คนที่ช้ำที่สุด!จัดทีม-แก้เกมชำแหละชัด5ข้อเกมลิเวอร์พูลมีเฮง

ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของแชมป์อีกแล้ว และนี่คือสิ่งที่ผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงอย่างผมเห็นจากศึกลำน้ำเมอร์ซี่ย์ หลังหายจากอาการรูตูดตะลึงเมื่อตอนตีหนึ่งกว่าๆ ของคืนวันอาทิตย์ !!!
1. คล็อปป์ จัดทีมแบบเน้นเกมรุกเต็มที่ ด้วยหวังขย่มทีมเพื่อนบ้านแบบเอาตาย หลังจากถูก แมนฯ ซิตี้ ทิ้งไป 5 แต้ม โดยวางระบบ 4-2-3-1 ส่ง ชากีรี่ ลงตัวจริงไปเสริม 3 ประสานหน่วยล่าสังหาร มาเน่ - บ๊อบบี้ - โมโม่ แล้วใส่ ฟาบินโญ่ กับ ไวนัลดุม เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน จัดทีมที่ดีที่สุดมาประชันเช่นกัน
2. เกมเป็นของทีมเจ้าถิ่นตามเชิง แต่ทีมลูกอมก็ต้านทานได้อย่างยอดเยี่ยม แถมตอบโต้ได้แบบเจ็บๆ เป็นระยะ สิ่งที่ต้องยอมรับคือ ลิเวอร์พูล บุกมากกว่าก็จริง แต่เกมออกจะเนือยๆ ไม่เพรสซิ่ง ไม่กดดันคู่แข่ง และเกมรุกไม่ดุดันสักเท่าไหร่
เกมรุกเล่นกันแค่ 4 ตัวบน ฟูลแบ็คขึ้นเติมได้ไม่สุด ขณะที่ตรงกลางก็ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนมากนัก
3. โดยรวมถือเป็นอีกเกมที่หงส์แดงเล่นไม่ค่อยดีนัก หาจังหวะเข้าไปฆ่าคู่แข่งไม่ค่อยถนัดจนแทบจะไม่มีจังหวะยิงแบบจะแจ้ง แต่จุดแข็งของพวกเขาคือเกมรับที่เสียประตูยากมาก แถมหนังโคตรเหนียวเคี้ยวยาก ขนาด เอฟเวอร์ตัน ได้โขกจ่อๆ ยังไปตรงตัว อลิสซง เลยคุณ จุดนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเกมแบบมีความหวังกระทั่งนาทีสุดท้าย
4. เมื่อถล่มตาข่ายไม่ได้ คล็อปป์ ทยอยเปลี่ยนตัว เพื่อสร้างความแตกต่าง ว่าแล้วมิดฟิลด์ไดนาโมก็ถูกส่งลงมาเป็นคนแรกแทนที่ตัวจี๊ดอย่าง "บิ๊กป้อม" เพื่อช่วยแดนกลางขับเคลื่อน
ต่อมาก็ถอด ซาล่าห์ ออก เพื่อส่ง สเตอร์ริดจ์ ลงมาเป็นกองหน้าตัวเป้า ซึ่งผมมองว่าแม้จะเล่นไม่ออก แต่ดาวเตะอียิปต์ผู้นี้ยังมีทีเด็ดจึงไม่ควรเปลี่ยนออก ก่อนจะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง กองหน้าขนานแท้ อย่าง โอริกี้ ลงมาอีกคน เป้าหมายคือต้องการประตู
ตอนแรกเหมือนจะเปล่าประโยชน์นะฮะ แต่หากสังเกตุให้ดีจะพบว่า โอริกี้ ไปอยู่ในตำแหน่งของกองหน้าจริงๆ ไม่ได้โยกไปโยกมาหรือสลับตำแหน่งไปเรื่อยเหมือนพวก ฟีร์มิโน่ และ ซาล่าห์ ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นการแก้เกมที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
5. แล้วก็มาถึงตอนจบที่หักมุมรุนแรงแบบดราม่า และทำร้ายจิตใจเด็กผี เอ๊ย! กองเชียร์ทอฟฟี่ยิ่งนัก
ช่วงทดเจ็บของการทดเจ็บ ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกแถวกลางสนามจึงต้องบอมบ์ใส่แบบไม่มีอะไรจะเสีย
การเปิดเข้าไปถูกผู้เล่นเอฟเวอร์ตันเคลียร์ออกมาเข้าทาง ฟาน ไดค์ ที่ความจริงควรจะเอาบอลลงก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อ ทว่าปราการหลังค่าตัว 75 ล้านปอนด์ดันตัดสินใจวอลเล่ย์แบบแป้กๆ บอลลอยโด่งแบบไม่มีน้ำหนักไปหานายทวารทีมเยือนอย่าง พิคฟอร์ด
เห็นแบบนี้แล้วก็สบายใจนะครับ เกมจบด้วยสกอร์ 0-0 แน่ๆ และลิ้วพูนจะถูกทิ้งเป็น 4 แต้ม เช้านี้เน็ตคงลื่นน่าดู หุหุหุ
ทันใดเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงตรงกลางกบาล แทนที่นายทวารมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษจะปัดข้ามคานแล้วยอมเสียลูกเตะมุม พี่แกกลับมองข้ามชอตว่าจะคว้าลูกลงมาเหน็บที่หน้าอกแล้วดึงเวลาแบบเท่ๆ
แต่บอลมันดันกระฉอกออกจากมือไปตกลงบนคาน ก่อนกระเด้งลงมาเข้าหัวของ โอริกี้ ซะอย่างนั้น
โธ่...อุตส่าห์ทำดีมาตลอดทั้งเกม สุดท้ายกลับตายง่ายๆ แบบนี้...เจ็ตเข้ !!!
ตัดสินใจพลาดครั้งเดียว ห่าแดกดากทันที เข้าใจว่า พิคฟอร์ด คงนอนไม่หลับ หรือต่อให้หลับแม่งก็คงฝันร้าย แต่คนที่ช้ำไม่แพ้กันก็คือเด็กผีแบบกูนี่แหละ
บอ.บู๋