หมากเกมนี้ คล็อปป์ เหมือนรู้ ว่าจะต้องลงเอยอย่างไร

แล้วมันก็เป็นอย่างที่หลายคนคิดเอาไว้ว่าเกมกับ อาร์เซน่อล เอฟเอ คัพ รอบ 3 ถ้าไม่ชนะก็แพ้ไปเลยเสียดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องมีเกมเพิ่มในช่วงพักเบรก พรีเมียร์ลีก

ชัยชนะที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำให้มีเกมเพิ่มก็จริง แต่เป็นเกมที่วางไว้ตามโปรแกรมประจำฤดูกาล

ฉะนั้น พวกเรายินดีที่ได้เห็น ลิเวอร์พูล ยังอยู่บนเส้นทางสู่ เวมบลี่ย์...

ความจริง เกมนี้ก็ควรจะเหมือนเกมอื่นทั่ว ๆ ไปที่แข่งจบ รู้ผล วิเคราะห์ แล้วเดินหน้าต่อ

ทว่ารายละเอียดตลอด 90 นาทีที่กรุงลอนดอน ตกผลึกให้เราฉุกคิดอะไรต่อมิอะไรได้หลาย ๆ อย่าง มากกว่าเกมอื่น ๆ 

การเจอคู่แข่งแบบนี้ ไร้ข้อสงสัยชัดเจนว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ คือตัวเลือกแรกก่อน ควีวิน เคลเลเฮอร์ 

คำถามคือการไร้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะส่งผลแค่ไหนเมื่อคู่เซนเตอร์เป็น จาเรลล์ ควอนซาห์ - อิบราฮิม่า โกนาเต้

ที่ผ่านมา พาร์ทเนอร์คู่นี้ได้ลงเล่นร่วมกันมาบ้างแล้วบนเวที ยูโรปา ลีก 

มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพียงแต่ผลงานออกมาดีเกินกว่าที่คาดไว้

นี่คือคู่กองหลังตัวกลาง ลิเวอร์พูล ในอนาคต เมื่อถึงวันที่ ฟาน ไดค์ โรยรา

ตำแหน่งหมายเลข 6 เกมนี้สลับเปลี่ยนหมุนกันถึง 3 คน

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ออกสตาร์ท ก่อนเปลี่ยนเป็น เคอร์ติส โจนส์ แล้วสุดท้าย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รับจบ

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ไม่เฉิดฉายกับการยืนตัวรุกด้านขวา แต่เขาเปล่งประกายขึ้นมาเมื่อถอยยืนมิดฟิลด์ การผ่านบอลบวกความขยันเป็นประโยชน์ต่อทีม

ตลอด 45 นาทีแรก อาร์เซน่อล เหนือกว่าเกือบทุกอย่างขาดแต่เรื่องสกอร์ไม่ยังไม่ได้เปรียบ 

พวกเขาสร้างโอกาส 13 ครั้งเข้ากรอบ 5 ผิดกับ ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ 2 เข้ากรอบ 0

ดาร์วิน นูนเญซ กระดิกไม่ออกกับการยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า 

แล้วตอนพักครึ่ง คล็อปป์ โชว์กึ๋นแก้เกมสลับตำแหน่งการยืนของลูกทีมจนเกิดผล

คล็อปป์ จับ นูนเญซ ไปยืนทางซ้ายเพื่อใช้ความเร็วเล่นงาน เบน ไวท์

หุบ โคดี้ กัคโป ยืนตัวเป้า แล้ว หลุยส์ ดิอาซ ข้ามฟากประจำการฝั่งขวา

"เรามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในช่วงพักครึ่ง และเราลงมาเพื่อพยายามเล่นบอลสไตล์ของเรา, สร้างโอกาสให้มากที่สุด"

"พยายามใช้ความเร็วของ ดาร์วิน (นูนเญซ) กับ ลูโช่ (หลุยส์ ดิอาซ)"

"สำหรับ ดาร์วิน ถูกจับไปเล่นทางกว้าง และใช้ความเร็วของเขาเล่นงานฟูลแบ็กพวกเขา"

