นักเปียโนเอก - อเล็กซิส

ผมยังจำอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองตอนนั้นได้อย่างแม่นยำ ตอนที่สโมสรปีศาจแดงทำการเปิดตัว อเล็กซิส ซานเชซ ในฐานะดาวเตะใหม่ด้วยคลิปวิดีโอที่ดาวเตะผู้นี้นั่งพรมนิ้วมือ ลงบนเปียโนพลางดีดเพลง "กลอรี่ กลอรี่ แมน ยูไนเต็ด" อืมมมมมม...มันช่างเป็นภาพที่สวยงามและซาบซึ้ง แถมตลบอบอวล ด้วยมวลแห่งความหวังอันเริดรมย์ เสพสมสุขยิ่งนัก
ว่าแล้วก็ฝันไปไกลถึงขนาดจินตนาการว่าดาวเตะผู้นี้จะช่วยยกระดับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลต่อไปเลยทีเดียว
ภาพตัดกลับมาอีกครั้ง
"อเล็กซิส" วางตูดอยู่บนม้านั่งสำรองพลางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในขณะที่เพื่อนร่วมทีมกำลังถูกเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญกระทำชำเราอย่างเมามัน
ตอนนี้พี่แกสูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมปีศาจแดงไปเป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่ตอนย้ายมาใหม่ๆ รับประกันตำแหน่งตัวจริงแน่นอน แถมเป็นเรื่องยากที่จะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงเหมือนเดิม ในเมื่อฟอร์มการเล่นของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กำลังเปล่งปลั่งพลางกระหน่ำตาข่ายได้อย่างต่อเนื่อง
ฟอร์มการเล่นของดาวเตะวัย 29 ผู้นี้ตกลงไปอย่างน่าเกลียดจริงๆ นะครับ-ขอบอก
มันแตกต่างจากตอนสวมเครื่องแบบของทีมปืนโตอย่างสิ้นเชิงเหมือนลืมเอาความมหาประลัยของตัวเองมาจากถิ่นเก่า
จุดเด่นของ อเล็กซิส ซานเชซ คือความสามารถเฉพาะตัวที่สูงส่งตามแบบฉบับของดาวเตะอเมริกาใต้
แล้วเดี๋ยวนี้เคยเห็นคุณพี่เขาเลี้ยงหลบใครบ้าง?
ลีลาการกระชากลากเลื้อยด้วยความจัดจ้านก็หายไปเลย
การจ่ายบอล การผ่านบอล หรือการส่งบอลก็ขาดๆ เกินๆ เดี๋ยวเบาเกินไปบ้าง เดี๋ยวแรงเกินไปบ้าง บางครั้งก็ให้บอลเสียดื้อๆ แบบไม่มีเหตุผลและไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
จับบอลก็กระโดกกระเดกประหนึ่งผู้เล่นที่ไม่มีทักษะซะอย่างนั้น
จุดเด่นอีกอย่างของดาวเตะทีมชาติชิลีผู้นี้คือการทำลายตาข่าย
นับตั้งแต่ขายวิญญาณให้ปีศาจแดง อเล็กซิส ซานเชซ เพิ่งทำได้แค่ 4 ประตูเท่านั้นเองครับ 4 ประตูจากการลงสนาม 29 นัดในทุกรายการ
ว่าแล้วก็สถาปนาตัวเองเป็นนักเตะดาดๆ ที่รับค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 5 แสนปอนด์ (หักภาษีแล้วเหลือ 3.5 แสนปอนด์) มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
เท่านั้นไม่พอ
ระบบการเล่นแบบรถบัสของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นของดาวเตะผู้นี้สักเท่าไหร่
แหม...ก็ต่างคนต่างเล่นซะขนาดนั้น จ่ายบอลแล้วไม่ขยับหาช่องว่าง เพื่อรักษาตำแหน่งและคุมพื้นที่ แบบนี้อเล็กซิสยิ่งยากกว่าเดิม เพราะไม่มีคนมาคอยทำชิ่ง แถมฟอร์มการเล่นของตัวเองก็ตกอย่างจงหนัก
ฤดูกาลนี้เพิ่งลงเล่นเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้น ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองอีก 4 นัด โดยทำได้แค่ประตูเดียวกับอีก 2 แอสซิสต์
นี่คือ "ตัวอย่าง" ของการตระหนกคว้าผู้เล่นใหม่ในช่วงตลาดหน้าหนาวที่มีเวลาไตร่ตรองเพียงน้อยนิด
เมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ต่อสัญญาใหม่กับ อาร์เซน่อล ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นประเภท "ฟรีเอเยนต์" ในทันทีที่จบฤดูกาล แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยอมเสียค่าตัวให้ทีมปืนโต เพราะดีลนี้ตัวเองเป็นต่อมากมาย จึงขอเอานักเตะที่หมดประโยชน์สำหรับตัวเองอย่าง เฮนริค มคิทาร์ยาน ไปขอแลกแทน
อาร์เซน่อลคำนวณดูแล้วพบว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าเสียตัวไปแบบฟรีๆ พลางอมยิ้มแบบมีเลศนัย
ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นที่แล้ว
นั่นคือฤดูกาลที่ 4 ของ "ชายเล็ก" ในเครื่องแบบของไอ้ปืนใหญ่
หากสังเกตให้ดี คุณจะพบว่าฟอร์มการเล่นของดาวเตะผู้นี้เริ่มตกจากเดิมแล้วนะครับ เพียงแต่ยังเป็นหัวใจสำคัญระดับคนแบกทีม ชาวบ้านส่วนใหญ่เลยมองข้ามจุดนี้ โดยเขาลงเล่นให้อาร์เซน่อล 22 นัดในทุกรายการ ทำได้ 8 ประตู ค่าเฉลี่ยในการทำลายตาข่ายถือว่าไม่เลวสำหรับผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าทางด้านซ้าย
ด้วยผลงานที่ห่วยแตกของอาร์เซน่อล จากการทำงานของ อาร์แซน เวนเกอร์ ท่านผู้ชมทางบ้านเริ่มสังเกตเห็นอาการเหมือนคนถูกกางเกงในเข้าตูดของอเล็กซิส ขณะเดียวกับที่เรื่องการต่อสัญญาใหม่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
ถ้าเป็นรถมือ 2 หรือมือ 3 ก็สภาพไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่ เพียงแต่ภายนอกยังดูสวยงามเท่านั้นเอง
บางที โชเซ่ มูรินโญ่ อาจไม่ได้อยากได้ดาวเตะผู้นี้ด้วยซ้ำ แต่เพื่อป้องกันมิให้ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นโคตรทีมที่ไร้เทียมทานมากกว่าเดิม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงยอมวอดวายด้วยค่าเหนื่อยที่มิอาจปฏิเสธ
การกระชากตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาร่วมทีมได้สำเร็จ ทั้งที่มีข่าวกับทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์มาตลอดเหมือนการประกาศชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด
อย่างน้อยดาวเตะระดับอ๋องอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ก็เลือกที่จะขายวิญญาณให้ปีศาจแดงแทนที่จะไปพุ่งชนความสำเร็จกับ แมนฯ ซิตี้
สุดท้ายกลับกลายเป็นชัยชนะที่ไม่มีคุณค่าห่าเหวอะไรเลย!
ถึงตอนนี้ "ชายเล็ก" ยังอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ครบปีเลยนะครับคุณ แต่เพียงพอจะพบบทสรุปเบื้องต้นว่าเป็นการคว้าตัวที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง คำถามคือแล้ว โชเซ่ มูรินโญ่ และแมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะทำอย่างไรกับดาวเตะผู้นี้ที่อายุกำลังจะครบ 30 อยู่รอมร่อ (เดือนหน้า)
1. ให้โอกาสเขาต่อไปอย่างอดทน
2. หาทางเขี่ยเขาออกจากทีมซะ
ข้อแรกคือความเชื่อมั่นในตัวดาวเตะผู้นี้ว่าอาจกลับคืนฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมอีกครั้ง
เอาแค่คืนฟอร์ม หรือกลับมาใกล้เคียงกับฟอร์มเดิมก็พอ เพราะฝีเท้าของอเล็กซิสคงไม่พัฒนาไปกว่าเดิมแล้วนะครับ
ที่แน่ๆ คือเลยจุดน้ำกระฉูดแตกของตัวเองไปแล้วด้วย
คงเป็นไปได้ยากที่อเล็กซิสบนวัย 30 หรือ 31 หรือ 32 จะกลับชาติมาเกิดใหม่เป็นดาวเตะที่ฝีเท้าจัดจ้านปานเคี้ยวพริกขี้หนู 300 เม็ดก่อนลงสนาม
ฉะนั้น & ฉะนี้
ทางออกในข้อที่ 2 จึงมีความเป็นไปได้มากกว่า
นั่นคือต้องหาทางเขี่ยทิ้ง ด้วยการขายให้ทีมอื่นที่ยังมองเห็นคุณค่าของดาวเตะหมายเลข 7 ของปีศาจแดงผู้นี้ ซึ่งบางทีนั่นอาจเป็นความต้องการของเจ้าตัวอยู่แล้วด้วย
ลำพังค่าตัวอาจเหลือไม่มากสักเท่าไหร่ ปัญหาคือค่าเหนื่อยที่สุดแสนจะมหาศาล ซึ่งคงมีไม่กี่ทีมที่พร้อมรับตัวไปอนุเคราะห์
ทันใดก็มีข่าวพัวพันกับ 2 ทีมระดับพญายักษ์แห่งยุโรปอย่าง เปแอสเช และ เรอัล มาดริด
เงื่อนไขสำคัญคือถ้าได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิมมากเกินไปจนรับไม่ได้ พี่แกคงยักไหล่ใส่ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพยายามโก่งค่าตัวให้ได้มากที่สุด เพียงแต่หากมันมากเกินไปก็อาจไม่มีใครเอา
...ว่าแล้วภาพแห่งความฝันที่อเล็กซิสสวมเสื้อหมายเลข 7 ของปีศาจแดงกำลังบรรจงพรมนิ้วมือลงบนเปียโนอย่างพลิ้วไหวก็ผุดขึ้นมาในมโนสำนึกอีกครั้ง
ก่อนที่ผมจะหัวเราะเยาะตัวเองออกมาเป็นภาษาโดธรากีพลางสบถอย่างสิ้นหวัง
เหยดเปี๊ยดดดดด!!!
บอ.บู๋