อดิศักดิ์-"กัปตันเหลิม"นำทัพแข้งไทยซัดสิงคโปร์ชี้ชะตาซูซูกิ

มิโลวาน ราเยวัช แม่ทัพใหญ่แห่งทีมชาติไทย จัดทัพใหญ่เต็มอัตราศึกลงสนามนำโดย "กัปตันเหลิม" เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว รวมไปถึงศูนย์หน้าอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ซัดไปแล้ว 7 ลูกพร้อมลงล่าตาข่าย ด้าน ฟานดี้ อาห์หมัด กุนซือสิงคโปร์ มั่นใจสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนไทยอึ้งแน่ รับไม่มีอะไรจะเสีย สถิติชี้เจอกัน 14 ครั้ง ไทย ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 4 โดยเกมระหว่าง ไทย พบ สิงคโปร์ จะแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย. 61 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. ช่อง 7 เอชดี ยิงสด

    ศึกฟุตบอล ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018'' โดยทีมชาติไทย มาแล้ว 3 นัด ประกอบด้วย ชนะ ติมอร์-เลสเต 7-0 (เยือน), ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 (เหย้า) และเสมอ ฟิลิปปินส์ 1-1 (เยือน) สำหรับเกมการแข่งขัน ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018'' นัดสุดท้ายของกลุ่ม บี ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. 

     มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ชาวเซอร์เบีย ของทีมชาติไทย กล่าวในการแถลงข่าวว่า ''เกมนี้เป็นเกมสำคัญ เราลืมทุกอย่างจากเกมที่ผ่านมาเพื่อมุ่งมั่นเล่นเต็มที่ในเกมกับสิงคโปร์ แน่นอนสภาพร่างกายของนักเตะทุกคนฟิตพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแน่นอน''

    ในส่วนของ 11 ผู้เล่นที่ มิโลวาน ราเยวัช เตรียมที่จะลงเล่นในเกมชี้ชะตาเข้ารอบตัดเชือกกับ สิงคโปร์ คาดว่าผู้รักษาประตูจะกลับมาใช้ทาง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่ได้ลงสนามใน 2 เกมแรก แผงแบ็กโฟร์มีการปรับเปลี่ยนจัด มิก้า ชูนวลศรี ในตำแหน่งแบ็กขวาแทน ฟิลิป โรลเลอร์ นอกนั้นคงชุดเดิม เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์ และ กรกช วิริยอุดมศิริ ส่วนกองกลางจะเป็น ธนบูรณ์ เกษารัตน์ โดยมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ คอยสนับสนุนช่วย ส่วนมิดฟิลด์เกมรุกจะเป็น สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ตัวริมเส้นเกมรุกทั้งสองฝั่งจัด นูรูล ศรียานเก็ม และ มงคล ทศไกร กลับมายืนประจำการ และศูนย์หน้าตัวเป้า อดิศักดิ์ ไกรษร พร้อมลงล่าตาข่าย

    ฟานดี้ อาห์หมัด กุนซือใหญ่ของสิงคโปร์ จะเลือกวางแผนในระบบ 4-2-3-1 ตามถนัดอีกครั้ง นำทีมมาโดย อิซซ์ดิน ชาฟิก, ฮาริสส์ ฮารูน ผนึกกำลังร่วมกันในแดนกลาง ส่วนแดนหน้าจะเป็น ฟาริส รามลี ลงประสานงานร่วมกับ อิคห์ฮาน ฟานดี้ ลงล่าสกอร์ในเกมนี้ 

    โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามให้กับ สิงคโปร์ จะมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ฮัสซัน ซันนี (ผู้รักษาประตู), ไบฮัคกี้ ไคซาน, ฟาริตซ์ ฮามีด, อีร์ฟาน ฟานดี้, นาซรุล นาซารี, อิซซ์ดิน ชาฟิก, ฮาริสส์ ฮารูน, กาเบรียล ควาก, ซุลฟะห์มี อาริฟิน, ฟาริส รามลี, อิคห์ฮาน ฟานดี้

    ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

    ไทย
21 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - ไทย เสมอ ฟิลิปปินส์ 1-1 (เยือน)
17 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 (เหย้า)
9 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - ไทย ชนะ ติมอร์-เลสเต 7-0 (เยือน)
14 ต.ค. 61 - กระชับมิตรฟีฟ่า เดย์ - ไทย ชนะ ตรินิแดดและโตเบโก 1-0 (เหย้า)
11 ต.ค. 61 - กระชับมิตรฟีฟ่า เดย์ - ไทย ชนะ ฮ่องกง 1-0 (เยือน)

    สิงคโปร์
21 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - สิงคโปร์ ชนะ ติมอร์-เลสเต 6-1 (เหย้า)
13 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - สิงคโปร์ แพ้ ฟิลิปปินส์ 0-1 (เยือน)
9 พ.ย. 61 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 - สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 1-0 (เหย้า)
16 ต.ค. 61 - กระชับมิตรฟีฟ่า เดย์ - สิงคโปร์ ชนะ กัมพูชา 2-1 (เยือน)
12 ต.ค. 61 - กระชับมิตรฟีฟ่า เดย์ - สิงคโปร์ ชนะ มองโกเลีย 2-0 (เหย้า)

    ผลงาน 5 นัดหลังสุดที่พบกัน
22 พ.ย. 59 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 - ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0
26 มี.ค. 58 - กระชับมิตรฟีฟ่าเดย์ - ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-0
23 พ.ย. 57 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 - สิงคโปร์ แพ้ ไทย 1-2
22 ธ.ค. 55 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 - ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0
19 ธ.ค. 55 - เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 - สิงคโปร์ ชนะ ไทย 3-1

สถิติชี้ 9 ปีสิงคโปร์ไม่ชนะที่เมืองไทย

    สถิติของทีมชาติสิงคโปร์ หนล่าสุดที่บุกมาเอาชนะทีมชาติไทย ต้องย้อนไปเมื่อปี 2009 ในเกมเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก โดยเกมนั้น สิงคโปร์ บุกมาเฉือนเอาชนะ ทัพช้างศึก 1-0 จากประตูชัยของ อเล็กซานเดอร์ ดูลิค
    อย่างไรก็ดี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 7 นัดหลังสุดที่พบกันในบ้านของทีมชาติไทย ทัพ ''เดอะ ไลออนส์'' ยังไม่สามารถเอาชนะได้อีกเลย โดยเจอกัน 7 นัดที่ไทย สิงคโปร์ แพ้ไปถึง 4 นัด และเสมอ 3 นัด ซึ่งเกมล่าสุดที่พบกันที่บ้านของไทย เป็นทัพช้างศึก เฉือนชนะสิงคโปร์ได้ 1-0 ในเกมซูซูกิ คัพ 2016

    สำหรับเกมการแข่งขัน ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018'' นัดสุดท้ายของกลุ่ม บี ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. โดยประตูจะเปิดในเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี