5 ประเด็นต้องจับตามองพรีเมียร์ลีกวีก16

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดสัปดาห์นี้ มีเกมน่าสนใจหลายคู่ โดยเฉพาะบิ๊กแมตช์ ระหว่าง เชลซี และ แมนฯซิตี้ ส่วนคู่อื่นๆจะมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง เราคัดมาให้แล้วที่นี่
1. การสะดุดของเชลซี
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดคำถามต่อทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่ ว่าอยู่ในช่วงขาลงหรือไม่? จากความพ่ายแพ้แก่สเปอร์ส ต่อเนื่องด้วยแพ้วูล์ฟส์ ทำให้ 3 เกมที่ผ่านมา เชลซีพ่ายไปถึง 2 เกม ทำให้แต้มที่เคยเกาะสามอันดับแรกต้องถอยรูดลงมาอันดับ 4 พร้อมกับตามหลังแมนซิตี้ จ่าฝูงถึง 10 คะแนน
เกมสุดสัปดาห์นี้ ซาร์รี่ จะต้องนำทัพสิงห์บลูส์ต่อกรกับเรือใบสีฟ้า เขาจำเป็นต้องลดระยะห่างคะแนนกับแมนซิตี้ให้ได้ จากเกมที่ผ่านมากุนซือสิงห์อมควัน พักผู้เล่นตัวหลักหลายรายเก็บไว้เพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ ขณะที่ซิตี้ มีผู้เล่นให้หมุนเวียนใช้งานไม่ว่าตัวจริงหรือตัวสำรองก็สามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง
น่าสนใจว่า เชลซีจะหยุดเป๊ป กวาร์ดิโอล่าไว้ได้หรือไม่ แต่หากทำไม่ได้ คงไม่เกินไปนักหากจะต้องตัดชื่อสิงโตน้ำเงินครามออกจากทีมลุ้นแชมป์
2. คำถามเกี่ยวกับป็อกบา?
แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือทีมบ๊วยของลีก แม้อันดับคะแนนจะห่างกัน แต่ฟูแล่มก็ยกระดับขึ้นมาได้ดีหลังการเข้ามาคุมทีมของเคลาดิโอ รานิเอรี่
ไม่เพียงแค่ผลการแข่งขันยากที่จะเดาแล้ว การจัดทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นสิ่งที่ยากจะคาดการณ์เช่นกัน เนื่องด้วยทั้งอาการบาดเจ็บของตัวผู้เล่น รวมถึงเรื่องการตัดสินใจจะส่งปอล ป็อกบา หรือโรเมลู ลูกากู ลงเป็นตัวจริงหรือไม่
ฟอร์มของป็อกบา ในช่วงหลังไม่สามารถช่วยยกระดับปีศาจแดงได้เลย หากเทียบกับความสามารถและดีกรีแชมป์โลกที่ติดตัวมา ซึ่งหากเขายังไม่พัฒนาตัวเองในเรื่องนี้ได้ การลงเป็นตัวจริงเกมกับทีมอันดับสุดท้ายก็แทบจะไร้ประโยชน์
3. ตัวเลือกแนวรับของเอเมรี่
ร็อบ โฮลดิ้ง ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของอูไน เอเมรี่เต็มตัวในซีซั่นนี้ ด้วยการเป็นหนึ่งในระบบเซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ 3 ตัว อย่างไรก็ดี เกมล่าสุดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาต้องโชคร้ายบาดเจ็บหนักบริเวณหัวเข่า และอาจเป็นไปได้ว่าจะต้องพักตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล
