ล็อคถล่ม"รอนนี่-จัดด์"ร่วง 8 คนสอยคิวโลก"ไคเรน-บิงแฮม"ขึ้นเต็งแชมป์

ทำเอาแฟนกีฬาแม่นรูต่างช็อกตาตั้งไปตามๆกัน เมื่อบรรดามือดีๆที่ถูกวางให้เป็นเต็งแชมป์อันดับต้นๆ ต่างพาเหรดตกรอบกันไปหมดแล้ว ในศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2024 ที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 20 เม.ย. - 6 พ.ค. 2024

ไม่ว่าจะเป็น เต็ง 1 อย่าง "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ที่พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 อย่างน่าเสียดาย หลังล่าสุดพ่าย "บอลรัน" สจวร์ต บิงแฮม มือ 29 ของโลกจากชาติเดียวกัน ในรอบก่อนรองชนะเลิศไป 10-13 เฟรม

ด้าน "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ ที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 2 โดนม้ามืดประจำรายการอย่าง แจ็ค โจนส์ มือ 44 ของโลกจากเวลส์สยบอย่างเหลือเชื่อ 13-9 เฟรม ตกรอบ 8 คนสุดท้ายเช่นเดียวกับ รอนนี่ ทั้งๆที่ โจนส์ เพิ่งจะเข้ามาแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายในครูซิเบิลเธียร์เตอร์เป็นหนที่ 2 ต่อจากปีก่อน

ส่วนเต็ง 3 อย่าง "ฉลามหิน" มาร์ค เซลบี้ มือ 5 ของโลกจากอังกฤษ จอดป้ายตั้งแต่รอบแรก หลังพลิกล็อกพ่ายอย่างมโหฬารต่อ โจ โอคอนเนอร์ มือ 30 ของโลกจากชาติเดียวกัน 6-10 เฟรม ซึ่งแมตช์ดังกล่าว ยังเป็นแมตช์แรกในชีวิตที่ โอคอนเนอร์ ผ่านการคัดเลือกเข้ามาโชว์เพลงคิวในโรงละครครูซิเบิลอีกด้วย

ขณะที่เต็ง 4 อย่าง "พิสตอล" มาร์ค อัลเลน มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ยังคงไม่ถูกชะตากับศึกชิงแชมป์โลกต่อไป เมื่อร่วงรอบ 2 (รอบ 16 คน) อย่างน่าเจ็บปวด หลังพ่าย จอห์น ฮิกกินส์ มือ 13 ของโลกจากสกอตแลนด์ไปอย่างฉิวเฉียด 12-13 เฟรม

การปราชัยต่อ จอห์น ฮิกกินส์ ดีกรีแชมป์โลก 4 สมัย มันไม่แปลกเท่าใดนัก ทว่าในเฟรมตัดสิน อัลเลน ที่มีแต้มนำห่างเยอะมาก ต้องการอีกชุดเดียวแต้มก็จะขาดอยู่แล้ว กลับใช้เรซตบแดงหลุมบนซ้ายพลาดอย่างเหลือเชื่อ

ที่น่าตะลึงยิ่งกว่า คือการที่ จอห์น ฮิกกินส์ ที่สู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย จัดการเบิ้ลแดงหลุมกลางลงอย่างน่าอาอัศจรรย์ พร้อมกับกวาดหมดโต๊ะ ปล้นในเฟรมตัดสิน ปาดหน้าคว้าชัยเหนือ อัลเลน 13-12 เฟรมไปอย่างช็อกวงการสอยคิว

เรียกได้ว่า ศึกชิงแชมป์โลกคราวนี้ ไม่มีเต็ง 1-4 หลุดเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เท่านั้นยังไม่พอ คนที่ผ่านมาเข้ามาในรอบตัดเชือก ล้วนแล้วแต่เหนือความคาดหมายด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เดวิด กิลเบิร์ต มือ 31 ของโลกจากอังกฤษ ที่ทำท่าจะร่วงตั้งแต่รอบแรก (รอบ 32 คน) อยู่แล้ว แต่พลิกสถานการณ์จากตามหลังแชมป์เก่าอย่าง ลูก้า เบรเซล มือ 4 ของโลกจากเบลเยียม 6-9 เฟรม จนกลับมาคว้าชัย 10-9 เฟรมอย่างเหลือเชื่อ

ด้าน ไคเรน วิลสัน ที่บรรดาเซียนทั้งหลายต่างวิเคราะห์กันว่า เต็มที่น่าจะไปได้ไกลเพียงรอบ 16 คน เนื่องจากจะต้องโคจรมาพบกับ มาร์ค เซลบี้ ในรอบดังกล่าวพอดี

