การท่าเรือแห่งประเทศไทย ต่อ MOU การท่าเรือ เอฟซี-วางเป้าเป็นแชมป์ไทยลีก

 เมื่อวันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุม ชั้น 19 อาคารสำนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้มีการแถลงข่าว การท่าเรือแห่งประเทศไทยลงนามรับมอบ MOU กับ บริษัทการท่าเรือ เอฟซี  จำกัด ต่อไปอีก 5 ปี คุณเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย  เผยว่า“ในฐานะผู้นำองค์กร ผมอยากเรียนว่า นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากเลยสำหรับเรา เพราะที่ผ่านมา ผู้บริหารสโมสร การท่าเรือ เอฟซี ตั้งแต่ คุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทให้สโมสรแห่งนี้มาโดยตลอด นอกจากเข้ามายกระดับทีม จากผลงานที่เห็นในสนามแล้ว ยังเปลี่ยนภาพลักษณ์สโมสรแห่งนี้ ให้เป็นหนึ่งในทีมที่มีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ และ ดึงดูด แฟนฟุตบอลทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติ มากที่สุด รวมถึง เรายังมีแนวคิด และ วิสัยทัศน์การทำงานที่ตรงกัน นั่นคือ เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนอกสนามด้วย และ หลังจากนี้ เราก็ยังมีแผนความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย เพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสร"

 ฝั่ง เฉลิมโชค ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า“เฉลิมโชค ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า "ผู้บริหาร การท่าเรือ เอฟซี และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เรามีความผูกพันกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ คุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) เข้ามาเป็นประธานสโมสร เมื่อปี 2558 นี่ถือเป็นปีที่ 9 แล้ว ที่เรามีโอกาสเข้ามาบริหารสโมสรแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นเกียรติสำหรับเรา เพราะ การท่าเรือ เอฟซี เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่มากที่สุดของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์ มีตำนาน และ เป็นหนึ่งในสโมสร ที่ผลิตนักกีฬา สู่ ทีมชาติไทย มากที่สุด" 

 "ในฐานะที่ผม เข้ามาเป็นประธานสโมสรแทน คุณแป้ง ต้องยอมรับว่า ไม่ง่าย และ กดดันอยู่บ้าง เพราะสิ่งที่ คุณแป้ง ปูรากฐาน ทุ่มเท และ ทำไว้ให้กับสโมสรแห่งนี้ คงเป็นเรื่องยากที่ประธาน สโมสรคนไหน จะทำได้ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อพาสโมสรแห่งนี้ ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการไปถึงตำแหน่งแชมป์ไทยลีกในสักวัน ที่สำคัญ ต้องขอบคุณ การท่าเรือแห่งประเทศไทย โดย คุณเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย  ที่ให้โอกาส และ ไว้วางใจให้เราทำหน้าที่บริหารทีมต่อไป อีก 5 ปี"

 สุดท้าย สาระ ล่ำซำ  ประธานกิตติมศักดิ์ การท่าเรือ กล่าวว่า "กราบสวัสดีทุกท่านครับ ก่อนอื่นผมเชื่อว่านี่เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในหน้าประวัติ ศาสตร์ของ สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ผมมีความรู้สึกไม่ต่างจากทุกท่านที่อยู่ ตรงนี้ คือ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ วันนี้ สโมสรการท่าเรือ เอฟซี และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะได้ต่อยอด และ เดินหน้าพัฒนาสโมสร แห่งนี้ร่วมกันต่อไป ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องในสนามเท่านั้น แต่ยังรวม ถึงเรื่องนอกสนาม ที่มีความสำคัญมาก ที่สุดเช่นกัน"

 อาทิ การทำ CSR (กิจกรรมเพื่อสังคม) ต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้คน และ ชุมชนในพื้นที่คลองเตย การเปิดคลินิคฟุตบอล และ การให้โอกาสเยาวชนในพื้นที่เข้าสู่อะคาเดมี่ของสโมสร รวมถึง ในช่วงที่ คุณ แป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) เป็นประธานสโมสรฯ มีการจับมือ เป็นพันธมิตรร่วมกับสโมสรในต่างประเทศ เพื่อยกระดับทีมแบบรอบด้าน ทั้งที่ประเทศ สเปน กับสโมสร เลบันเต้ อูเด และ ที่ประเทศญี่ปุ่น กับ สโมสร อวิสป้า ฟุกุโอกะ หรือแม้แต่ ส่งนักกีฬา ไปฝึกซ้อมฟุตบอล กับ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ถึงประเทศ อังกฤษ ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว

 ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า สโมสรการท่าเรือ เอฟซี และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีแนวคิด มี วิสัยทัศน์ การทำงานที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ดังนั้น 5 ปีต่อจากนี้ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า สโมสรการ ท่าเรือ เอฟซี จะเดินหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงและแข็งแรง ภายใต้การบริหารของคุณเฉลิมโชค ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี คนปัจจุบัน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของอดีตท่านประธานสโมสรคุณแป้ง ที่มี DNA ไม่ต่างกัน คือ เรื่องการไม่ยอมแพ้ และ จะไม่ยอมแพ้ จนกว่าจะไปถึงแชมป์ไทยลีก ให้ได้ในสักวันหนึ่ง"