แต่หนึ่งข่าวดีที่ตามมาคือ การคัมแบ็กของโลร็องต์ กอสซีแอลนี่ กัปตันทีมตัวจริงที่เตรียมกลับลงสนามได้อีกครั้งหลังบาดเจ็บไปหลายเดือน ซึ่งแฟนเดอะ กันเนอร์ส อาจได้เห็นเขาลงสนามในเกมยูโรปา ลีกกับคาราบัก ช่วงกลางสัปดาห์หน้า
อีกหนึ่งแนวรับที่หายหน้าหายตาไปนานคือ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ก็ใกล้คืนสนามแล้วหลังเพิ่งลงเล่นให้ปืนใหญ่เพียง 3 เกมเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นเกมลีกกับฮัดเดอร์สฟิลด์วันเสาร์นี้ เอเมรี่ อาจจำเป็นต้องขยับสเตฟาน ลิคท์ชไตเนอร์ มาเล่นแทนตำแหน่งของโฮลดิ้งเหมือนเกมวันพุธที่ผ่านมา
4. นายใหม่นักบุญ
การแต่งตั้งราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล เข้ามาคุมทีมแทนมาร์ค ฮิวจส์ ทำให้เขาเป็นนายใหญ่เซาธ์แฮมป์ตัน คนที่ 4 ในรอบสองปีครึ่ง และจะเริ่มงานทันที่ในเกมกับคาร์ดิฟฟ์ คืนวันเสาร์นี้
กุนซือชาวโรมาเนียน ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่มีฝีมือไม่ธรรมดา โดยเคยพาอาร์แบ ไลป์ซิก จบรองแชมป์บุนเดสลีก้า เมื่อฤดูกาล 2016/17 ก่อนจะแยกทางกันเนื่องจากหาข้อสรุปเจรจาต่อสัญญาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่ฮาเซนฮึทเทิล ต้องทำในถิ่นเซนต์ แมร์รี่ส์ คือ ต้องบูรณะโบสถ์นี้ที่ผุพังให้กลับมาน่าชมอีกครั้ง
จุดเด่นอีกหนึ่งสิ่งคือเขามักจะให้โอกาสดาวรุ่งเสมอ ซึ่งในทีมเซาธ์แฮมป์ตันตอนนี้ ก็มีแข้งวัยทีนฝีเท้าดีหลายคนไม่ว่าจะเป็น ไมเคิ่ล โอบาเฟมี่ เซ็นเตอร์วัย 18 ปี หรือคนอื่นๆ ที่รอคอยโอกาส
ไม่แน่ว่าเกมที่คาร์ดิฟฟ์ เราอาจได้เห็นดาวรุ่งของสโมสร วาดลวดลายบนผืนหญ้าที่ประเทศเวลส์ก็เป็นได้
5. สามประสานบอร์นมัธหวังสู้สามประสานลิเวอร์พูล
ย้อนไปเมื่อสองฤดูกาลที่แล้ว เอ็ดดี้ ฮาว สร้างผลงานสุดยอดด้วยการพลิกเอาชนะลิเวอร์พูล 4-3 ทั้งที่ถูกนำไปก่อนสองลูกช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม ซีซั่นที่แล้ว พวกเขากลับโดนหงส์แดงบุกมายำถึง 4-0 แพ้เละแบบราบคาบ
มาปีนี้บอร์นมัธ ก็ยังมีผู้เล่นที่อยู่ในชุดเมื่อสองปีที่แล้วถึง 13 คน นำโดยสามประสานแดนหน้า คัลลั่ม วิลสัน, ไรอัน เฟรเซอร์ และ โจชัว คิง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับสามประสานฝั่งลิเวอร์พูล
ทว่าต้องวัดใจเจอร์เก้น คล็อปป์ ด้วยว่าจะส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามหรือไม่ เพราะกลางสัปดาห์ มีแมตช์สำคัญกับนาโปลี รออยู่ และที่สำคัญต้องเช็คความฟิตของซาดิโอ มาเน่ กันอีกที
อีกสิ่งหนึ่งที่หงส์แดงต้องรับมือให้ดีๆคือ การประสานงานกันระหว่างวิลสัน และ เฟรเซอร์ เกิดเป็นประตูถึง 6 ลูก (คนหนึ่งแอสซิสต์คนหนึ่งยิง) มากที่สุดในลีกตอนนี้
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]