วิพากษ์พรีเมียร์ลีก

เริ่มกันที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ แม้ขาด เลอรอย ซาเน ตัวทำข้างหน้า แต่พวกเขากลับสามารถโจมตีแนวรับรถบัสของเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนได้ดีมากๆ นัดนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาลูกทีมบุกเยือนเบิร์นลีย์
ปีนี้สองนัดในบ้านและเอฟเอ คัพ แมนฯซิตี้ถล่มเบิร์นลีย์ 3-0,4-1 ยิงไป 7 แต่เกมนี้พวกเขาขาดตัวทำอย่าง ซาเน ขณะที่ ดาบิด ซิลบา ต้องลุ้นความฟิต ส่วนแนวรับนี่ต้องลุ้นเลยครับเพราะ เบนจามิน เมนดี, ฟาเบียน เดลป์ เจ็บ
ข้างหน้าขาด กาเบรียล เชซุส ยังพอมี กุน อเกรโร ลงเล่นได้ แต่ข้างหลังต้องดูครับว่า ดานิโล ทดแทน เดลป์ ดีขนาดไหน
ส่วน เบิร์นลีย์เจ้าบ้านหนักเลย สตีเฟน เดอฟูร์ ตัวทีมชาติเบลเยี่ยม พักทั้งฤดูกาลเพราะเจ็บเข่า ขณะที่เซนเตอร์แบก เจมส์ ทราคอฟสกี้ เจ็บโคนขาหนีบ คงต้องใช้ เควิน ลอง เล่นแทน
สถิติคู่นี้ 7 นัดหลังแมนฯซิตี้บุกมาชนะ 6 แพ้ 1
คงได้เห็นความอึดอัดในการเล่นเกมของเรือใบสีฟ้าเมื่อ ฌอน ไดจ์ โค้ชของเบิร์นลีย์ ต้องเน้นเกมรับแน่น สองชั้นหน้าเขตโทษ รับลึกไม่เปิดโอกาสให้ทำ ขณะเดียวกันต้องใช้บอลโยนยาวเข้าหาเพื่อโจมตี เล่นเน้นเซตพีทต่างๆ
แต้มเดียวเบิร์นลีย์ก็ไม่เสียหาย ส่วนซิตี้ เสียหน้า
อย่างไรก็ตาม...การเข้าทำที่หลากหลายของเรือใบทำให้พวกเขาเอาชนะทีมรับแน่นๆมาตลอด โอกาสพลิกลอคแพ้มีแต่น้อยครับ ยังเชื่อว่าน่าจะได้สามคะแนน
แมนฯยูไนเต็ด เจอฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ซึ่งต้นซีซั่นพวกเขาโดนไป 2-1
ประเด็นคือเกมนี้เล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ พึ่งพลาดท่าโดนหงส์แดงสอย 3-0 การเล่นเกมรับคงรัดกุมขึ้น ขณะเดียวกันสภาพจิตใจนักเตะแมนฯยูฯ ดูจะล้าๆ เหนื่อยๆในการเล่นชอบกล
กล่าวคือมันขาดลูกฮึดไปแล้ว
โชเซ มูรินโญ กำลังมองว่าเสื่อมมนต์ขลังของการทำเกมรับ ขนาดเสียประตูใน 11 วินาทีแรกของเกม นั้นไม่ปรากฏมาก่อนว่าทีมมูรินโญ โดนยิงเร็วขนาดนั้น และพวกเขาคือทีมที่เล่นเกมรับดีสุดในลีก
นัดนี้ไม่ต้องคิดถึงแผนการเล่นมาก...เอาแค่ปรับสภาพจิตใจลูกทีมให้กลับมาปกติ เชื่อมั่นในตัว มูรินโญ กระตุ้นให้เล่นเพื่อชนะ ไม่งั้นโดนอันดับสามและสี่แซงได้ถ้าพลาดท่าแม้กระทั่งเสมอ
นัดนี้ แดนกลางอาจต้องใช้ อันเดร์ เอร์เรรา ลงมาช่วยงาน เนมานยา มาติช เพื่อดัน ปอล ป๊อกบา ไปข้างบน ส่วนข้างหน้า คงมีคนนั่งดูสองสามคน เพราะ ลูกากู, อเลกซิส ซานเชส ลงแน่ๆ ส่วนอีกคนลุ้นกันว่าเป็นใคร
เดวิด วากเนอร์ ของฮัดเดอร์สฟิลด์ มีแผนเดียวคือรับแน่นรอสวน และเซตพีท ตอนนี้ทีมน้องใหม่เริ่มอ่อนแรงเมื่อผ่านสองในสามระยะทาง สภาพร่างกายไม่สามารถสู้กับทีมใหญ่ได้ เรียกว่าล้า
นัดนี้ถ้าแมนฯยูฯ เล่นตามเกม ไม่เร่ง ไม่โหม นวดไปเรื่อยๆ น่าจะปิดสกอร์เก็บสามแต้มในบ้าน เผลอๆ อเลกซิส ซานเชส มียิงประตูได้เกมนี้
ปิดท้ายด้วยอาร์เซนอลที่ได้ 2 นักเตะแนวรุกใหม่มาเข้าทีม เราจะได้เห็นผลงานของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน แบบเต็มๆ แม้มีข่าวล่าสุดว่า โอบาเมยอง เป็นไข้ก็ตาม
ถ้าไม่มีชื่อแสดงว่าไข้หวัด คงต้องพัก...แต่ทีมยังมี ลากาแซตต์ ประสานงานกับ มคิทาร์ยาน และ เมซุต โอซิล แนวรุก นัดนี้ทีมเวนเกอร์ มีสถิติดีกับเอฟเวอร์ตันตลอดเวลา แค่ป้องกันลูกโยนโด่ง บอลเซตพีสของ ทอฟฟี่ ได้ก็จบ
แถมสถิติคู่นี้ ปืนใหญ่เหนือกว่าทอฟฟี่ ครับ
พวกเขาไม่แพ้เอฟเวอร์ตันในบ้านตัวเอง 11 นัดล่าสุด ชนะ 7 เสมอ 4 ที่สำคัญสถิติเฉพาะเดือนก.พ. ที่เอมิเรสต์ ยังระบุอีกว่า อาร์เซนอลไม่แพ้ใครในสนามแห่งนี้ในเดือนแห่งความรัก ชนะ 17 เสมอ 4
เอาสถิติมานี่...ข่มกันชัดๆ แต่ไม่ใช่ว่าปืนใหญ่ไม่มีข้อผิดพลาด ตอนนี้สถิติความผิดพลาดในเกมรับ เช่น ประตูเตะบอลออกมาไม่ดี กองหลังส่งพลาด กองหลังทำเสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง
รวมแล้ว 11 ลูกที่แนวรับปืนทำพลาดให้คู่แข่งได้ยิง มากสุดในบรรดา 5 ลีกดัง (เฉพาะทีมท๊อป6นะครับ)
ถ้า เวนเกอร์ ปรับแก้ตรงนี้ได้ ในสนามซ้อม วันนี้พวกเขาก็ไม่น่าพลาดในการชนะเอฟเวอร์ตัน เพราะทรงบอลพวกเขายังคงเหนือกว่าเอฟเวอร์ตันอยู่ไม่น้อย
ดูแล้วปืนใหญ่ ซึ่งลงสนามเป็นคู่สุดท้ายไม่น่าพลาดในการเก็บสามคะแนน
Jackie