คำพูดของ เทรนต์ ที่ว่าด้วยเรื่องปรับแทกติกช่วง 45 นาทีหลัง

ครับ เกมรุก ลิเวอร์พูล ดีขึ้นชัดเจน ก่อนที่ คล็อปป์ เรียก ดีโอโก โชต้า กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ลงแทน กัคโป กับ แม็คก้า

ระหว่างนั้น โจนส์ จึงได้ยืนเป็นหมายเลข 6 ต่อจากแข้งอาร์เจนไตน์

ลิเวอร์พูล เหมือนคนละทีมกับตอนครึ่งแรก ส่วน อาร์เซน่อล ก็เช่นกันที่เกมรุกดูดรอปลงเห็นได้ชัด

มิเกล อาร์เตต้า ส่ง กาเบรียล มาร์ติเนลล์ เพื่อสร้างความปั่นป่วน และทำท่าจะได้ผลยามดวลกับ เทรนต์

เมื่อเห็นแบบนั้น คล็อปป์ จึงงัดไม้เด็ดเข้าสู้ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, บ็อบบี้ คล้าร์ก สองดาวรุ่งได้รับโอกาสสลับ เอลเลียตต์, โจนส์

แล้วให้ เทรนต์ ไปยืนเป็นมิดฟิลด์ และเป็นหมายเลข 6 คนที่สามในเกมนี้ต่อจาก แม็ค อัลลิสเตอร์, โจนส์

เป็นอีกครั้งที่บอลออกจากเท้าของรองกัปตันสร้างโอกาสให้ทีมได้ประตู ก่อนที่ปิดท้ายด้วย ดิอาซ ตอนทดเจ็บ

ดาวเตะโคลอมเบีย ดูเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้กับการยืนแทนตอนช่วงไร้ โม ซาลาห์

โชต้า เหมาะสมกับการยืนหมายเลข 9 เขาเอาตัวรอดเก่ง สอดทำประตูเยี่ยม เพียงแต่ระดับความฟิตตอนนี้ยังไม่ถึงเกณฑ์

45 นาทีหลัง ลิเวอร์พูล กลับเป็นฝั่งสร้างโอกาสยิง 10 ครั้งตรงกรอบ 3 ส่วน อาร์เซน่อล ลดลงเหลือ 5 ตรงกรอบ 0

ความน่าเจ็บปวดสำหรับ มิเกล อาร์เตต้า คือการปล่อยให้ ลิเวอร์พูล รอดตายจากสถานการณ์คับขัน จนเปิดโอกาสให้ คล็อปป์ งัดอาวุธแทงกลับด้วยการสร้างการเล่นที่สมบูรณ์แบบในช่วงครึ่งหลัง

อย่างแรก คล็อปป์ มองออกว่าการถอด โคดี้ กัคโป ออกจากพื้นที่แดนกลางคือสิ่งจำเป็นเพื่อทำให้เกมกลับมาเข้าทาง ลิเวอร์พูล มากขึ้น

แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่มั่นใจว่าทีมของเขาจะเล่นได้ดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อเกมดำเนินไปเรื่อย ๆ 

เขาทำอย่างนั้นผ่านการเปลี่ยนตัวทีละ 2 คน 2 รอบ 

รอบแรกส่ง ดีโอโก้ โชต้า กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ตอนนาที 59 และรอบสองเรียก บ็อบบี้ คล้าร์ก กับ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ลงสนามนาที 75

การส่งทั้ง คล้าร์ก และ แบรดลี่ย์ พร้อมกันนับเป็นการตัดสินใจที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ

มันแสดงให้เห็นว่า คล็อปป์ เชื่อใจและเชื่อมั่นในตัวเด็กสองคนนี้

การปรับเปลี่ยนต่าง ๆ ทำให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขยับขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์

ซึ่งนั่นเป็นหมากสำคัญมาก ๆ ต่อผลการแข่งขันที่ออกมา

การเปลี่ยนตัวแต่ละครั้งทำให้รูปเกมของ ลิเวอร์พูล ดีขึ้น จนแทบมั่นใจได้ว่าถ้าจะมีทีมตกรอบในนัดนี้มันไม่ใช่พวกเขาแน่

เกมนี้มันวัดกันตรงที่การแก้หมากระหว่างเกมจริง ๆ 

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport