Matsubara Minami, Higashi Osaka-shi, Osaka Pref.
อยู่แถวชานเมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นตะวันตก สนามกีฬาแห่งนี้เปิดในปี ค.ศ. 1929 และยังเป็นสนามรักบี้ของญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุด โดยสนามนี้สร้างขึ้นเพื่อเล่นรักบี้โดยเฉพาะและไม่ว่ารายการรักบี้ระดับชาติของญี่ปุ่นรายการใดก็ตามจะมาชิงชนะเลิศกันที่สนามแห่งนี้ และยังเป็นรังเหย้าของทีมรักบี้ Kintetsu Liners อีกด้วย โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 4 เกม ในกลุ่มบี อิตาลี พบ นามิเบียร์, ในกลุ่มซี อาร์เจนติน่า พบ ตองก้า, สหรัฐอเมริกา พบ ตองก้า, ในกลุ่มดี จอร์เจีย พบ ฟิจิ
9.สนามมิซากิปาร์คสเตเดี้ยม
ความจุ : 30,132 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Misaki-cho, Hyogo-ku, Kobe-shi, Hyogo Pref
สนามแห่งนี้ใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลของทีม วิสเซล โกเบ ต้นสังกัดของ ลูคัส โพดอลสกี้ กับ อันเดรส อิเนสต้า และยังเป็นสนามรักบี้ของทีม Kobelco Steelers ที่สำคัญสนามแห่งนี้ยังเคยจัดฟุตบอลโลก 2002 มาแล้ว ตามประวัติยังเป็นสนามกีฬาแห่งแรกในญี่ปุ่นที่มีการติดตั้งสปอตไลท์เพื่อใช้แข่งกีฬาในเวลากลางคืน โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 4 เกม ในกลุ่มเอ สก๊อตแลนด์ พบ ซามัวร์, ไอร์แลนด์ พบ รัสเซีย, ในกลุ่มบี แอฟริกาใต้ พบ แคนนาดา, ในกลุ่มซี อังกฤษ พบ สหรัฐอเมริกา
10.สนามฮิกะชิฮิระโอะ ปาร์ค ฮะกะตะโนโมริ
ความจุ : 22,563 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Higashi Hiraokoen, Hakata-ku, Fukuoka-shi, Fukuoka Pref
สนามที่ชื่อเต็มย๊าวยาวแถมยังเรียกยากแต่กลับมีชื่อสั้นๆว่า "เลเวลไฟว์สเตเดี้ยม" (Level 5 Stadium) ซึ่งตั้งอยู่เป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ โดยที่มีสนามกีฬาชนิดอื่นๆรายรอบ และส่วนใหญ่จะใช้เป็นสนามแข่งรักบี้มากกว่าใช้แข่งฟุตบอลเสียอีก จึงทำให้สนามเลเวลไฟว์สเตเดี้ยมมีมนต์ขลังของกีฬารักบี้มากที่สุด โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 3 เกม ในกลุ่มเอ ไอร์แลนด์ พบ ซามัวร์, ในกลุ่มบี อิตาลี พบ แคนนาดา, ในกลุ่มซี ฝรั่งเศส พบ สหรัฐอเมริกา
11.สนามคุมะโมโตะสเตเดี้ยม
ความจุ : 32,000 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Hirayama-machi, Higashi-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto Pref
เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ ซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอล และ บางครั้งก็ใช้เป็นสังเวียนแข่งรักบี้ลีกสูงสุด สำหรับสนามแห่งนี้ก็เหมือนสนามทั่วไปมีหลายสนามกีฬาอื่นๆล้อมรอบ โดยในศึกรักบี้เวิลด์คัพจะใช้แข่งขัน 2 เกม ในกลุ่มซี ฝรั่งเศส พบ ตองก้า, ในกลุ่มดี เวลส์ พบ อุรุกวัย
12.สนามโออิตะสเตเดี้ยม
ความจุ : 40,000 ที่นั่ง
ที่อยู่ : Yokoo, Oita-shi, Oita Pref
เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์บนเกาะคิวชูปัจจุบันสนามแห่งนี้มีชื่อว่า "โออิตะแบงค์โดม" ซึ่งสนามแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในศึกฟุตบอลโลก 2002 และใช้ในการแข่งขันฟุตบอลเป็นหลัก แต่ในเมื่อรักบี้ชิงแชมป์โลกมาจัดที่ญี่ปุ่น ทำให้สนามแห่งนี้จึงเป็น 1 ใน 12 สนามที่ต้องปรับให้เป็นรักบี้สเตเดี้ยม โดยจะแข่งทั้งหมด 5 เกม ในกลุ่มบี นิวซีแลนด์ พบ แคนนาดา, ในกลุ่มดี ออสเตรเลีย พบ อุรุกวัย, เวลส์ พบ ฟิจิ และรอบควอเตอร์ไฟนัล 2 แมตช์
"บิ๊กเอ็ม"