วัน คลับ แมน..ชาตรี ฉิมทะเล จากโนเนม แต่จบแบบตำนานกับ บีจี

มีไม่บ่อยกับนักฟุตบอลที่จะเริ่มเล่นและจบชีวิตค้าแข้งกับสโมสรเดียว แต่ "เจ้าหนุ่ม"ชาตรี ฉิมทะเล หัวหอกเจ้าเวหาของทีม "กระต่ายแก้ว"บางกอกกล๊าส เอฟซี คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกเรียกว่า One club man
จากนักเตะโนเนมจากโคราช ที่ไม่มีดีกรีใด ๆ นอกจากทีมเยาวชนของจังหวัด โผล่มากรุงเทพฯตามคำชักชวนของอาจารย์สมัยเรียนมัธยมให้มาเรียนที่วิทยาลัยพลศึกษา กรุงเทพ ย่านคลองธัญญบุรี เพียงเพื่อเรียนจบจะไปใช้วิชาชีพในฐานะครูต่างจังหวัด แต่จับพลัดจับพลู เจ้าตัวมาติดทีมวพ.กรุงเทพ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จนวันดีคืนดีเมื่อสถาบันขาดกองหน้าก็เลยได้ลงล่าประตูตำแหน่งถนัดที่เคยเล่น
เมื่ออาจารย์ที่เป็นโค้ชวพ.กรุงเทพ ได้มีโอกาสเข้ามาทำทีมสมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส ซึ่ง ณ เวลานั้นเปรียบเสมือนทีมฟุตบอลโรงงานแก้ว บางกอกกล๊าส ส่งแข่งตั้งแต่ถ้วย ง.ไต่เต้าถึงถ้วย ค โดยมีชาตรีเล่นอยู่ด้วยในวัย 22 ปี จนปี 2009 บางกอกกล๊าสได้สิทธิ์จากธ.กรุงไทยส่งแข่งบอลลีกสูงสุดครั้งแรก "เจ้าหนุ่ม"จากเด็กโนเนมถ้วยเล็ก ถูกโค้ชฮาน และผู้บริหารดึงขึ้นมาสู่ชุดใหญ่แบบไม่คาดฝัน
ชาตรี ฉิมทะเล พลิกชีวิตจากนักเตะโนเนมก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของบางกอกกล๊าสด้วยสไตล์บู๊สู้ไม่ถอย จนมีโอกาสก้าวมาติดทีมชาติไทยในยุคปลายของไบรอัน ร็อบสันและยุคของ วินเฟรด เชฟเฟอร์ ซึ่งเจ้าตัวถือว่าเป็นจุดสูงสุดของชีวิตนักเตะภูธรอย่างตัวเองที่ไม่เคยคาดฝันจะได้ยึดอาชีพฟุตบอลแถมยังก้าวมาติดธงได้อย่างชนิดน้อยคนจะได้รับโอกาส แม้จะเป็นแค่ตัวสำรองก็ตามที
ส่วนการเล่นกับบางกอกกล๊าส ตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงตอนนี้ 34 ปี กว่า 12 ปีที่รับใช้สโมสร ชาตรี เปิดใจว่าไม่เคยคิดจะหนีทีมไปไหน เพราะเจ้านายอย่าง ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธาน และรองประธานอย่าง ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ดูแลเหมือนพี่น้องมากกว่าเจ้านาย น้ำใจทดแทนกันไม่หมด เจ้าตัวจึงยืนยันว่าถ้าเป็นไปได้จะแขวนสตั๊ดอยู่กับบางกอกกล๊าส ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และอยากจะรับใช้สโมสรต่อไปในตำแหน่งสตาฟฟ์โค้ชหากได้รับโอกาส
ในฤดูกาลนี้ ชาตรี กลับมาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นจนยึดตัวจริงได้อีกครั้งทั้งการคุมทีมของ วิดมาร์ และ "โค้ชง้วน"สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ โดยยิงไปได้ถึง 9 ประตู ถ้าเทียบนักเตะไทยด้วยกันเป็นรองแค่ ธีรศิลป์ แดงดา ของเอสซีจี เมืองทองที่ยิงได้เยอะกว่าคือ 12 ประตู ซึ่งฟอร์มที่ร้อนแรงตอนนี้มาจากการที่เจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับแม้จะอายุมากแต่ก็รักษาตัวดีไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว เลยยืนระยะได้มาจนถึงตอนนี้
เมื่อถูกถามเรื่องการกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในวัย 34 ปี ชาตรี บอกว่า ไม่ได้คิดหวังแล้ว เพราะมีกองหน้าอายุน้อยที่ฟอร์มดีหลายคน อย่าง สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่เล่นบีจีด้วยกันก็เล่นได้ดี ตอนนี้ขอโฟกัสไปที่การเล่นให้กับสโมสรบางกอกกล๊าสอย่างเดียวจะดีกว่า
นี่คือ กองหน้าเจ้าเวหา ชาตรี ฉิมทะเล ที่เริ่มจากนักเตะโนเนม และจะปิดท้ายด้วยการเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะไทยของบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่แฟน ๆ บีจีไม่มีวันลืมในฐานะ One Club Man