อิชิอิ vs ซุน-ฮง เทียบผลงานกุนซือไทย ปะทะ เกาหลีใต้

มาซาทาดะ อิชิอิ

สัญชาติ: ญี่ปุ่น

อายุ: 57

โทรฟี่แชมป์ตอนเป็น 'ผู้เล่น'

- คาชิมะ แอนท์เลอร์ส

เจลีก (1996)

เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ (1997)

เจลีก คัพ (1997)

โทรฟี่แชมป์ตอนเป็น 'โค้ช'

- คาชิมะ แอนท์เลอร์ส

เจลีก (2016)

เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ (2016)

เจลีก คัพ (2015)

เจแปนีส ซูเปอร์ คัพ (2017)

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ไทยลีก (2021-22, 2022-23)

ไทย เอฟเอ คัพ (2021-22, 2022-23)

ไทยลีก คัพ (2021-22, 2022-23)

   เฮดโค้ชทีมชาติไทย เคยเป็นกองกลางของ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส สโมสรดังของ เจลีก ในช่วงที่ค้าแข้ง ซึ่งก็มีส่วนกับความสำเร็จของทีมกวางเขาเหล็กพอสมควรในช่วงปลายทศวรรษที่ 90' 

   อย่างไรก็ตาม อิชิอิ ไม่เคยไปไกลถึงการเป็นนักเตะทีมชาติ เนื่องจากในยุคนั้นเต็มไปด้วยมิดฟิลด์ชั้นยอดเต็มไปหมด นำโดย ฮิเดโตชิ นากาตะ, โมโตะฮิโระ ยามะกูชิ, ฮิโรชิ นานามิ, ฮิโระอากิ โมริชิมะ และคนอื่นๆ อีกมากมาย

   พอผันตัวเองสู่งานโค้ช ดูเหมือนว่าเขาจะเฉิดฉายสุดๆ เพราะนอกจากจะพา แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์ทุกแชมป์ในประเทศ พี่แกยังกลายเป็นกุนซือเอเชีย คนแรกที่พาต้นสังกัดของตนเองทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในปี 2016

   ปีนั้นถือว่าเซอร์ไพรส์มากๆ เนื่องจาก อิชิอิ งัดแผนเด็ดจนสามารถเสมอในเกม 90 นาที กับ เรอัล มาดริด จ้าวยุโรป 2-2  โดยราชันชุดขาวกำลังอยู่ในช่วงพีก เพราะมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, มาร์เชโล่, เซร์คิโอ รามอส และ คาริม เบนเซม่า อยู่ในทีม 

   แม้สุดท้ายจะปราชัยไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ก็ถือเป็นการสู้ที่สมศักดิ์ศรีจริงๆ

   อิชิอิ ย้ายมาเมืองไทย ในปี 2019 ก่อนจะปั้นนักเตะ สมุทรปราการ ซิตี้ จนติดทีมชาติไทย มากมาย กระทั่งย้ายไปประสบความสำเร็จด้วยการนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟาด 'เทรเบิ้ลแชมป์' ได้ 2 ซีซั่นซ้อน (2021-22 และ 2022-23)

   สำหรับผลงานกับทัพช้างศึก เขาเข้ามารับงานเมื่อช่วงปลายปี 2023 ก่อนเริ่มคุมทัพอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2024 และก็กำกับทีมไปได้สวยใน เอเชียน คัพ 2023 จนได้รับการต่อสัญญาอีกอย่างน้อยๆ ก็ 2 ปี

ฮวาง ซุน-ฮง

สัญชาติ: เกาหลีใต้

อายุ: 55

โทรฟี่แชมป์ตอนเป็น 'ผู้เล่น'

- โปสคอส อะตอม (โปฮัง สตีเลอร์ส)

โคเรียน เอฟเอ คัพ (1996)

โคเรียน ลีก คัพ (1993)

เอเชียน คลับ แชมเปี้ยนชิพ (1996-97, 1997-98)

โทรฟี่แชมป์ตอนเป็น 'โค้ช'

- โปฮัง สตีเลอร์ส

เคลีก (2013)

โคเรียน เอฟเอ คัพ (2012, 2013)

- เอฟซี โซล 

เคลีก (2016)

- เกาหลีใต้ ยู-23

เอเชียนเกมส์ (2022)

   โปรไฟล์ของ ซุน-ฮง นั้นจัดว่าไฉไลมากๆ ทั้งตอนเป็นนักเตะที่รั้งเจ้าของสถิตินักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นลำดับ 2 (50 ประตู จาก 103 เกม) และเปลี่ยนบทบาทสู่การเป็นเฮดโค้ชก็ยังพาต้นสังกัดคว้าแชมป์แบบนันสต็อป 

   เขาเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรมหาวิทยาลัย แต่ก็ติดทัพโสมขาวไปตะลุย เอเชียน คัพ 1988 (ตอนนั้นอายุเพียง 20 ปี) ต่อด้วย เวิลด์ คัพ 1990 กระทั่งได้ย้ายไปเล่นในลีกเยอรมัน กับ เลเวอร์คูเซ่น แม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ประสบการณ์ที่ได้ ก็นำมาต่อยอดที่บ้านเกิดอย่างมากมาย

   ซุน-ฮง กลับมาค้าแข้งที่เกาหลีใต้ ในปี 1993 ก่อนจะพา โปสโก อะตอมส์ (โปฮัง สตีเลอร์ส ในปัจจุบัน) ฟาดแชมป์ เอเชียน คลับ แชมเปี้ยนชิพ (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน) ได้ถึง 2 สมัย รวมทั้งยังได้ไปเล่นที่ เจลีก พร้อมกับยิงกระจุยจนเป็น 'ดาวซัลโว' ในซีซั่น 1999

   ขณะที่ผลงานในตอนเป็นกุนซือ เขานำ ปูซาน ไอพาร์ค ซึ่งหลับใหลมาแสนนานทะยานเข้าชิงฟุตบอลถ้วยในประเทศ 2 ปี ติดต่อกัน กระทั่งได้ไปสานต่อความสำเร็จกับ โปฮัง สตีเลอร์ส และ เอฟซี โซล ที่ได้แชมป์ เคลีก สโมสรละ 1 สมัย

   นอกจากนี้ผลงานสดๆ ร้อนๆ ของ ซุน-ฮง คือการนำเกาหลีใต้ ชุดยู-23 ผงาดคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ 2022 โดยรอบแรกถล่มไทย ไปเละเทะ 4-0 

   ด้วยความที่ทีมโสมขาวล้มเหลวจาก เอเชียน คัพ 2023 ทำให้ต้องแยกทางกับ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ไปเมื่อต้นปี 2024 และเหตุนี้เอง ตำนานศูนย์หน้าของชาติจึงได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาสานงานต่อ โดยมีทัพช้างศึกเป็นคู่แข่งรายแรกนั่นเอง