เจอของจริง!

คิดไว้แล้วนะครับว่าอย่างไรสถิติอันมหัศจรรย์ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในฐานะกุนซือปีศาจแดงคนใหม่ก็ต้องถูกหยุดเข้าสักวัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ลูกทีมของเขาจะพิชิตคู่แข่งหรือรอดพ้นจากความปราชัยไปได้ตลอด
เฉพาะอย่างยิ่งในเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกไปเยือน สเปอร์ส ซึ่งโอกาสพังพาบเป็นครั้งแรกมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
นอกจากจะไม่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอหังการถึงขั้นบุกไปเหยียบจมูกพวกคลับไก่ถึงถิ่น
เช่นเดียวกับเกมที่ต้องออกไปเยือน อาร์เซน่อล ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4
ทว่ามันกลับกลายเป็นอีกเกมที่พลพรรคปีศาจแดงบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าของบ้านอย่างอุกอาจยิ่งนัก
แม้สถิติชนะติดต่อกันจะหยุดลงด้วยการทำได้แค่เสมอ เบิร์นลี่ย์ ในบ้านตัวเอง แต่พวกเขาก็ยังไม่แพ้ใคร และในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็เสียหลักพุ่งชนความพ่ายแพ้จนได้นะครับ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ว่าแล้วก็หยุดสถิติไร้พ่ายในทุกรายการของตัวเองเอาไว้ที่ 11 นัด แถมถือเป็นการเปิดหัวโปรแกรมระห่ำโคตรโหดไม่ปรานีใครแบบไม่ค่อยจะโสภาและสถาพรสักเท่าไหร่
ก่อนที่จะไปว่ากันถึงรายละเอียดของเกมและเหตุผลในการปราชัย ผมอยากให้ทุกท่านดูการจัดตัวผู้เล่นของกุนซือเบบี้เฟซเป็นอันดับแรก
ระบบการเล่นยังเหมือนเดิมคือ 4-3-3
ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสาแผงหลัง 4 ตัว ฟูลแบ็ก 2 ข้างคือ แอชลี่ย์ ยัง กับ ลุค ชอว์ ขณะที่ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้วยการส่ง เอริก ไบยี่ ลงเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวจริงคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ตอนนี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งไปแล้ว
แดนกลาง 3 ตัวยังคงเป็น 3 ประสานที่ลงตัวมากอย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช และปอล ป็อกบา ส่วนกองหน้า 3 คนประกอบด้วยหัวหอกตัวเป้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ขนาบข้างซ้ายและขวาด้วย อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ เจสซี่ ลินการ์ด
นี่คือขุนพลปีศาจแดงชุดที่ดีที่สุดของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ทีนี้เมื่อนำตัวผู้เล่นไปเทียบกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่งกับผู้มาเยือนอย่าง เปแอสเช ซึ่งปราศจากดาวเตะสำคัญอย่าง เนย์มาร์ กับ เอดิสัน คาวานี่
เทียบกันแล้วดูเหมือนงานของผู้เล่นสายพันธุ์อสูรแดงน่าจะเบาลงไปเยอะ โดยเฉพาะกองหลังที่ยังไว้วางใจไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แถมรายชื่อตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะเหนือกว่าผู้มาเยือนด้วยซ้ำ
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้ากระดาษหรือในความรู้สึกนึกคิด แต่บนฟลอร์หญ้า เปแอสเช แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีตัวผู้เล่นเหนือกว่าต่างหาก
กลยุทธ์ของ โธมัน ทูเคิ่ล กุนซือของ เปแอสเช คือสั่งให้ลูกทีมบดบี้เข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะพลางบีบสูงถึงในแดนของคู่แข่ง
ท่านผู้ชมทางบ้านจะเห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เดินเกมไม่ลื่นไหล เพราะจ่ายบอลกันขาดๆ เกินๆ
เหตุเพราะพวกเขาถูกกดดันให้ต้องเล่นเร็วและถูกเร่งให้ต้องรีบจ่ายบอล ความแน่นอนจึงลดน้อยลงไป นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมผู้เล่นในเครื่องแบบปีศาจสามง่ามถึงต่อบอลกันขาดๆ เกินๆ แถมพลิกบอลขึ้นไปทำเกมรุกไม่ค่อยถนัด
ขุมพลังขับเคลื่อนในแดนกลางอย่าง ปอล ป็อกบา ถูกหมายหัวเป็นพิเศษ ว่าแล้วก็ถูกมิดฟิลด์ตัวกลางของ เปแอสเช อย่าง มาร์โก แวร์รัตติ กับ มาร์กินญอส บี้ติดในทุกจังหวะจนไม่สามารถสร้างสรรค์เกมตามจังหวะของตัวเองได้เหมือนเดิม
สิ่งที่เห็นคือเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกทำให้ตะกุกตะกักจนทำอะไรผู้มาเยือนแทบไม่ได้เลย
เราหยุดเอาไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ แล้วมาดูวิธีการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด บ้าง
อันดับแรกคือไม่ได้มาตั้งรับหรืออุดประตูแน่ๆ แถมยังใช้วิธีการเดียวกันกับคู่แข่ง นั่นคือพยายามพุ่งเข้าหาบอลเร็วพลางบีบสูง เพื่อไม่ให้ เปแอสเช เซตบอลขึ้นมาจากแดนตัวเอง
ต่อเมื่อถูกบีบ ผู้เล่นของ เปแอสเช สามารถเอาตัวรอดได้เก่งกว่า ด้วยการทำชิ่งกันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ มิหนำซ้ำเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 ก็ยังเอาตัวรอดได้อีก
ส่วนจังหวะในการเข้าทำก็มีทีมเวิร์กมากกว่า
นี่คือความแตกต่าง
ความแตกต่างคือคุณภาพผู้เล่นของทีมจากฝรั่งเศสมีสูงกว่า
และด้วยคุณภาพของผู้เล่นที่สูงกว่านี่แหละที่ช่วยให้ผู้เล่น เปแอสเช ครองบอลบุกพลางหาจังหวะจบได้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งได้ประตูนำจากลูกเตะมุม ซึ่งการป้องกันลูกตั้งเตะทุกประเภทถือเป็นจุดอ่อนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้อยู่แล้ว
ดาบิด เด เคอา แทบไม่ค่อยใช้ความได้เปรียบของผู้รักษาประตูในการออกมาตัดบอลกลางอากาศ นี่คือจุดอ่อนของนายทวารผู้นี้
ประการต่อมาคือการประกบตัวที่ห่วยแตกมาก
จากภาพช้าท่านผู้ชมทางบ้านจะเห็นว่านักเตะผู้ทำหน้าที่ประกบ เพรสแนล คิมเพมเบ้ คือ เนมานย่า มาติช
ตอนแรกมิดฟิลด์ตัวรับของปีศาจแดงก็ยืนจ้องพลางประกบติดอยู่ที่ตัวของเซนเตอร์แบ็กทีมชาติฝรั่งเศสผู้นี้อยู่ดีๆ แต่พอบอลลอยเข้ามาดันเผลอทิ้งผู้เล่นที่ตัวเองต้องประกบ แล้วขยับหนี เพื่อไปเล่นบอลซะอย่างนั้น
เพรสแนล คิมเพมเบ้ จึงได้รับอิสระแล้วเข้าไปกะซวกตาข่ายแบบโล่งๆ ด้วยประการฉะนี้
หลังจากโดนนำ ผู้เล่นปีศาจแดงพยายามเร่งเกม เพื่อทวงประตูคืน
ทว่ายิ่งเร่งรีบก็ยิ่งกลายเป็นร้อนรนจนเสียบอลง่าย ก่อนถูกสวนกลับมายิงอีกหนึ่งดอก ซึ่งจังหวะนั้นแผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อยู่กับเกือบครบองค์ แต่ดันเอา อังเคล ดิ มาเรีย กับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ไม่อยู่...ซะอย่างนั้น!
ต่อเมื่อนำห่างถึง 2 ดอก ทีมจากราชธานีแห่งฝรั่งเศสก็ถอยลงไปเล่นเกมรับเพื่อรักษาสกอร์อย่างเหนียวแน่น
ซ้ำร้าย ปอล ป็อกบา ยังมาถูกไล่ออกจนหมสิทธิ์ลงสนามในเกมที่ 2 ซึ่งต้องบอกว่าโอกาสผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นแทบจะเด๊ดห่าไปแล้ว ขอบอกว่าเลือนรางยิ่งกว่าแสงหิ่งห้อยกลางแดดตอนเที่ยงของกรุงเทพฯ เสียอีก
บทสรุปง่ายๆ คือคุณภาพผู้เล่นของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั้นมีสูงกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน
ไม่เพียงแต่จะพลาดท่าพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก มันยังเป็นครั้งแรกที่ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยิงประตูคู่แข่งไม่สำเร็จอีกต่างหาก
ขนาด เปแอสเช ไม่มีตัวสำคัญอย่าง เนย์มาร์ กับ เอดิสัน คาวานี่ - แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสู้ไม่ได้เลย คิดเอา
นี่คืออีกหนึ่งบทเรียนของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในฐานะผู้จัดการทีมปีศาจแดง - การประเมินศักยภาพของคู่แข่งต้องรัดกุมและละเอียดมากกว่าเดิม เพื่อวางกลยุทธ์และกำหนดแผนการเล่นให้ลูกทีมได้ถูกต้องกว่านี้
สำหรับข้อดีจากความพ่ายแพ้แบบคาบ้าน คือช่วยให้มองเห็นความจริงที่คมชัดมากยิ่งขึ้น
ความจริงที่บอกว่าถ้าเจอ "ของจริง" ที่เป็นของจริงยิ่งกว่าของจริงที่เคยเจอมา หรือหากคิดจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ผู้เล่นชุดนี้ที่ขนาดพิชิตคู่แข่งมาถึง 10 ใน 11 นัด ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสะกิดผิวหนังของผู้มาเยือนอย่าง เปแอสเช ให้ถลอกได้เลย !!!
บอ.บู๋