เลิกฝันถึง โมดริช

คนแรกก็ ซีเนดีน ซีดาน ต่อมาก็ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนนี้จะเป็น ''ลูก้า โมดริช ยังงั้นหรือ ?''
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดข่าวลือหนาหูถึงอนาคตของมิดฟิลด์โครแอต สื่อต่างๆ ที่อิตาลีตีข่าวครึกโครมว่า ''โมดริชอยากย้ายออกจากเรอัล มาดริดเพื่อมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน''
มีการยืนยันชัดเจนว่า วานย่า บอสนิช ภรรยาซึ่งพ่วงตำแหน่งเอเยนต์ส่วนตัวของกองกลางวัยย่าง 33 ปรากฏตัวที่เมืองมิลานเพื่อเจราจา
ตัวเลขที่ปรากฏในข่าวระบุว่า ''งูใหญ่'' เตรียมยื่นข้อเสนอยืมตัว 25 ล้านยูโร พร้อมออปชั่นซื้อขาดราคา 35 ล้านยูโรในฤดูกาลถัดไป
กับออปชั่นซื้อขาดนี้ เข้าใจตรงกันว่าเป็นแบบบังคับซื้อ ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะยังไงก็จะต้องจ่าย 35 ล้านยูโรแน่นอนไม่ว่าจะกรณีใดๆ
สาเหตุที่ต้องแยกเป็นค่ายืม-บังคับซื้อ ตรงนี้เป็น trick ของอินเตอร์ มิลาน ที่ต้องการหลบหลีกจากเรดาร์ของกฎไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์
เบ็ดเสร็จแล้ว ''เนรัซซูรี่'' พร้อมจ่ายทั้งหมด 60 ล้านยูโร
กระแสตอนนี้ ถ้าอ่านจากสื่ออิตาลีคุณก็จะเห็นแต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
แต่ถ้าเช็กจากสื่อสเปน ซึ่งอันนี้ก็ต้องเลือกเน้นไปที่มาร์ก้า ก็จะเห็นว่า ''เป็นไปไม่ได้''
และที่ชัดเจนกว่านั้นคือการออกมาพูดจากปากของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ว่า จะปล่อยโคตรมิดฟิลด์ผู้นี้ออกไปก็ต่อเมื่อได้ราคา 750 ล้านยูโร
ดังนั้นจึงตั้งเป็นสมการได้ว่า 750 ล้าน = ฝันไปเถอะ
ฝั่งอิตาเลียนหยิบยกเคสของโรนัลโด้ขึ้นมาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์เคสนี้ เพราะเชื่อว่าขนาด
โครตซุป''ตาร์อย่าง CR7 ยังย้ายได้ แล้วทำไมจะเกิดขึ้นกับโมดริชไม่ได้
ในข่าวระบุว่า เปเรซมีสัญญาใจกับโมดริชลักษณะเดียวกับดาวยิงโปรตุกีส ว่าหากมีข้อเสนอที่น่าสนใจเข้ามาและราคาสมเหตุผลทางมาดริดจะต้องยอมปล่อย
แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มีการยืนยันว่า ''ในเคสโมดริชมันมีจริงหรือเปล่า''
เทียบเคียงกับดีลของโรนัลโด้ตอนมีข่าวออกมา เปเรซไม่เคย take action ชัดเจนแม้ซักครั้งว่าจะไม่ปล่อย แต่กับครั้งนี้มันแตกต่างอย่างชัดเจน
อีกทั้งในส่วนของราคา อินเตอร์ยื่นให้ 60 ล้าน เทียบกับ 105 ล้านจากยูเวนตุส (บางแหล่งข่าวบอก 112 ล้าน) แล้วก็ต่างกันมาก
ดังนั้น ถ้ามาดริดจะขายโมดริชในราคา 60 ล้าน สู้เก็บไว้ใช้งานเองไม่ดีกว่าหรือ ? เพราะเงินก้อนนี้มันไม่ได้มากพอจะหาซื้อมิดฟิลด์ระดับเวิลด์คลาสอย่างโมดริชได้
กับประเด็นที่ว่าหากนักเตะอยากย้ายเองล่ะ ?
อีกหนึ่งเหตุผลที่ให้น้ำหนักกันก็คือที่อินเตอร์ มิลานนั้น โมดริชมีพรรคพวกโครแอตอยู่ที่นั่นหลายต่อหลายคน แถมภรรยาเอเยนต์ก็ยังเดินทางไปคุยเอง น่าจะทำให้ยอมโมดริชเดินเข้าไปคุยกับเปเรซตรงๆ ว่า ''อยากไป''
ทว่าสิ่งนึงที่ต้องไม่ลืมคือ โมดริชยังเหลือสัญญากับทีมจนถึงปี 2020 นี่แหละที่เป็นหลักประกัน ซึ่งสัญญาฉบับที่มิดฟิลด์วัย 32 เซ็นไว้เมื่อปี 2016 นี้ คือข้อต่อรองที่ได้เปรียบที่สุด
ดีลนี้จึงสามารถพูดได้ว่า เรอัล มาดริดเป็นฝ่ายคุมเกม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเปเรซจะตัดสินใจอย่างไร
กรณีของโรนัลโด้นั้น ท่านประธาน ''ชุดขาว'' เบื่อหน่ายกับคำขู่ย้าย และการเรียกร้องค่าเหนื่อยที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกปี
แต่กับโมดริชเขาไม่เคยทำตัวมีปัญหาเช่นนั้น ไม่เคยก่อเรื่องวุ่นวาย ไม่มีประวัติด่างพร้อย ประกอบกับฟอร์มการเล่นก็อยู่ในระดับสุดยอดมาตลอดหลายปี
ใครก็รู้ว่ากัปตันโครแอตมีความสำคัญกับเรอัล มาดริดแค่ไหน
หากเปรียบ โทนี่ โครส เป็นสมอง โมดริชก็คือหัวใจ ดังนั้น ต่อให้มีการร้องขอย้ายทีมจริง คำตอบที่จะหลุดจากปากเปเรซก็คือ ''no'' สถานเดียว
แม้จะเป็นฝ่ายคุมเกม กระนั้นก็เชื่อกันว่า เปเรซจะมีแนวทางในการหว่านล้อมด้วยความละมุนละม่อมมากกว่าไม้แข็ง
ตัวเลขค่าเหนื่อยของอินเตอร์ มิลานที่ยื่นให้ปีละ 11.5 ล้านยูโร พร้อมสัญญายาว 4 ปี ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อยสำหรับมาดริดที่จะให้เท่ากัน หรือมากกว่า
ปัจจุบันโมดริชรับอยู่ปีละ 10 ล้านยูโร ซึ่งเป็นอัตราค่าจ้างที่สูงเป็นลำดับ 3 ต่อจาก แกเร็ธ เบล และ เซร์คิโอ รามอส
ด้วยฝีเท้า ด้วยความสำคัญ และด้วยลำดับอาวุโส ถ้ามาดริดจะอัพค่าเหนื่อยให้โมดริชเป็น 15 ล้าน พร้อมต่อสัญญาเพิ่มอีก 2 ปี (สัญญาเดิมเหลืออีก 2 ปี) ย่อมสามารถทำได้ไม่ยาก
ในแง่ของงบประมาณ เมื่อปล่อยโรนัลโด้ออกไปแล้ว ''โลส บลังโกส'' เหลือ gap มากมายเหลือเกิน ที่จะนำส่วนต่างนี้ไปขึ้นให้โมดริชได้สบายๆ ซึ่งด้วยคุณสมบัติ 3 ข้อหลักที่มีอยู่ในตัวของโมดริชอย่างที่เขียนถึงไป ย่อมไม่นำปัญหากินแหนงแคลงใจมาสู่เหล่านักเตะในทีมแน่
ลองจินตนาการดูซิ ! คุณคิดว่าจะมีนักเตะมาดริดคนไหนตั้งคำถามว่า ''ทำไม โมดริชจึงได้เงินมากกว่าพวกเขา ?'' หรือเปล่า
ส่วนเรื่องสัญญายิ่งไม่มีปัญหา ถึงแม้ว่าโมดริชจะอายุมากถึง 32 ปีแล้วก็ตาม แต่ประโยชน์ที่จะได้จากเขาในชั่วระยะ 1-2 ฤดูกาลนับจากนี้ก็ยังนับว่าคุ้มอยู่
ในแง่การตลาด ถึงแม้เขาจะไม่ได้ฟีเวอร์เหมือนโรนัลโด้ แต่ยามนี้เสื้อหมายเลข 10 ของเขาขึ้นแท่นขายดีเป็นอันดับ 1 ของสโมสรไปแล้ว
อีกทั้งปีนี้คือปีที่โมดริชใกล้เคียงที่จะลุ้นรางวัลบัลลง ดอร์มากกว่าครั้งไหนๆ ซึ่งคุณก็รู้สไตล์อันโออ่าของเปเรซดีอยู่แล้วมิใช่หรือ ?
ถ้ายอมปล่อยหรือไม่มีปัญญารั้งโมดริชไว้ได้ คงมีข้อสรุปเดียวเท่านั้นที่พอจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้
''คนๆ นั้นต้องเป็น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ตัวปลอมแน่นอนครับ''
เจมส์ ลา ลีกา