คล็อปป์ ทำดีที่สุดแล้ว

ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย แต่ก็ยังแมนพอที่จะเอ่ยปากประโยคแรกๆออกมาด้วยคำขอโทษถึงกองเชียร์ ลิเวอร์พูล ทุกชีวิต...

ค่ำคืนแย่ๆในการแพ้ให้เพื่อนบ้านสีน้ำเงินก็เจ็บปวดมากพอโดยก่อนหน้านี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีแต่ชนะกับเสมอเท่านั้นยามต้องเดินข้ามสวนฯมา กูดิสัน พาร์ค แน่นอนที่สำคัญมันได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความหวังในการเป็นแชมป์     

"พวกเราไม่เคยแพ้ที่นี่มาก่อน วันนี้พวกเราดีกันไม่พอจริงๆ ผมต้องขอโทษทุกคนด้วย" แววตาลอยๆคู่หนึ่งสะท้อนบางอย่างออกมาชัดเจน         

เมื่อคืนวันพุธผมก็อยู่ในเพรส คอนเฟอเรนซ์ หลัง ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ด้วย ก็ยิ่งเข้าใจได้เลยว่าทำไมคล็อปป์ถึงเลือกประกาศอำลาสโมสรที่เขาได้ร่วมสู้กันมาร่วมทศวรรษเพราะบางทีเขาเองก็คงไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้อีกแล้ว     

ภายในระยะไม่ถึง 6 สัปดาห์ เต็มจากได้ลุ้น4ถ้วยกำลังจะเหลือแค่ถ้วยใบเดียว ได้แก่ คาราบาว คัพ หากใครกันจะพูดได้เต็มปากว่านี่ถือว่าเป็นความล้มเหลว??

หลังจากจบอันดับ 5 ซีซั่นที่แล้วรวมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตอนซัมเมอร์ แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ภาพจำยุคที่มี โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรเบร์โต้ ฟิร์มิโน่ นำแนวรุกกลายเป็นอดีตไปแล้ว

     

ดังนั้นการที่ คล็อปป์ สามารถผลักส่งให้ทีมชุดนี้มาไกลถึงปลายเมษาฯได้ต้องถือว่าทำได้เกินคาดหมาย อย่างยิ่งเมื่อเจาะไปถึงรายละเอียดตลอดซีซั่นที่ทีมเต็มด้วยปัญหาบาดเจ็บ มีบางคนที่พอหายกลับมาก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มมาตรฐานที่เคย     

ทุกทีมล้วนมีจุดอ่อน     

ลิเวอร์พูลทีมนี้มักตกตามหลังคู่แข่งก่อนประจำ เกมกับ เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นครั้งที่ 15 เฉพาะในลีกซีซั่นนี้แล้ว ถูกต้อง เดอะ ค็อป บางคนอาจมองข้ามข้อนี้ไปด้วยเหตุที่ที่มรักตัวเองก็มักยิงแซงได้อยู่บ่อยเช่นกัน ถึงกระนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้ทุกเกม

สิบเอ็ดตัวจริงเมื่อคืนวันพุธก็ถือว่าดีที่สุดเท่าที่ คล็อปป์ จะเลือกใช้ได้ ก็เป็นอีกเกมที่พวกเขามีโอกาสแต่ปิดบัญชีไม่ได้โดยเฉพาะจาก ซาล่าห์ กับ ดาร์วิน นูนเยซ

ขุดสถิติออกมาก็ยืนยันว่านับแต่เปลี่ยนศักราช 2024 ค่าประสิทธิภาพการยิงประตูของ ซาล่าห์ ก็ดร็อปลงไปจากที่เคยทำได้ 58.82 ก็หดเหลือแค่ 41.67% 

ขณะที่นูนเยซนั้นก็ยังเป็นกองหน้าคนเดิมที่หาความชัวร์ไม่ได้นับแต่ย้ายมาจากเบนฟิก้า

นักเตะฟอร์มตกก็เรื่องปกติในเกมฟุตบอล

     

หน้าที่ของโค้ชอยู่ที่ต้องทำทุกทางเพื่อปลุกจิตวิญญาณนักสู้กลับมา 

สิ่งนี้เองที่ คล็อปป์ ทำมาตลอดหลายปีมานี้     

อย่างเดียวที่หลายปีมานี้ คล็อปป์ ได้นำทีมท้าชิงกับ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มันไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้วที่จะไปแย่งเข็มขัดจากสโมสรที่มีพร้อมทุกอย่าง อย่างน้อยที่สุดก็ทำสำเร็จหนึ่งครั้งและอย่างน่าชื่นชมที่สุดก็เคยเบียดไหล่ต่อไหล่ได้ถึงวันสุดท้าย

ถึงสุดท้ายขบวนพาเหรดแห่ถ้วยจะไม่ได้ออกแต่มั่นใจได้เลยว่ายังไงซะสาวกหงส์ทุกคนก็ย่อมต้องการเลี้ยงส่งบอสของพวกเขาให้ประทับใจที่สุด

นกสีแดงตัวหนึ่งสยายปีกองอาจ

มันย่อมมีความสุขแล้วกับชีวิตที่ได้อยู่บนฟ้า...

"ไก่ป่า"....


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport