เครื่องร้อนช้าปัญหาที่อาร์เซน่อลต้องแก้

อาร์เซน่อล ของ อูไน เอเมรี่ ทำผลงานในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ได้ค่อนข้างสวยหรู ไม่แพ้ใครเลยใน 10 เกมหลังสุด แต่รู้หรือไม่ว่าพวกเขามีปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้นั่นคืออาการเครื่องร้อนช้า
12 เกมผ่านไป อาร์เซน่อล และ คาร์ดิฟฟ์ คือสองทีมในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่สามารถออกนำคู่แข่งในครึ่งเวลาแรกได้เลยสักครั้ง เกมที่แล้วต้องไล่ตีเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบหืดจับ และครึ่งแรกมีโอกาสยิงตรงกรอบครั้งเดียว ซึ่งปัญหาเหล่านี้นี้ไม่ใช้ครั้งแรก ย้อนไป 8 เกมหลังสุดพวกเขายิงได้แค่ 2 ลูก ใน 45 นาทีแรก
เอเมรี่ ยอมรับว่าปัญหานี้ 'ต้องหาทางออกให้ได้' หลายเกมที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ไม่ได้เล่นด้วยฟอร์มที่ดีเลยในครึ่งแรก แต่ที่ผ่านมาต้องให้เครดิต เอเมรี่ ที่ทำให้อาร์เซน่อลเอาตัวรอดมาได้เสมอ บทวิเคราะห์จากสกายสปอร์ต พูดถึงสิ่งที่ทำให้ อาร์เซน่อล เอาตัวรอดมาได้ตลอด 3 จุดด้วยกัน
จุุดที่ 1 เอเมรี่มีซูเปอร์ซับ
การแก้เกมที่เด็ดขาดฉับไว นี่คือความแตกต่างจากยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่มักจะเน้นที่แผนแรกเป็นหลัก และน้อยครั้งที่จะเปลี่ยนตัวก่อนนาทีที่ 70 ขณะที่ ยุคของ เอเมรี่ มีสถิติเปลี่ยนตัวตั้งแต่จบพักครึ่งบ่อยมากๆ โอซิล, โอบาเมยอง และ ชาก้า ต่างก็เคยโดนเปลี่ยนออกมาแล้ว เมื่อเล่นไม่ออก
การแก้เกมแต่ละครั้งนั้น มักสร้างสิ่งแตกต่างได้เสมอ ปืนใหญ่ได้ประตูจากตัวสำรองมากที่สุด 7 ครั้ง ขณะที่ โอบาเมยอง ลงมายิงในฐานะตัวสำรอง 4 ประตูแล้ว มากที่สุดในลีก (เกมเสมอ พาเลซ 2-2 และ เกมชนะ เลสเตอร์ 3-1)
จุดที่ 2 สปิริตนักสู้
"ผมต้องการให้ทีมมีสปิริตพร้อมสู้ นี่คือตัวตนที่จะช่วยทีมในซีซั่นนี้" เอเมรี่ ย้ำกับลูกทีมเสมอ หลายเกมแม้จะตามหลังคู่แข่งก่อน แต่พวกเขาเล่นแบบไม่มีท้อไม่มีถอย นี่เป็นปรัชญา และแนวคิดที่ปลูกฝังใส่เดเอ็นเอของนักเตะไปเรียบร้อยแล้ว
อาร์เซน่อล โกงความตายจากจะแพ้ กลับมาชนะ หรือ เสมอได้ตลอด โดยมีสถิติเก็บแต้มคืนมาจากสกอร์ที่เกือบแพ้ถึง 9 แต้ม มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ผลตรงนี้มันเชื่อมมาจากจุดแรก(ข้อบน) ส่วนฤดูกาลที่แล้ว 38 นัด พวกเขาเก็บแต้มคืนมาได้แค่ 15 แต้มเท่านั้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความต่าง
ข้อสุดท้าย สภาพความฟิต
เอเมรี่ เข้ามายกระดับความฟิตของทีมปืนใหญ่ให้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง พวกเขามีสถิติการวิ่งปกคลุมพื้นที่ 1,376 กิโลเมตร มากที่สุดในลีก และมีสถิติการวิ่งสปรินท์ (วิ่งด้วยความเร็ว) นับเป็นจำนวนครั้งอยู่อันดับต้นๆ ของลีกเช่นกัน ตรงนี้ทำให้พวกเขาได้เปรียบคู่ต่อสู้ในช่วงเวลาท้ายเกม
อย่างไรก็ดี แม้ทั้ง 3 ข้อคือสิ่งที่ต้องชื่นชม แต่ อาร์เซน่อล ห้ามนิ่งนอนใจกับอาการเครื่องร้อนช้า และชอบเป็นม้าตีนปลายเด็ดขาด เพราะหากพวกเขาเจอเกมที่ไม่สามารถคัมแบ็คกลับมาได้ ความพ่ายแพ้จะมาเยือนพวกเขาแน่
บางทีอาจจะต้องเริ่มปรับปรุงตั้งแต่เกมคืนนี้ ที่จะบุกไปเยือน บอร์นมัธ ในเวลา 20.30 น. เพราะหลังจากนี้ อาร์เซน่อล มีโปรโหดเกมบิ๊กแมตช์ที่จะเปิดบ้านพบ สเปอร์ส (2 ธันวาคม) และ บุกไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด (6 ธันวาคม) หากยังเครื่องร้อนช้าอาจเจอปัญหาใหญ่ได้
โคตรแอ็ค เรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูล และภาพสถิติต่างๆ จาก Skysports
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]