ทว่าพอ เซลบี้ ไม่มาตามนัด แล้ว โจ โอคอนเนอร์ เข้ามาแทน จึงเปิดโอกาสให้ ไคเรน เจอกับงานที่ไม่หนักมากนัก ไล่ต้อน โอคอนเนอร์ ไปอย่างสบาย 13-6 เฟรม แถมในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยังท็อปฟอร์มกด จอห์น ฮิกกินส์ อีก 13-8 เฟรม ผ่านเข้าตัดเชือกกับ เดวิด กิลเบิร์ต

ขณะที่สายล่าง เกมในรอบ 8 คนสุดท้าย พลิกล็อกถล่มทลายทั้ง 2 คู่ โดยเฉพาะคู่แรกที่ จัดด์ ทรัมป์ พ่าย แจ๊ค โจนส์ ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน 9-13 เฟรม นับเป็นหนแรกที่ โจนส์ เข้าไปโชว์เพลงคิวในรอบตัดเชือก ณ สังเวียนครูซิเบิล

ด้านอีกคู่ในสายล่างแม้ สจวร์ต บิงแฮม จะเคยได้แชมป์โลกเมื่อปี 2015 แต่ฟอร์มช่วงหลังๆดร็อปลงไปมาก จนอันดับร่วงไปรั้งถึงเบอร์ 29 ของโลกเลยทีเดียว ทว่าจอมคิวร่างท้วมผู้นี้กลับโค่น รอนนี่ โอซัลลิแวน ชนิดที่บรรดากูรูต้องหน้าแหกไปตามๆกัน 13-10 เฟรม ผ่านเข้าไปตัดเชือกกับ แจ๊ค โจนส์ ต่อไป

นอกจากนี้ ส่งผลให้ศึกชิงแชมป์โลก 2024 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ที่ 4 จอมคิวที่ผ่านเข้ามาสู่รอบตัดเชือก ไร้โทรฟี่แชมป์รายการอาชีพ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

แชมป์แรกและแชมป์เดียวของ เดวิด กิลเบิร์ต บนเส้นทางคิวโลกคือศึกแชมเปี้ยนชิพลีก 2021, ส่วนแชมป์หนสุดท้ายของ ไคเรน วิลสัน ได้เกินขึ้นในศึกยูโรเปี้ยนมาสเตอร์ส 2022

ด้านโทรฟี่แชมป์ใบสุดท้ายของ บิงแฮม คือศึกใหญ่อย่างมาสเตอร์ส 2020 เมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่ แจ๊ค โจนส์ ผู้คว่ำ จัดด์ ทรัมป์ ไม่เคยคว้าแชมป์มาก่อนเลยแม้แต่ทัวร์นาเมนต์เดียว

หนสุดท้ายที่ 4 ผู้เล่นที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศโดยที่ไม่ได้แชมป์เลยในรอบปีที่ผ่านมา ต้องย้อนกลับไปในศึกชิงแชมป์โลก 2005 โน่นเลย (ปีเตอร์ เอ็ปดอน, ฌอน เมอร์ฟี่, แมทธิว สตีเว่นส์ และ เอียน แม็คคัลลอช) ซึ่ง ฌอน เมอร์ฟี่ สร้างวีรกรรมคว้าแชมป์โลกครั้งดังกล่าวอย่างช็อกโลก ทั้งๆที่ในเวลานั้น เขาเป็นนักสอยคิวที่มาจากรอบคัดเลือก

โอกาสที่ศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ จะได้แชมป์โลกหน้าใหม่ มีสูงเช่นกัน เพราะมีแค่ บิงแฮม เท่านั้นที่เคยได้แชมป์โลก 1 ครั้งเมื่อปี 2015 ส่วนที่เหลือยังไม่เคยมาก่อน โดย ไคเรน เกือบทำได้ หลังคว้ารองแชมป์โลกเมื่อปี 2020

ล่าสุด ร้านพนันในอังกฤษได้ออกราคาเต็งแชมป์มาแล้ว ปรากฏว่า ไคเรน วิลสัน ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ตามด้วยเต็ง 2 อย่าง สจวร์ต บิงแฮม, เต็ง 3 เดวิด กิลเบิร์ต และเต็ง 4 แจ็ค โจนส์

จุดที่น่าสังเกตอีกเรื่องก็คือ ในศึกชิงแชมป์โลก 2015 ก่อนที่ สจวร์ต บิงแฮม จะคว้าแชมป์โลกดังกล่าวมาครองในท้ายที่สุด เขาสามารถปราบ รอนนี่ ในรอบ 8 คนสุดท้าย เหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาเลย


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport